เรื่อง พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)และสื่อสิ่งพิมพ์ในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจถือเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อย่างไรก็ตามนักเรียนส่วนใหญ่มักเผชิญปัญหาหลายประการ เช่น การขาดคลังคำศัพท์พื้นฐาน ทำให้ไม่สามารถตีความหรือวิเคราะห์เนื้อหาได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ความซับซ้อนของโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักเรียนเกิดความสับสนส่งผลต่อความมั่นใจในการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง

          จากมุมมองของการจัดการเรียนรู้ พบว่าครูยังใช้วิธีการสอนที่มุ่งเน้นการท่องจำและการทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน ซึ่งขาดการเชื่อมโยงเนื้อหากับชีวิตประจำวัน อีกทั้งการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้อย่าง AI ยังไม่แพร่หลาย ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการดำเนินการให้บรรลุผลสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. Plan (วางแผน)

1.1) วิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา (Analyze the Problem Situation)

- ศึกษาปัญหาเกี่ยวกับการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน เช่น ความจำกัดด้านคำศัพท์ การตีความ และความไม่มั่นใจ

- สอบถามความคิดเห็นจากครูและนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ AI และสื่อสิ่งพิมพ์ในการเรียนรู้

1.2) ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน (Set Clear Goals)

- นักเรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทักษะการอ่านภาษาอังกฤษสูงขึ้น 

- พัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจให้นักเรียนมีความสามารถตีความ วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้เนื้อหาได้

   1.3) ออกแบบแผนงาน (Design an Action Plan)

                      1.3.1) ออกแบบบทเรียนสำเร็จรูปโดยใช้เทคโนโลยี AI (Designing Lessons Using AI):

- เลือกเนื้อหาจากสื่อสิ่งพิมพ์ในชีวิตประจำวัน เช่น ข่าวภาษาอังกฤษ บทความ หรือโฆษณา

- คัดเลือกเทคโนโลยี AI เช่น แอปพลิเคชันการเรียนรู้ หรือแพลตฟอร์ม NLP เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้แบบส่วนบุคคล

- กำหนดกิจกรรม เช่น การอ่านจับใจความ การวิเคราะห์คำศัพท์ การตอบคำถาม และการสรุปเนื้อหา

2) ดำเนินการ (Do)

2.1) ใช้ AI ในการสอน (Use AI for Teaching)

- นำ AI และวิธีการบูรณาการสื่อสิ่งพิมพ์ในกระบวนการเรียนการสอน

- แนะนำให้นักเรียนรู้จัก AI และทดลองใช้งานเบื้องต้น

2.2) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ 

- นักเรียนฝึกอ่านเนื้อหาจากสื่อสิ่งพิมพ์ในชีวิตประจำวัน และใช้ AI ช่วยตรวจสอบคำตอบหรือคำแปล

- จัดการอภิปรายในกลุ่มย่อยเพื่อกระตุ้นการวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

- ใช้เทคโนโลยี AI ให้ข้อเสนอแนะทันทีเกี่ยวกับคำตอบ เช่น การปรับปรุงคำศัพท์หรือโครงสร้างประโยค

- เก็บข้อมูลการพัฒนาทักษะของนักเรียนจากแบบทดสอบย่อยและการสังเกตพฤติกรรม

3) ตรวจสอบ (Check)

3.1) ประเมินผลการเรียนรู้

- ทดสอบความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจก่อนและหลังการเรียน เพื่อวิเคราะห์การพัฒนา

- วัดผลความสำเร็จของนักเรียนในการตีความและวิเคราะห์เนื้อหา

3.2) เก็บข้อมูลความคิดเห็น

- ใช้แบบสอบถามหรือสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อการใช้ AI และสื่อสิ่งพิมพ์

- รับฟังข้อเสนอแนะจากครูและนักเรียนเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้

3.3) เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้

- วิเคราะห์ว่ากิจกรรมและการเรียนรู้ที่ดำเนินไปนั้นบรรลุเป้าหมายหรือไม่

4) ปรับปรุง (Act)

4.1) ปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอน

- นำข้อมูลจากการประเมินผลและความคิดเห็นมาปรับปรุงกิจกรรมการเรียนรู้

- เพิ่มหรือปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน

- เลือกเครื่องมือ AI ที่ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น

4.2) สร้างความต่อเนื่องในการเรียนรู้

   - พัฒนาสื่อการเรียนรู้เพิ่มเติมและจัดให้มีการเข้าถึง AI และสื่อสิ่งพิมพ์ได้ตลอดเวลา

4.3) นำรูปแบบที่ได้ผลไปขยายผล

หากผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จ สามารถนำไปปรับใช้กับนักเรียนในระดับอื่น ๆ หรือในโรงเรียนอื่น

การดำเนินงานตามวงจร PDCA ช่วยให้การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามผลการตรวจสอบและการประเมิน.