บึงหล่ม เป็นแหล่งท่องเทียวที่สวยงามแบบธรรมชาติ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 7,000 ไร่ อยู่ในท้องที่ สองอำเภอ คือ บ้านแหลมทอง ตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และ บ้านนาอิน ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
บึงหล่ม เป็นแหล่งท่องเทียวที่สวยงามแบบธรรมชาติ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 7,000 ไร่ อยู่ในท้องที่ สองอำเภอ คือ บ้านแหลมทอง ตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และ บ้านนาอิน ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
บึงหล่มเป็นสถานที่หนึ่งที่อยู่ในบริเวณติดต่อกับแหลมทอง ตำบลดงประคำ และบ้านนาอิน อำเภอพิชัย ซึ่งแต่ก่อนบึงหล่มได้เรียกกันว่า ”บึงล่ม” สาเหตุที่เรียกกันว่าบึงล่มเพราะ ในสมัยก่อนมีเรื่องเล่ากันว่าบึงหล่มเป็นเมืองเก่าเมืองหนึ่งซึ่งมีพระมหากษัตริย์ปกครองอยู่และมีเจ้าชายปกครองเมืองอยู่ด้วยวันหนึ่งเจ้าชายของบึงหล่มได้ลงไปอาบน้ำเหมือนทุกๆวันในขณะที่กำลังอาบน้ำอยู่สายตาเหลือบไปเห็นดอกบัว 2 ดอก เจ้าชายก็แปลกใจเพราะบริเวณนั้นไม่เคยมีป่าบัวเลย ดอกบัวที่โผล่ขึ้นมานั้นเป็นดอกบัวบานและดอกบัวตูมที่มีความงดงามมาก แต่เมื่อเจ้าชายพิจารนาแล้วก็คิดว่าดอกบัวบานนั้นงดงามกว่าดอกบัวตูม เจ้าชายจึงเด็ดดอกบัวและนำดอกบัวบานที่คิดว่างดงามมากกว่าดอกบัวตูมให้กับภรรยา ส่วนบัวตูมนั้นให้กับมารดา เมื่อกาลเวลาผ่านไปกลีบดอกบัวบานก็เริ่มร่วงหล่นไปตามกาลเวลาพร้อมกับภรรยาก็เริ่มชราลงเป็นลำดับทำให้เกิดความเบื่อหน่ายตรงกันข้ามกับมารดาที่มีความงดงามขึ้นดังกับดอกบัวตูมที่ค่อยๆแย้มกลีบทำให้เกิดความปรารถนาในตัวมารดาของตนฉันชู้สาวเพียงแค่เจ้าชายคิดภายใต้เมืองหล่มก็เกิดเสียงดังขลุกขลักๆและลั่นขึ้นมาทันที่สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านยิ่งนัก
วันหนึ่งเจ้าชายเข้าไปหามารดาและพูดสนทนาในเรื่องต่างๆแล้วตั่งคำถามกับมารดาว่า ”ประตูที่เราเคยออกมาแล้วเราจะเข้าไปอีกได้ไหม” มารดาคิดว่าเจ้าชายคงถามตามปกติจึงตอบลูกว่า ”ทำไมละลูกประตูที่เราเคยเข้าเคยออกเป็นประจำอยู่แล้วทำไมเราจะเข้าไปอีกไม่ได้” ทำให้เจ้าชายพึ่งพอใจในคำตอบมากหลังจากวันนั้นเจ้าชายจึงตัดสินใจว่าจะต้องเข้าไปหามารดาและปลุกปล้ำให้ได้ เมื่อเจ้าชายเคาะประตูเรียกมารดาหลังจากสิ้นเสียงเคาะประตูแผ่นดินของเมืองก็เกิดการสั่นและค่อยๆยุบตัวลงอย่างช้าด้วยสัญชาตญาณทำให้ต่างก็วิ่งหนีไปคนละทาง
กล่าวถึงเจ้าชายได้วิ่งหนีไปพร้อมกับบริวารอีกมากมายไปทางทิศใต้ของเมืองหล่มมาพักเหนื่อยที่บ้านทุ่งสาร (ในอำเภอพรหมพิรามปัจจุบัน) แต่ก็ยังเกรงว่าแผ่นดินจะถล่มมาถึงจึงพาบริวารเดินทางต่อไปและมาหยุดเพื่อเรียกขวัญที่หมู่บ้านเหล่าขวัญ (หมู่บ้านเหล่าขวัญในปัจจุบัน) เมื่อบรรดาผู้ติดตามได้มีกำลังใจดีแล้วจึงเดินทางต่ออย่างไร้จุดหมายและไม่มีผู้ใดทราบเรื่องราวของเจ้าชายกล่าวถึงมารดาของเจ้าชายเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่มก็ได้พาบริวารหนีไปทางทิศเหนือของบึงหล่มและมาพักนั่งอิงต้นไม้ใหญ่ซึ่งแต่ก่อนเรียกว่าหมู่บ้านนางอิง (หมู่บ้านนาอินปัจจุบัน) นางหยุดพักได้เพียงครู่เดียวก็ออกเดินทางต่อเมื่อแน่ใจว่าแผ่นดินคงถล่มมาไปถึงจึงมาพักที่หมู่บ้านนางยั้ง (หมู่บ้านนายางปัจจุบัน) แล้วจึงออกเดินทางต่อและมาหยุดคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเรียกว่าหมู่บ้านนางคำนึง (หมู่บ้านนาคนึงในปัจจุบัน) และออกเดินทางต่อและมาตั้งถิ่นฐานในเมืองลับแลจังหวัดอุตรดิตถ์ปัจจุบัน
ในปัจจุบันบึงหล่มได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ออกกำลังกาย ของคนในชุมชนตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิรามและตำบลนาอิน อำเภอพิชัย ยังมีประเพณีงานลอยกระทงเจ้าพ่อบึงหล่ม ในทุกๆปี โดยมีชาวบ้านจำนวน 4 หมู่ ทำกิจกรรมร่วมกัน (บ้านท้องโพลง บ้านแหลมทอง บ้านฟากบึงและบ้านเขาปรัง) บึงหล่มยังเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการประกอบอาชีพของชาวบ้านทั้งสองอำเภออีกด้วย เนื่องจากทั้งสองอำเภอ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก คือการเกษตร(ทำนา ไร่มัน ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด) ชาวตำบลดงประคำ ตำบลนายาง และตำบลนาอิน จึงมีการพัฒนาให้บึงหล่มเป็นสถานที่สำคัญทั้งแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ออกกำลังกาย และเป็นแหล่งทำมาหากินอีกด้วย
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวรสริน น้อยแก้ว
ผู้ให้ข้อมูล นางเรณู ศุขโข
ถ่ายภาพโดย นางสาวรสริน น้อยแก้ว