Search this site
Embedded Files
โรงเรียนหมู่ห้าสามัคคี
  • หน้าแรก
  • ประวัติสถานศึกษา
  • ข้อมูลโรงเรียน
  • อำนาจหน้าที่
  • ปรัชญา เอกลักษณ์ อัตลักษณ์โรงเรียน
  • ที่ตั้ง / แผนที่
  • โครงสร้างสถานศึกษา
  • ข้อมูลนักเรียน
  • ผลงานโรงเรียน/นักเรียน/คณะครู
  • มาตราการความปลอดภัย
  • แผนยุทธศาสตร์หรือแผนพัฒนา
  • โรงเรียนคุณธรรม สพฐ
  • มาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้
  • ระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษ
  • ข้อมูลพื้นฐาน
    • ข้อมูลผู้บริหาร
    • ข้อมูลการติดต่อ
    • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • การปฏิสัมพันธ์ข้อมูล
    • ถาม ตอบ
    • Social Network
    • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • แผนปฎิบัติราชการประจำปี
  • รายงานผลกำกับติดตามการดำเนินงาน รายภาคเรียน
  • รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
  • ข้อมูลบริหารงบประมาณ
    • แผนและความก้าวหน้าในการดำเนินงานและการใช้งบประมาณ
    • รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
  • ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
    • คู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน
  • ข้อมูลการให้บริการ
    • คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการ
    • ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ
    • E-Service
  • ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง
    • รายการการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ
    • ประกาศต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง
    • ความก้าวหน้าการจัดซื้อจัดจ้าง
    • รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้าง
  • การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
    • นโยบายการบริหารทรัพยากรมนุษย์
    • รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
  • ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
    • ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
    • การขับเคลื่อนจริยธรรม
  • การจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตฯ
    • แนวปฏิบัติฯ
    • ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตฯ
    • ข้อมูลเชิงสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริตฯ
  • การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
    • การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
  • การขับเคลื่อนนโยบาย No gift
    • ประกาศเจตนารมณ์นโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่
    • การสร้างวัฒนธรรม No Gift Policy
    • รายงานผลตามนโยบาย No Gift Policy
    • รายงานการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา
  • การประเมินความเสี่ยงเพื่อป้องกันการทุจริต
    • การประเมินความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบ
    • รายงานผลการดำเนินการเพื่อจัดการความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบ
  • แผนป้องกันการทุจริต
    • แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
    • รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริต
  • มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสฯ
    • มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใส
    • การดำเนินการตามมาตรการ
  • สมุดเยี่ยม / แสดงความคิดเห็น
  • ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียน / ร้องทุกข์ทั่วไป
  • ถาม ตอบ
  • ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
  • กระดานสนทนา
โรงเรียนหมู่ห้าสามัคคี

คู่มือและเอกสารโรงเรียนคุณธรรม สพฐ 

คู่มือค่ายยุวชนคนคุณธรรม คู่มือโครงงานพัฒนาจริยคุณ
คู่มือการผลิตนวัตกรรม สร้างสรรค์คนดี คู่มือโรงเรียนดีต้องมีที่ยืน
คู่มือคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน   คู่มือกิจกรรมครอบครัวคุณธรรม
คู่มือภาพยนต์สั้นคุณธรรม คู่มือ10,000 คุรุชน คนคุณธรรม
คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัด     คู่มือการนิเทศ กำกับ ติดตาม
คู่มือการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมโรงเรียนคุณธรรม สพฐ

การดำเนินงานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.

ที่มาโครงการโรงเรียนคุณธรรม 

     โครงการโรงเรียนคุณธรรมเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 อันเป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการพระราชดำริโครงการสุดท้ายที่พระองค์ให้ก่อตั้งขึ้นขณะที่ทรงพระประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมที่เสริมสร้างคุณธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแก่เยาวชนอย่างยั่งยืน  สนับสนุนกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและเด็ก รวมถึงสนับสนุนการเสริมสร้างเกียรติยศศักดิ์ศรี และอุดมการณ์ของครู เพื่อให้ครูเป็นแบบอย่างที่ดีในการขับเคลื่อนของมูลนิธิยุวสถิรคุณนั้นจะเป็นการดำเนินงานควบคู่กันไปเพื่อเป็นหัวใจหลักของมูลนิธิ
    ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี อดีตปลัดทบวงมหาวิทยาลัย ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิยุวสถิรคุณ ผู้รับผิดชอบโครงการโรงเรียนคุณธรรม กล่าวว่า โรงเรียนคุณธรรมได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 สืบเนื่องมาจากการที่โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม จ.พิจิตร ได้นำหลักคุณธรรมมาใช้แก้ปัญหายาเสพติด นักเรียนมีผลการเรียนต่ำ รวมทั้งการตั้งครรภ์ของเด็กนักเรียนหญิง และเมื่อประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา จึงได้กลายเป็นรูปแบบ (Model) ในการนำไปแก้ไขปัญหาในโรงเรียนอื่นๆ อีก 19 แห่ง
    จากนั้นในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งถือเป็นระยะที่ 1 ของการสร้างโรงเรียนคุณธรรม โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อตั้งกองทุนการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ  “สร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง” ในครั้งนั้นมีคณะองคมนตรี ข้าราชการเกษียณ และอาสาสมัครเข้ามาช่วยกันสร้างรูปแบบโรงเรียนคุณธรรม
    ต่อมาระยะที่ 2 (ปี พ.ศ. 2557) สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ก่อตั้งมูลนิธิยุวสถิรคุณ เพื่อดำเนินงานโครงการโรงเรียนคุณธรรมเรื่อยมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2559 นี้ ถือเป็นระยะที่ 3 ของการสร้างโรงเรียนคุณธรรม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายขยายแนวทางการสร้างโรงเรียนคุณธรรมให้กับสถานศึกษาทั่วประเทศ
    ในส่วนของรูปแบบของโรงเรียนคุณธรรมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนและทำได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณเพราะลงทุนต่ำแต่ได้กำไรมาก และสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนได้จริง โดยหลักการของโรงเรียนคุณธรรมสามารถนำไปใช้ได้กับโรงเรียนในทุกศาสนา ไม่ผูกขาดกับศาสนาใดศาสนาหนึ่ง เปรียบเสมือนเป็นคุณธรรมสากล
    ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการโรงเรียนคุณธรรมแล้ว 1 ปี จะต้องทำการวัดผลการดำเนินงานว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในโรงเรียน “ลดลง” หรือไม่ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ “เพิ่มขึ้น” อย่างไร ซึ่งอาจจะจัดให้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานของแต่ละโรงเรียนด้วย และจากการดำเนินงานที่ผ่านมาผลการเรียนและผลการสอบของนักเรียนในโรงเรียนคุณธรรมดีขึ้น ทำให้เกิดประโยชน์แก่เยาวชน ผู้ปกครอง และชุมชน
    นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น โรงเรียนคุณธรรมจะต้องมีคุณภาพด้วย เพื่อให้ทุกคนในโรงเรียนและชุมชนมีความสุขทั้งกายและใจ โดยจะต้องนำระบบธรรมาภิบาล และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ สำหรับกระทรวงศึกษาธิการนั้น ต้องคำนึงถึงระบบการบริหารงานที่เน้นความโปร่งใส (Transparency), ตรวจสอบได้ (Audit), มีการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) และหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict Interest) เพื่อให้การดำเนินงานก้าวหน้าต่อไปในอนาคตได้
    ทางด้าน ปราโมทย์ โชติมงคล ผู้อำนวยการศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวสถิรคุณ อดีตรองปลัดทบวงมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพครูให้สามารถคิดค้นกลวิธี เครื่องมือ นวัตกรรมการเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการความรู้คู่ความดีได้ รวมทั้งเป็นต้นแบบที่ดีงามให้กับนักเรียน เพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม นักเรียนแบบองค์รวม โดยพัฒนากระบวนการคิดเชิงระบบ และใช้โครงงานคุณธรรมเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ความดีความงามการลงมือปฏิบัติ เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน
