สนใจเรียนสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ (DTB) Click สมัครได้เลย
สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ
สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เริ่มเปิดให้บริการหลักสูตรใหม่ ในปี พ.ศ. 2555 และมีการปรับปรุงหลักสูตร ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2560 ในปี พ.ศ. 2565 สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากชื่อสาขาวิชาเดิมเป็น สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ พร้อมกับปรับปรุงหลักสูตร พ.ศ. 2565 สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ อยู่ภายใตการกำกับดูแลคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ชื่อหลักสูตร ภาษาไทย บริหารธุรกิจบัณฑิต บธ.บ. (เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ) และชื่อ Bachelor of Business Administration B.B.A. (Digital Technology for Business) รูปแบบหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 123 หน่วยกิต หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเฉพาะของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ปัจจุบันสาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ผลิตบัณฑิต จำนวน 106 คน เป็นนักศึกษาที่อยู่ในจังหวัดนราธิวาส 87.5% จังหวัดปัตตานี 10.9% และจังหวัดยะลา 1.6% มีบัณฑิตที่ได้งานทำแล้ว จำนวน 84% บัณฑิตงานทำแบ่งออกเป็นแต่ละประเภทดังต่อไปนี้ ทำงานในหน่วยงานรัฐ 18.4% ทำงานในรัฐวิสาหกิจ 4.1% ทำงานในบริษัทเอกชน 51% ทำงานในร้านค้า 16.3% ประกอบธุรกิจส่วนตัว 2.0% และอื่นๆ 7.6% บัณฑิตงานทำแบ่งออกเป็นแต่ละพื้นที่ นราธิวาส 64% ยะลา 5.1% ปัตตานี 7.7% พัทลุง 2.6% สงขลา 7.7% และกรุงเทพ 12.8% แก้ไขข้อมูลวันที่ 5-10-64
สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ หลักสุตรบริหารธุรกิจบัณฑิต บธ.บ. (เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ) เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาศให้ประชาชนทั่วไป มีความรู้ความสามารถเท่าทันด้านเทคโนโลยีดิจิทัลปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้มีโอกาศที่เท่าเทียมด้านการศึกษา และการมีงานทำในอนาตคต่อไป
สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ ผลิตบัณฑิตสอดคล้องกับแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งเป็นแผนแม่บทหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ ระยะ 20 ปี ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โอกาสและภัยคุกคามทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดังนั้นการบริหารจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจที่เหมาะสมผสมผสานกับจุดแข็งในสังคมไทย ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีเป้าหมายให้ “คนไทยมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง” โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยทุกช่วงวัยให้มีภูมิคุ้มกันเพื่อเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเสริมสร้างศักยภาพของคนในทุกมิติให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีสติปัญญาที่รอบรู้ และมีจิตใจที่สำนึกในคุณธรรม จริยธรรม มีความเพียร และรู้คุณค่าความเป็นไทย มีโอกาสและสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิต ควบคู่กับการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในสังคมและสถาบันทางสังคมให้เข้มแข็งและเอื้อต่อการพัฒนาคน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็งและสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในสังคม จากเป้าหมายยุทธศาสตร์ดังกล่าวทำให้สถาบันอุดมศึกษา ในประเทศไทยต่างมุ่งเน้นสร้างหลักสูตรที่สอดคล้องตามยุทธศาสตร์กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และตอบสนองความต้องการของชุมชนและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบันและอนาคตทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จะต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องและระบบสารสนเทศที่มีคุณภาพสามารถอำนวยความสะดวกและเพิ่มศักยภาพด้านวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ ความปลอดภัยข้อมูล พัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน มัลติมีเดียดีไซน์ ออกแบบ UX/UI ออกแบบคอนเทนต์ สื่อสารเนื้อหาคอนเทนต์ให้กับองค์กร ซึ่งต้องใช้บุคลากรทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีคุณภาพเป็นจำนวนมาก
ในทศวรรษหน้า มีการคาดการณ์จากสำนักวิจัยต่างๆว่าจะเกิดยุคอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Cure) เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจและผู้นำประเทศที่มองการณ์ไกล ผลของการปฏิวัติภาคการผลิตของ ASEAN จะเพิ่มความสามารถในการผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาคให้มีมากขึ้น ในขณะที่ลดอัตราการว่างงานลงและจะสร้างงานที่มีค่าจ้างสูงขึ้น ดังนั้น การวางยุทธศาสตร์ด้านการให้บริการทางดิจิทัล (Digital service) จึงมีความสำคัญยิ่งในเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย เพื่อฉกฉวยโอกาสใหม่นี้ให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งในด้านเศรษฐกิจและ สังคมอย่างยั่งยืน การใช้ศักยภาพทางดิจิทัล (Digitization) จะช่วยขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าเศรษฐกิจของประเทศไทย ในขณะที่ความสามารถของคอมพิวเตอร์ที่ก้าวหน้าขึ้นจะช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล (Big Data) ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโลจิสติกส์ และการขาย โดยในอนาคต โรงงานต่างๆจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าในปัจจุบันในเชิงของการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ มีความเฉพาะสำหรับบุคคลและมีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้
อุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามพลวัตรของเทคโนโลยี และขยายมาจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เดิม และสำหรับการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในครั้งนี้ เป็น “อุตสาหกรรมการผลิต และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลหรือการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล” แบ่งออกเป็น 5 สาขา ได้แก่ กลุ่มฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware & Smart Device), กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software), กลุ่มอุตสาหกรรมด้านการสื่อสาร (Communications), กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service) และ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content)
เป้าหมายหลังจากสำเร็จการศึกษาบัณฑิตสามารถประกอบวิชาชีพอาชีพทั่วไปและอาชีพที่มีความเกี่ยวข้องกับด้านบริหาร นอกจากนี้บัณฑิตสามารถประกอบอาชีพเฉพาะทางได้ดังต่อไปนี้ อาทิเช่น นักวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ (Business Data Analyst), นักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน (Application Developer), นักออกแบบมัลติมีเดีย (Multimedia Designer), นักออกแบบ UX/UI (UX/UI Designer), นักจัดการคอนเทนต์ (Content Manager), นักจัดการโซเซียลมีเดีย (Social Media Manager), ผู้ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Entrepreneur), นักวิชาการคอมพิวเตอร์ (Computer Technical Officer) , ธุรกิจส่วนตัว (Personal Business)