การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง Activities โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์รังสรรค์ (AI) ร่วมกับรูปแบบการเรียนแบบ CLT (Communicative Language Teaching) เพื่อแก้ไขปัญหาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/1 

ปัจจุบันภาษาอังกฤษนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษา ที่คนทั่วทุกมุมโลกใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล การค้าขาย การศึกษา การท่องเที่ยว เทคโนโลยี รวมไปถึงการทำธุรกิจระหว่างประเทศ การเรียนภาษาอังกฤษช่วยให้ผู้เรียนสามารถติดต่อกับ ชาวต่างชาติได้อย่างถูกต้องและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ด้วยเหตุนี้ภาษาอังกฤษจึงถูกบรรจุลงให้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขึ้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เมื่อผู้เรียนมีการเรียนภาษาอังกฤษ อย่างต่อเนื่องจากระดับประถมศึกษาสู่ระดับมัธยมศึกษา ผู้เรียนจะเกิดความคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอังกฤษ มากยิ่งขึ้นและสามารถใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และมีผลต่อความสามารถด้านการฟัง การพูด และความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้สูงขึ้น

จากปัญหาดังกล่าว ข้าพเจ้าเห็นว่านักเรียนยังขาดทักษะการสื่อสาร การพูดภาษาอังกฤษ วิชาภาษาอังกฤษควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษครบทั้ง 4 ทักษะ ไม่ว่าจะเป็น การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งดิฉันได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนได้เกิดการพัฒนาทั้ง 4 ด้าน โดยเลือกจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ซึ่งดิฉันเลือกใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง Activities มาจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน ไม่ทำให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่น่าเบื่อและยากเกินไปสำหรับนักเรียน และเน้นการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของวิชาภาษาอังกฤษ และเป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้กระบวนการ PDCA ในการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษตามเทคนิค CLT ช่วยให้การเรียนการสอนมีความต่อเนื่องและปรับปรุงได้ตามผลลัพธ์ที่ได้รับจากการประเมิน ทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการสื่อสารในภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นใจในการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง.

PDCA (Plan-Do-Check-Act) เป็นกระบวนการในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก คือ การวางแผน (Plan) การดำเนินการ (Do) การตรวจสอบ (Check) และการปรับปรุง (Act) ซึ่งสามารถใช้ในกระบวนการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิค CLT ในการสอนให้ประสบความสำเร็จได้ ดังนี้ 

1. Plan (การวางแผน)

1.1 กำหนดเป้าหมายการพัฒนา: กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการจากการใช้เทคนิค CLT ในการสอน เช่น การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนให้มีความคล่องแคล่วและมั่นใจในการสื่อสารในสถานการณ์จริง

2. ออกแบบแผนการสอน: จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการสื่อสาร เช่น การฝึกบทบาทสมมติ (Role Play) การทำงานกลุ่ม หรือการใช้เทคโนโลยี AI ร่วมกับการเรียนรู้ CLT เพื่อกระตุ้นการใช้ภาษาในบริบทต่าง ๆ

3. เลือกเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้: เลือกแอปพลิเคชันหรือเครื่องมือที่สามารถช่วยตรวจสอบการพูด เช่น โปรแกรม AI สำหรับการฝึกออกเสียง และแหล่งข้อมูลเสริมสำหรับกิจกรรมในชั้นเรียน

4. กำหนดเกณฑ์การประเมิน: วางเกณฑ์การประเมินที่ครอบคลุมทักษะการพูด เช่น ความคล่องแคล่ว ความมั่นใจ และการใช้ภาษาในบริบทต่าง ๆ

2. Do (การดำเนินการ)

1. ดำเนินการตามแผนการสอน: เริ่มต้นการเรียนการสอนตามแผนที่ได้วางไว้ โดยเน้นการสื่อสารและการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง นักเรียนจะได้ฝึกการใช้ภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วม เช่น การทำกิจกรรมร่วมกัน หรือการพูดคุยในบทบาทสมมติ

2. ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อฝึกฝน: ให้นักเรียนใช้เครื่องมือ AI ในการฝึกฝนทักษะการพูด เช่น การใช้แอปที่ช่วยตรวจสอบการออกเสียง และการให้คำแนะนำในการปรับปรุงการพูด

3. สนับสนุนการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง: จัดกิจกรรมที่เน้นการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน เช่น การให้โอกาสนักเรียนได้พูดในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในกลุ่มและร่วมกับเพื่อน

4. สร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการเรียนรู้: สนับสนุนให้นักเรียนมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องกลัวการทำผิดพลาด ให้การกระตุ้นและคำแนะนำที่สร้างสรรค์

3. Check (การตรวจสอบ)

1. ตรวจสอบความคืบหน้าของนักเรียน: สังเกตพัฒนาการของนักเรียนในการใช้ภาษาอังกฤษผ่านการสังเกตการพูดในชั้นเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำบทบาทสมมติหรือการอภิปรายกลุ่ม

2. ประเมินผลจากเกณฑ์ที่กำหนด: ใช้เกณฑ์ที่ได้วางไว้ในการประเมินการพูด เช่น การประเมินการออกเสียง ความคล่องแคล่วในการพูด การใช้คำศัพท์ที่หลากหลายและเหมาะสม

3. ใช้ข้อมูลจากการประเมินเพื่อระบุจุดอ่อน: ตรวจสอบว่ามีจุดอ่อนใดในการใช้ภาษา เช่น นักเรียนมีปัญหาในการออกเสียงบางคำ หรือมีความยากลำบากในการสื่อสารในสถานการณ์จริง

4. ให้ข้อเสนอแนะและการปรับปรุง: ให้นักเรียนได้รับข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์จากครูและเพื่อนร่วมชั้นเพื่อช่วยในการปรับปรุงการใช้ภาษา

4. Act (การปรับปรุง)

1. ปรับปรุงวิธีการสอน: ใช้ข้อมูลจากขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อปรับปรุงการสอน เช่น ปรับกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนหรือปรับใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

2. ปรับปรุงกิจกรรมและวิธีการประเมิน: หากพบว่านักเรียนมีปัญหาในบางด้าน เช่น การใช้คำศัพท์ที่จำกัด สามารถเพิ่มกิจกรรมที่เน้นการขยายคำศัพท์ หรือการฝึกฝนการพูดในสถานการณ์ต่าง ๆ

3. กระตุ้นให้นักเรียนพัฒนาต่อเนื่อง: จัดกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนฝึกฝนและใช้ภาษาอังกฤษต่อไป เช่น การทำงานกลุ่ม การพูดคุยในหัวข้อต่าง ๆ หรือการให้โอกาสในการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน

สร้างแผนการเรียนรู้ในระยะยาว: วางแผนในการพัฒนาทักษะการพูดของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเพิ่มเติม การปรับวิธีการเรียนรู้ หรือการจัดกิจกรรมภายนอกที่สามารถเสริมสร้างทักษะการพูด 

การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning การจัดการเรียนรู้แบบ CLT (Communicative Language Teaching) 5 ขั้นตอน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI ร่วม เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการเรียนรู้ เป็นการจัดการเรียนรู้โดยใช้ประสบการณ์ตรงที่ทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาการเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทักษะชีวิต อันจะก่อให้เกิดความรู้และทักษะที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ตามความมุ่งหมายทางการศึกษาอย่างแท้จริง

       3.1 เชิงปริมาณ

                ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้รับการแก้ปัญหาการด้านทักษะการพูด การเขียน คิดวิเคราะห์ ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์รังสรรค์ (AI) ร่วมกับรูปแบบการเรียนแบบ CLT (Communicative Language Teaching)

ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ดังนี้

1) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง Activities ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้เรียนทั้งหมด

2) แบบฝึกทักษะรายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้เรียนทั้งหมด

3) แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้เรียนทั้งหมด 

          3.2 เชิงคุณภาพ

                1) ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความรู้และความเข้าใจเรื่อง Activities  มากขึ้น

2) ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีทักษะการพูด การเขียน คิดวิเคราะห์ และสามารถปรับประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้