    ดำเนินงานเพื่อปฏิรูปการศึกษาตามแนวพระราชกระแสฯ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ”ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู อันสอดคล้องกับงานวิจัยการพัฒนาการศึกษาระดับโลก มีเป้าหมายให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่นในครูและระบบการศึกษาไทย โดยทำหน้าที่กระตุ้นและผลักดันให้ทุกภาคส่วนของสังคมปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาการศึกษาให้เป็นหัวใจของการศึกษา”
    ในส่วนของ รศ.ปภัสวดี วีรกิตติ รองผู้อำนวยการศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวสถิรคุณ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารย์ได้เล่าถึงที่มาของโครงการโรงเรียนคุณธรรมว่า เดิมทีเริ่มมาจากการที่ นพ.เกษม และคุณปราโมทย์ ท่านกลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าที่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร และพบว่าเด็กที่โรงเรียนมีปัญหาติดยาบ้างหรือมีเด็กนักเรียนตั้งครรภ์บ้าง ท่านก็ไม่สบายใจจึงพยายามช่วยหาทางแก้ไข เพราะทั้งสองท่านเคยอยู่ทบวงมหาวิทยาลัยมาก่อน เข้าใจเรื่องระบบการศึกษาดีมาก ท่านก็เลยคิดเอาเรื่องคุณธรรมไปช่วยแก้ไข หลังจากนำเรื่องคุณธรรมเข้าไปช่วยแล้วได้ผล ก็ทราบถึงประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านก็นำมากราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า นพ.เกษม กับคุณปราโมทย์ นำเรื่องคุณธรรมไปช่วยแก้ปัญหาที่โรงเรียนเก่าแล้วได้ผล
    “ในหลวงท่านก็ทรงสนพระทัยว่าแก้ปัญหากันอย่างไรเรียกให้ นพ.เกษม มารายงานว่าทำอย่างไรบ้าง และพระองค์ท่านก็พระราชทานเงินส่วนพระองค์จำนวน 500 ล้านบาท ให้ไปดำเนินงานเรื่องนี้ต่อ มอบหมายให้ นพ.เกษม ช่วยดูแลโครงการ โดยให้ทำกับโรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งโครงการก็เริ่มมาประมาณ 3 ปี มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศแล้วเกือบ 3,300 โรงเรียน และจะพยายามขยายไปให้ครบ 30,000 กว่าโรงเรียนทั่วประเทศ” รศ.ปภัสวดี  เล่าถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ
    หลังจากที่เริ่มโครงการโรงเรียนคุณธรรมมาเกือบ 3 ปี เท่าที่ประเมินผลมาก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เช่น บางโรงเรียนในกรุงเทพฯ ที่เด็กมีปัญหาเรื่องแต่งตัวเกินเด็กมากเกินไป มีปัญหาด้านชู้สาว ของหายไม่ได้คืน หลังจากนำปัญหามาแก้ไขร่วมกันในโรงเรียนก็ปัญหาลดลง กระเป๋าเงินหายได้คืน อย่างนี้ เป็นต้น
    นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์จิตวิทยาการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เป้าหมายหลักในการทำงานของมูลนิธิก็คือ ทำอย่างไรให้เด็กพร้อมที่จะเรียนรู้ และทำอย่างไรให้ครูพร้อมที่จะสอน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง หรือ Deep Learning เกิดขึ้น แต่ปัจจุบันเด็กไทยใช้การท่องจำทำให้ไม่นานก็ลืม แต่การเรียนรู้ที่ดีจะต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดรวมถึงในเรื่องของจิตใจด้วย โดยเราพบว่ากิจกรรมอะไรก็ตามที่เรียนแล้ว ใช้สัมผัสยิ่งมากขึ้นเท่าไร ก็จะมีโอกาสที่จะฝังอยู่ในจิตสำนึกเรามากขึ้นเท่านั้น การเรียนรู้อย่างลึกซึ้งจึงจะเกิดขึ้น
    รูปแบบของโรงเรียนคุณธรรมนั้น เป็นรูปแบบที่ดำเนินการได้ง่าย กล่าวคือ ทุกโรงเรียนสามารถนำรูปแบบโรงเรียนคุณธรรมนี้ไปใช้ได้ และสามารถใช้ได้กับโรงเรียนในทุกศาสนา อีกทั้งยังส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และนักเรียน โดยเริ่มจากการระดมความคิดเพื่อกำหนดแนวทางไว้ 2 บัญชี คือ บัญชี ก. พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งทุกคนต้องการลด ละ เลิก และบัญชี ข. พฤติกรรมที่พึงประสงค์ ซึ่งทุกคนจะร่วมกันส่งเสริมให้เกิดขึ้น แล้วจึงกำหนดคุณธรรมหลัก 3 ประการ เพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมในบัญชี ก. พร้อมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมบัญชี ข. จากนั้นจะมีการประเมินผลหลังดำเนินการครบ 1 ปี ซึ่งได้พิสูจน์มาแล้วว่าเป็นการดำเนินการที่สามารถทำได้และได้ผลดี อีกทั้งยังส่งผลให้องค์กรต่างๆ ที่ไม่ใช่โรงเรียนเกิดความสนใจและนำหลักการของโรงเรียนคุณธรรมไปปรับใช้ เช่น โรงพยาบาลคุณธรรม จังหวัดคุณธรรม อำเภอคุณธรรม เป็นต้น

