ผู้จัดทำข้อตกลง
นายณัฐพงษ์ จินะใจ
ตำแหน่ง ครู
สถานศึกษา โรงเรียนป่าไม้อุทิศ 4
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 32 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
รายวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ม.4/3 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อความบันเทิง ม.4/3 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.5/1 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.5/2 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.5/3 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.5/4 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.5/5 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.6/1 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.6/2 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.6/3 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.6/4 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.6/5 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ชุมนุม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาอบรมจริยธรรม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
PLC จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
การจัดทำแผนการเรียนรู้/การสร้างสื่อ/การสร้าง
เครื่องมือประเมินผล/วิจัยชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่ปรึกษาและระบบช่วยเหลือดูแลนักเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การมีส่วนร่วมในชุมชนแห่งการเรียนรู้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
จำนวน 24 ชั่วโมง/สัปดาห์
จำนวน 24 ชั่วโมง/สัปดาห์
กรรมการบริหารหลักสูตรสถานศึกษา จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
ประธานโปรแกรมความเป็นเลิศทางด้านภาษาอังกฤษ จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
กรรมการและเลขาฯงานประกันคุณภาพการศึกษา จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
กรรมการและเลขานุการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
กรรมการหลักสูตรบ่มเพาะผู้ประกอบการ จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่ปรึกษาและระบบช่วยเหลือดูแลนักเรียน จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง ครู
ด้านการจัดการเรียนรู้
ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
ประเด็นท้าทาย
เรื่อง “การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ”
เรื่อง “การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ”
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคาดหวังว่าเมื่อผู้เรียนเรียนภาษาต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษา ผู้เรียนจะมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งการแสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพและศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์
ดังนั้นการเรียนภาษาที่ดีผู้เรียนจะต้องมีโอกาสได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาให้มากที่สุดทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขในการฝึกทักษะ เรื่อง การพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ในชั้นเรียนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนในเนื้อหาต่อไป ครูผู้สอนในฐานะผู้รายงานจะประสบปัญหาในการสอน เรื่อง ทักษะการพูดสื่อสาร ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตลอดมา นักเรียนไม่สามารถสื่อสารโดยการพูดโต้ตอบด้วยประโยคง่ายๆได้และไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างเรียน ซึ่งครูคือปัจจัยหลักที่จะเป็นผู้กระตุ้นนักเรียน และแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการพูดสื่อสารให้ถูกต้องได้นั้น ทำได้หลายวิธี เช่น พัฒนาหลักสูตร ฝึกทักษะการพูดสื่อสารและอีกวิธีหนึ่งที่สำคัญ คือ การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้หรือเทคนิคการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยที่ครูต้องปรับวิธีการสอนให้ผู้เรียนเป็นสำคัญ เน้นทักษะการพูดให้ทันต่อสถานการณ์ มุ่งให้ผู้เรียนรักการเรียน รู้จักคิดวิเคราะห์ แสวงหาความรู้ และรู้จักแก้ปัญหาด้วยตนเองการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในชั้นเรียนได้มีความหลากหลายของสื่อการเรียนการสอนหรือนวัตกรรมทางการศึกษาต่างๆ ที่จะกระตุ้นความสนใจของนักเรียนในการเรียนภาษาอังกฤษได้ เช่น การจัดการเรียนรู้การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาช่วยในการฝึกทักษะการพูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน
ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาใช้ในการพัฒนาในการเขียนของนักเรียน ควรมีลักษณะกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ท้าทายความสามารถ ให้เข้าใจง่ายในบทเรียน มีภาพประกอบ ออกแบบให้สวยงามและสามารถฝึกฝนเรียนรู้และปฏิบัติได้ด้วยตนเอง อันจะส่งผลให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และสามารถนำความรู้ไปใช้ในในการเขียนเรื่องตามจินตนาการได้ แบบฝึกทักษะมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นการฝึกทักษะมาก เพราะเป็นอุปกรณ์เปรียบเสมือนผู้ช่วยครูทางอ้อม ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะในการใช้ภาษาให้ดีขึ้น ส่งเสริมในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้นักเรียนมีความสุขและเรียนรู้แบบสนุก ไม่เบื่อในการเรียน ตลอดจนนักเรียนสามารถทบทวนเนื้อหาได้ด้วยตนเอง ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการพูดสื่อสารในชีวิตประจำวันและสถานการณ์ต่างๆของนักเรียนได้และมีทักษะการเขียนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1) ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง และหลักสูตรนักเรียนต้องรู้ (กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6) เพื่อคัดเลือกและออกแบบหน่วยตามตัวชี้วัด สร้างและจัดทำพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่องการพูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ด้วยรูปแบบการสอน กำหนดสถานการณ์เพื่อนำมาช่วยเสริมการฝึกทักษะการพูดสื่อสารตามความเหมาะสมของนักเรียนรายบุคคล และนำผลสะท้อนในการทำแบบฝึกเสริมทักษะบันทึกข้อมูลคะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูลที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้นักเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 โรงเรียนป่าไม้อุทิศ 4 ร้อยละ 65 ได้รับการฝึกทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 โรงเรียนป่าไม้อุทิศ 4 มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและสถานการณ์ต่าง ๆ
คลิปวิดีโอการจัดการเรียนรู้
กคศ 3
กคศ 3
นายณัฐพงษ์ จินะใจ
ขอขอบคุณที่ปรึกษาในการพัฒนาเว็บไซต์ PA Online