เซลล์ (Cell) มาจากคำว่า Cella ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่าห้องเล็ก ๆ เซลล์เป็นหน่วยเล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต สามารถเพิ่มจำนวน เจริญเติบโตและตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ เซลล์บางชนิดเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง เช่น เซลล์อสุจิ เป็นต้น เซลล์หลายชนิดมีรูปร่างและลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่อยู่และหน้าที่การทำงาน แต่มีโครงสร้างสำคัญ 3 ส่วนที่เหมือนกัน คือ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึมและนิวเคลียส โดยเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membane) เป็นส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์และกั้นเซลล์จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ภายในเซลล์มีโครงสร้างเล็ก ๆ เรียกว่า ออร์แกเนลล์ (Organelle) ล่องลอยอยู่ในส่วนของเหลวที่เรียกว่า ไซโทพลาซึม (Cytoplasm) ออร์แกเนลล์เหล่านี้ทำหน้าที่ต่าง ๆ กันมีนิวเคลียสเป็นศูนย์กลางควบคุมกระบวนการเมตาโลซึมต่าง ๆและการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
ในปี ค.ศ. 1665 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ รอเบิร์ต ฮุก (Robert Hooke) ได้ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์ประกอบมาใช้ศึกษาเนื้อเยื่อของไม้คอร์ก พบว่า ประกอบด้วย ช่องว่างเล็ก ๆ จำนวนมาก และได้เรียกช่องนี้ว่า "เซลล์" เซลล์ดังกล่าวนี้เป็นเซลล์ที่ตายแล้วแต่ยังคงรูปอยู่ได้เพราะมีผนังเซลล์ซึ่งมีความแข็ง จากนั้นก็มีการค้นคว้าศึกษาเรื่องเซลล์ของพืช สัตว์และจุลินทรีย์อื่น ๆ เรื่อยมาจนกระทั่งในปี ค.ศ.1839 นักวิทยาศาสตร์ชื่อ เทโอดอร์ ชวันน์ (Theodor Schwnaa) และ (Matthias Jadob Schleiden) ได้ร่วมกันตั้งทฤษฎีเซลล์ ซึ่งมีใจความสำคัญว่า "เนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดประกอบด้วยเซลล์และผลิตภัณฑ์ของเซลล์" สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะมีโครงสร้างเหมือนกัน คือ ประกอบขึ้นด้วยเซลล์ (Cell) ซึ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจะประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานคล้ายคลึงกัน
เซลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส ( Prokaryotic cells = เซลล์โปรคาริโอต ) ลักษณะเซลล์จะค่อนข้างเล็ก มีขนาด 0.2-10 ไมโครเมตร จะเป็นเซลล์ของพืชชั้นต่ำพวกแบคทีเรีย สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน และไมโครพลาสมา
1.1 แบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งชนิดที่เป็นโทษคือทำให้เกิดโรค เจ็บป่วยและชนิดที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย หรือบางชนิดเป็นแบคทีเรียประจำถิ่นในร่างกายของเรา เพื่อช่วยสร้างความสมดุล และคอยป้องกันเชื้อโรคที่เป็นอันตรายได้ระดับหนึ่ง แต่ในบางครั้งเมื่อร่างกายเกิดความอ่อนแอลง เชื้อประจำถิ่นอาจเพิ่มจำนวนมากเกินไปจนทำให้เสียสมดุลและเกิดความผิดปกติได้ แบคทีเรีย จะมีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองด้วยตาเปล่า ดังนั้นเมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น เช่นอาการเจ็บคอ แผลเป็นหนอง ปวด บวม ร้อน เป็นต้น แบคทีเรียมีการสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศคือค่อยๆยืดยาวออกแล้วค่อยๆคอดเข้าหากันจนขาดออกจากกัน
1.2 สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (Cyanobacteria) จัดเป็นพืชชั้นต่ำสามารถสังเคราะห์แสง ให้ออกซิเจน เปลี่ยนสีของเซลล์ได้ และตรึงไนโตรเจนได้ พบได้ทั่วไปทุกแห่งในโลก ทั้งในน้ำจืด ทะเล น้ำพุร้อน และอาจอยู่รวมกับสิ่งมีชีวิตอื่นได้ทั้งพืชและสัตว์ สาหร่ายในกลุ่มมีการสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ คือค่อยๆยืดยาวออกแล้วค่อยๆคอดเข้าหากันจนขาดออกจากกัน
2. เซลล์ที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส ( Eukaryotic cells = เซลล์ยูคาริโอต ) เซลล์จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง มากกว่า 5 ไมโครเมตร ตัวอย่างของเซลล์ชนิดนี้ได้แก่ เห็ด รา เซลล์ของพืชและสัตว์ทั่วๆไป มีขนาด 10-100 ไมโครเมตร
2.1 เซลล์พืชมีรูปร่างเป็นเหลี่ยมมีผนังเซลล์อยู่ด้านนอกมีคลอโรพลาสต์ภายใน เซลล์ไม่มีเซนทริโอลแวคคิวโอลมีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจนไม่มีไลโซโซม
2.2 เซลล์สัตว์มีรูปร่างกลม หรือรีไม่มีผนังเซลล์ แต่มีสารเคลือบเซลล์อยู่ด้านนอกไม่มีคลอโรพลาสต์มีเซนทริโอลใช้ในการแบ่งเซลล์ แวคคิวโอลมีขนาดเล็ก มองเห็นได้ไม่ชัดเจน มีไลโซโซม