ที่มา: เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 5 พ.ย. 2559 

โรงเรียนคุณธรรม สพฐ

     โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เป็นการดำเนินงานเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) ดำเนินงานตามนโยบายภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษาสำหรับเยาวชนส่วนใหญ่ของประเทศให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพอีกทั้งรับผิดชอบในการจัดการศึกษาเพื่อให้เยาวชนทุกคน มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข

       รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) ได้กล่าวถึงศาสตร์พระราชาซึ่งเป็นศาสตร์ที่ครอบคลุม เรื่องเอกลักษณ์ของชนชาติไทย เช่น การอ่อนน้อมถ่อมตน การเป็นสุภาพชนความขยันหมั่นเพียร การซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นคุณงามความดีของคนไทยที่บรรพชนไทยได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา ศาสตร์พระราชาให้ข้อคิดการประพฤติปฏิบัติตนไว้ว่า อย่าคบคนด้วยฐานะ คบคนด้วยความดีมีมิตรภาพด้วยความรักความผูกพัน และขอให้มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดาผู้มีพระคุณ ประเทศชาติและพระมหากษัตริย์ ถ้าทุกคนปฏิบัติตนตามศาสตร์ของพระราชาแล้วก็จะเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ประเทศก็จะมีแต่คนดีและทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อมุ่งให้เกิดภูมิคุ้มกันและมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเกิดความสมดุล และยั่งยืน แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้พระราชทานไว้กว่า 40 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนชาวไทยนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและครอบครัวให้มีภูมิคุ้มกันที่มั่นคงในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข จึงนับได้ว่า“ศาสตร์พระราชา”เป็นเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่แผ่นดินไทย ซึ่งล้วนมุ่งให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตนเป็น “คนดี” ทั้งคิดดี พูดดี ทำดี ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม สุจริต มีวินัย และมีความสามัคคีซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป

          นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระราชกระแสรับสั่งต่อประชาชนชาวไทยให้ “ช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมือง” พร้อมทั้งพระราชทานหลัก 3 ประการที่เกี่ยวกับครูและนักเรียนไว้ว่า

          “ให้ครูรักเด็ก เด็กรักครู”

          “ให้ครูสอนให้เด็กมีน้ำใจต่อเพื่อนไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเองและให้เด็กที่เรียนเก่งช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า”

          “ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกันเพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”

       จากพระราชกระแสรับสั่งข้างต้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท ด้านการศึกษาเพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ดังนี้

           1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง

           2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม

           3. มีงานทำ-มีอาชีพ

           4. เป็นพลเมืองดี

       เพื่อเป็นการสืบสานศาสตร์พระราชา และสนองพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และพระบรมราโชวาทด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงจัดทำโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ขึ้น เพื่อมุ่งปลูกฝังให้ผู้บริหาร ครู นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการปลูกฝังคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่
    1) พอเพียง
2) กตัญญู
3) ซื่อสัตย์สุจริต
4) ความรับผิดชอบ
5) อุดมการณ์คุณธรรม
    โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ให้แต่ละสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา คัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการคุณธรรม สพฐ. อย่างน้อยร้อยละ 35 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โรงเรียนทุกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการคุณธรรม สพฐ. และมีการขยายผลมาจนถึงปัจจุบัน 

ที่มา: เว็บไซต์โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 

โรงเรียนหมู่ห้าสามัคคีตำบลบ้านแก่ง อำเภอตรอน  จังหวัดอุตรดิตถ์ 53140สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการโทรศัพท์/โทรสาร   055-825585  e-mail moohasc57@gmail.com
Report abuse
Page details
Page updated
Report abuse