ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และและคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้สามารถปรับตัวและเติบโตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนรู้จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบันการเรียนการสอนโดยการใช้ Coding มีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน ตามนโยบายเร่งด่วน โครงการ Coding For All คนไทยต้องได้เรียน Coding กระทรวงศึกษาธิการจะสร้าง Coding Community ขยายผล ขับเคลื่อน ทุกภาคส่วน เพื่อกระจายการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) โดยกำหนดให้มีสาระเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้นี้ได้ปรับเปลี่ยนจากสาระเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม เป็นวิชาที่เน้นการพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์แก้ปัญหา การนำแนวคิดเชิงคำนวณ (Computational thinking) และการเรียนการสอน coding มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการเตรียมเยาวชนในการเป็นพลเมืองในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและรู้เท่าทันหลักสูตรวิทยาการคำนวณเน้น “กระบวนการคิด” ของนักเรียนที่เน้นเกี่ยวกับตรรกะ และการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ
ในปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย AI สามารถนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุจุดอ่อนของนักเรียน และเสนอแนวทางปรับปรุงที่เหมาะสมได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) ของผู้เรียนได้
จากสถานการณ์ดังกล่าว การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) จึงมุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่นำ AI มาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการ
เรียนรู้ทางวิชาชีพ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาในลักษณะของชุมชนทางวิชาชีพที่มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ การถอดบทเรียน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชุมชนแห่งการเรียนรู้มีลักษณะเฉพาะดังนี้ 1.การแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมวิชาชีพและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2.มีวัฒนธรรมการร่วมพลังเป็นการร่วมมือร่วมพลังของผู้บริหาร ผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และชุมชน 3.เป็นการให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียน หรือผลการเรียนรู้ของนักเรียน 4.มีการแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งการศึกษาแบบเยี่ยมเยียนเพื่อเปิดโลกทัศน์ และ 5.มีการสะท้อนคิดด้วยสุนทรียสนทนา โดยมีกระบวนการเริ่มด้วยการสร้างทีม การเลือกปัญหา การประชุม/การออกแบบบทเรียน การลงมือปฏิบัติ และการสะท้อนผลและจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง นักเรียนมีการปฏิบัติกิจกรรมแบบทำงานกลุ่มรวมพลัง โดยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เด็กเก่งช่วยเด็กเรียนช้ากว่า เด็กถนัดกว่าช่วยเด็กถนัดน้อยกว่า เพื่อให้มีความสุขในการเรียน บทบาทของผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ ส่วนบทบาทของครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก และดำเนินผ่านกระบวนการเพื่อนำมาใช้กับผู้เรียนให้เกิดผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ (Learning Outcomes) สอดคล้องกับสภาพปัญหา บริบท ความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครองและชุมชน สู่เป้าหมายการพัฒนาสมรรถนะอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
1) ผู้เรียนร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์การประเมินทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) ที่กำหนดไว้
2) ผู้เรียนร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่กำหนดไว้
3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
1) ได้สื่อการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2) ผู้เรียนมีทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) ตามเกณฑ์ที่กำหนด
3) ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ผลในการพัฒนาตามประเด็นท้าทาย
1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 150 คน มีผลการประเมินทักษะการเขียน
โปรแกรม (Coding) ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คิดเป็น ร้อยละ 73.33
2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 150 คน มีผลการประเมินคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คิดเป็น ร้อยละ 100
3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ใน
การเรียนรู้ อยู่ในระดับดีขึ้นไป
1) ได้สื่อการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับรูปแบบการจัดการ เรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2) นักเรียนมีทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
3) นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด