ชื่อ นางสาววราพร นามสกุล ชูเส้นผม
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ -
สถานศึกษา โรงเรียนปากท่อพิทยาคม
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี
รับเงินเดือนในอันดับ คศ.1
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ)
ซึ่งเป็นตำแหน่ง ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 1 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 1 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชุมนุมสหกรณ์โรงเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ รวมจำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
1) การมีส่วนร่วมในชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
2) ครูประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา รวมจำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
1) งานฝ่ายวิชาการ (หัวหน้ากิจกรรมชุมนุม) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
2) งานฝ่ายบริหารทั่วไป (ส่งเสริมสุขภาพและโภชนาการ) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
3) งานฝ่ายบุคคล (รองหัวหน้าฝ่ายบุคคล) จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น รวมจำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
1) การประกันคุณภาพภายในและภายนอกสถานศึกษา จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การจัดรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษา 2566 ของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปากท่อพิทยาคม ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 ตัวชี้วัด ม.2/1
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
จากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน เพื่อวัดความรู้และความคิดรวบยอดของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 พบว่า ในปีการศึกษา 2563 ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนปากท่อพิทยาคม มีค่าเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ระดับโรงเรียน 25.51 คะแนน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ระดับประเทศ ที่ได้ 25.91 คะแนน
ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนปากท่อพิทยาคม ในปีการศึกษา 2566 ต้องเรียนรู้ตามตัวชี้วัด ม.2/1 คือวิเคราะห์สถานการณ์และคำนวณเกี่ยวกับงานและกำลังที่เกิดจากแรงที่กระทำต่อวัตถุ โดยใช้สมการ W = Fs และ P = W/t จากข้อมูล ที่รวบรวมได้นั้น ได้จัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการในการคิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาได้ สอดคล้องกับการประเมินผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 แต่การจัดการเรียนการสอนยังขาดกระบวนการคิดขั้นสูง ที่จะช่วยให้ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงได้ รวมไปถึงการเพิ่มพูนทักษะในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน และทำให้ผู้เรียนมีวิธีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น และยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้จัดทำข้อตกลงประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน จึงจะดำเนินการจัดรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษา 2566 ของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปากท่อพิทยาคม ในสาระเทคโนโลยี มาตรฐานที่ 2.3 ตัวชี้วัด ม.2/1 ให้มีค่าเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐานสูงขึ้นจากปีการศึกษา 2563
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ
เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษา 2566 ของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน
ปากท่อพิทยาคม ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 ตัวชี้วัด ม.2/1 ให้มีค่าเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน สูงขึ้นจากปีการศึกษา 2563
2.2 วิธีการดำเนินการ
การยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษา 2566 ของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน
ปากท่อพิทยาคม ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 ตัวชี้วัด ม.2/1ผู้จัดทำได้นำกระบวนการ PDCA ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน
อย่างเป็นระบบ มาใช้ในการดำเนินการ ดังนี้
1. การวางแผน (Plan)
1) ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 ตัวชี้วัด ม.2/1
2) ออกแบบการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
3) สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง งานและกำลัง
4) สร้างแบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง งานและกำลัง
2. การปฏิบัติ (Do)
1) ประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียน เรื่อง งานและกำลัง
2) ดำเนินการตามแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง งานและกำลัง ที่ออกแบบการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้รูปแบบการสอน
แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ดังนี้
2.1) สร้างความสนใจในการเรียนรู้ (engagement) โดยทั่วไปแล้ว ผู้เรียนจะมี พื้นฐานความรู้ ความเข้าใจในเรื่องราวบางอย่าง
ติดตัวมาบ้างไม่มากก็น้อย บางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะเรียน บางเรื่องก็ไม่ เกี่ยวข้อง และที่เกี่ยวข้องก็อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือมีบางส่วนที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นโอกาสที่ผู้สอน จะได้ค้นหาว่าผู้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องที่จะสอน ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่ผู้เรียนจะได้ทบทวนความรู้ ความเข้าใจของตนในเรื่องนั้น
ไปพร้อมกัน ที่สำคัญผู้สอนจะต้องกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้สึกสนใจและกระตือรือร้น ในเรื่องที่จะเรียน ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายหรือท้อแท้เมื่อทราบว่าสิ่งที่ตนเข้าใจมาแต่เดิมนั้น
เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
2.2) การค้นหาความรู้ (exploration) ผู้เรียนจะค้นหาคำตอบให้กับคำถามที่ผู้สอนได้ตั้ง
เป็นโจทย์ไว้ใน ลำดับที่หนึ่ง (engagement) โดยอาศัยความรู้เท่าที่มี ผู้เรียนจะป้อนคำถามระหว่างผู้เรียนด้วยกัน แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแสวงหาคำตอบกันภายในกลุ่ม วัตถุประสงค์หลักของการเรียนการสอนในลำดับที่สองนี้ คือ ให้นักเรียนได้เก็บเกี่ยวความรู้และแนวคิดโดยใช้การเรียนรู้จากประสบการณ์ อาจให้ผู้เรียนทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ หาประสบการณ์จากกรณีศึกษา หรือการแสดงบทบาทสมมุติ และนำสิ่งที่สังเกตหรือศึกษาได้มา แลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้เรียน
ผู้สอนควรทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง (facilitator) ให้คำแนะนำและให้ผู้เรียนได้ค้นหา สิ่งที่ตนสนใจด้วยตนเองให้มากที่สุด
2.3) การอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง (explanation) เป็นขั้นที่ผู้สอนเปิด
โอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ด้วยการนำประสบการณ์ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้เรียนรวมทั้ง ข้อสมมุติฐานที่ผู้เรียนและเพื่อนๆ มีมาใช้ประกอบการอธิบาย ผู้สอนควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความ คิดเห็นต่อประเด็นปัญหาและทางออกของปัญหาด้วยตนเองให้มากที่สุด และให้ความคิดเห็นเสริมเป็นระยะ เมื่อผู้เรียนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันจนอาจบานปลายเป็นความขัดแย้ง หากผู้สอนมีสื่อการสอน เช่น วิดีโอ คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ หรือสื่ออื่นๆ
ที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจและเป็นประสบการณ์การเรียนรู้มาใช้ในขั้นตอนนี้ ด้วย ก็จะช่วยให้การเรียนการสอนได้ผลดียิ่งขึ้น
2.4) การขยายความ (elaboration) มาถึงขั้นนี้ ผู้เรียนน่าจะมีความเข้าใจพื้นฐานที่ดี
พอสมควรในเรื่องที่เรียน ผู้สอนจึงควรขยาย ความรู้ความความเข้าใจของผู้เรียนด้วยการให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ช่วยเสริมเติมความรู้ความเข้าใจนั้นให้หนักแน่น มากที่สุดด้วยการนำสิ่งที่เรียนรู้นั้นไปปรับใช้กับสถานการณ์ที่คล้ายกันซึ่งผู้เรียนมีโอกาสพบได้ในโลกแห่งความเป็นจริง การใช้ตัวอย่างมาประกอบเข้ากับแนวคิดจะช่วยให้
ผู้เรียนมีข้อสมมุติฐานที่เกี่ยวกับตนเองและผู้อื่น (mental model) ที่ชัดเจน สามารถเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้น
2.5) การประเมินผล (evaluation) ควรมีการประเมินผลเป็นระยะในทุกๆ ลำดับ
ขั้นตอนที่กล่าวมา เพื่อให้ทราบว่าการสอนบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้และไม่มีความเข้าใจผิดใดเกิดขึ้นในระหว่างการเรียนรู้นั้น ในการประเมินผลอาจใช้คำชี้แจง (rubric), แบบตรวจประเมิน (checklist), การสอบถาม (interview), การสังเกต (observation) หรือเครื่องมือการประเมินผลอื่นๆ หากผู้ประเมินมีความสนใจในเรื่องใดเป็นพิเศษก็ อาจสอบถามผู้เรียนเป็นการเพิ่มเติมและอาจนำวงจรการเรียนรู้มาใช้เพื่อต่อยอดเรื่องที่ให้ความสนใจนั้น
3. การตรวจสอบ (Check)
1) ประเมินผลการเรียนรู้หลังเรียน เรื่อง งานและกำลัง
2) บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ เรื่อง งานและกำลัง ที่ออกแบบการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้รูปแบบการสอน
แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
3) วิเคราะห์ผลการจัดการเรียนรู้ร่วมกับวิเคราะห์ผลการประเมินก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง งานและกำลัง
4. การปรับปรุง (Act)
1) นำผลการวิเคราะห์ที่ได้ มาปรับปรุงและพัฒนาการออกแบบและสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ในเรื่องเดิมและเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษา 2566 ของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนปากท่อพิทยาคม ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2.3 ตัวชี้วัด ม.2/1 มีค่าเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน สูงขึ้นจากปีการศึกษา 2563 คิดเป็น ร้อยละ 26
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง มีทักษะในการเรียนรู้ และมีวิธีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ตามแนวทางของกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
(5Es) ในระดับ ดี
ลงชื่อ
(นางสาววราพร ชูเส้นผม)
ตำแหน่ง ครู
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
.................../.................../...................