“หลวงพ่ออ่ำ เกสโร” วัดหนองกะบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งแห่งภาคตะวันออก มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมา คือ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี, หลวงพ่อลัด วัดหนองกะบอก จ.ระยอง

สร้างเครื่องรางของขลังรูปแพะจนมี ชื่อเสียง 

มีนามเดิม อ่ำ คงจำรูญ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 เม.ย.2408 ที่บ้านหนองสะพาน ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ในวัยเด็ก ชอบฟังเทศน์ ติดตามบิดา-มารดาเข้าวัดเป็นประจำ เมื่อเติบโตขึ้นมีความสนใจในเรื่องการสวดมนต์และฟังเทศน์ แสดงความสนใจในการอุปสมบท มักสอบถามบิดามารดาว่า การจะเป็นพระสงฆ์นั้นทำอย่างไร 

อีกทั้งปรารภกับพี่น้องในครอบครัวเดียวกันว่า “หากข้ามีอายุครบบวชเมื่อใดข้าจะบวชบวชแล้วจะไม่สึกจนตายอยู่ในผ้าเหลืองนั่นแหละ”

ครั้นอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัด ทับมา ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง มีหลวงปู่ขาว วัดทับมา เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย เป็นพระคู่สวด มีนามฉายาว่า “เกสโร”

ภายหลังอุปสมบทจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกะบอก ก่อนเดินทางออกไปเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์

ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน ที่วัดบางเหี้ย ขอเรียนวิชาสร้างเสือแกะจากเขี้ยวเสือ จากหลวงพ่อปาน

แต่หลวงพ่อปานเรียกไปพบเป็นการ ส่วนตัวบอกว่าหลวงปู่อ่ำไร้วาสนาทางสร้างเสือมหาอำนาจ แต่ท่านจะสอนวิชาสร้างแพะ แกะจากเขาควายเผือกฟ้าผ่าตาย อันเป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังให้แทน

เมื่อกลับมาที่วัดหนองกะบอก อยู่จำพรรษาจนถึงสมัยหลวงพ่อยอด เจ้าอาวาสรูปที่ 5 เริ่มงานสร้างอุโบสถวัดหนองกะบอก แต่แล้วหลวงพ่อยอดกลับมาอาพาธจนไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสต่อไปได้ จึงลาสิกขาออกไปรักษาตัว ตำแหน่งเจ้าอาวาสจึงว่างลง คณะสงฆ์จึงประชุมชาวบ้านหนองกะบอก มีมติให้หลวงปู่อ่ำดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทน

หลวงปู่อ่ำรับตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2440 เป็นต้นมา 

เวลานั้นอุโบสถเพิ่งเริ่มงานสร้าง เสนาสนะกุฏิสงฆ์จำพรรษาชำรุดทรุดโทรม ทุกอย่าง ต้องใช้เงินในการดำเนินการเป็นจำนวนมาก หลวงปู่อ่ำจึงต้องสร้างแพะเพื่อสมนาคุณแก่ ผู้สละทรัพย์ในการสร้างอุโบสถ และบูรณปฏิสังขรณ์วัดหนองกะบอก เพื่อฉลองศรัทธาต่อมาจึงสามารถสร้างศาลาการเปรียญและโรงเรียนประชาบาล ด้วยการสร้างแพะสมนาคุณกับญาติโยมในเวลาต่อมา

หลวงปู่อ่ำ เป็นพระที่พูดน้อยแบบถามคำตอบคำ ไม่โอ้อวดวิทยาคม แต่ไม่ปฏิเสธหากมีผู้มาขอความช่วยเหลือ หลวงปู่สั่งสอนให้ศิษย์ทุกคนบูชาพระอรหันต์ประจำชีวิต คือ บิดา-มารดา ให้ดีที่สุดก่อนจึงค่อยบูชาพระรัตนตรัย เพราะบิดา-มารดาเป็นพระอรหันต์ประจำชีวิตของลูกทุกคน

ด้วยศีลาจารวัตรงดงามครองจีวรเป็นระเบียบ ทำให้ชาวบ้านหนองกะบอกให้ความเลื่อมใสศรัทธา

ชาวบ้านใน จ.ระยอง และใกล้เคียง นิยมเรียกขานท่านว่า “หลวงปู่อ่ำ เรือเก่า” จนติดปาก แม้แต่ในภาพถ่ายประจำวัดก็ยังจารึกนามของท่านว่า “พระครูเทพสิทธิการ (หลวงปู่อ่ำ เรือเก่า)”

มีเรื่องเล่าว่า … มีสองตายายนำเรือเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาขึ้นคานติดประกาศขายไว้หน้าบ้านในราคาที่ถูก เพื่อจะเอาเงินที่ได้มาเลี้ยงชีวิตยามแก่ เวลาผ่านไปไม่มีใครมาแวะดูเรือเก่าของสองตายาย

สองตายายรู้สึกวิตกเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกว่าไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้ว วันหนึ่งเมื่อใส่บาตรหลวงปู่อ่ำเสร็จแล้ว ยายจึงยกมือพนมไหว้ บอกให้รู้ถึงความทุกข์ในใจ

“หลวงพ่ออ่ำเจ้าขา อิฉันประกาศขายเรือเก่ามาปีหนึ่งแล้วไม่มีใครใส่ใจดู เดินผ่านไปผ่านมาไปซื้อเรือใหม่กันหมด อิฉันต้องการให้หลวงพ่อช่วยให้อิฉันขายเรือเก่าลำนี้ได้ด้วยเถิดเจ้าข้า เงินที่ได้มาอิฉันกับตาจะได้เลี้ยงชีวิตจนกว่าจะตาย” 

หลวงปู่อ่ำเดินไปที่เรือเก่าใช้มือลูบหัวเรือไปมาก่อนจะถอยออกมายืนบริกรรมอยู่ด้านหน้าเรือแล้วบอกกับสองตายายว่า “ในเจ็ดวันนี่แหละเรือนี้จะขายได้”

ปรากฏว่า มีผู้มาซื้อเรือตามที่หลวงปู่อ่ำลั่นปากไว้

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนต่างถวายฉายาเป็น “หลวงปู่อ่ำ เรือเก่า” 

มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.2495 สิริอายุรวม 87 ปี พรรษา 66