ขอบข่าย/ภารกิจ
งานธุรการ
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. ศึกษา วิเคราะห์ วางแผนจัดระบบข้อมูลสารสนเทศ และการบริหารงานของกลุ่มให้สามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ศึกษา วิเคราะห์สภาพของกลุ่ม และออกแบบระบบงานสารบรรณให้เหมาะสมและสอดคล้องกับระบบงานสารบรรณของสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุรี เขต 3
3. ดำเนินการเกี่ยวกับการประชุมภายในกลุ่มบริหารงานบุคคล
4. ประสานงานกับกลุ่มงาน หน่วยงาน และสถานศึกษาในงานธุรการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของกลุ่ม
5. ประสานการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร และผลงานของกลุ่มให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และประชาชนทั่วไปทราบ
6. จัดทำรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มงาน
งานวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. การวิเคราะห์และวางแผนอัตรากำลังคน
1.1 วิเคราะห์ภารกิจและแผนอัตรากำลังคน ของครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.2 ประสานการดำเนินการและประเมินสภาพความต้องการกำลังคนกับภารกิจของหน่วยงานและสถานศึกษา
1.3 กำหนดจำนวนอัตรากำลังของสถานศึกษาตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด
1.4 จัดทำแผนอัตรากำลังของเขตพื้นที่การศึกษา
1.5 เสนอแผนอัตรากำลังเพื่อขอความเห็นจากอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
1.6 ส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดทำแผนอัตรากำลังของสถานศึกษา
1.7 นำแผนสู่การปฏิบัติ
1.8 ติดตามและประเมินผลการใช้อัตรากำลังตามแผน
2. การเกลี่ยอัตรากำลัง การตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน
2.1 ประสานการจัดทำระบบข้อมูล
2.2 การวิเคราะห์ข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อตรวจสอบการใช้ตามความจำเป็น ความต้องการ ความขาดแคลนเทียบกับเกณฑ์และแผนอัตรากำลังสถานศึกษา
2.3 เสนอการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการเกลี่ยอัตรากำลังครูและบุคลากร ทางการศึกษา ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
2.4 เสนอการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อพิจารณาอนุมัติ
3. การกำหนดตำแหน่งและวิทยฐานะ
3.1 ส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดทำภาระงานสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา
3.2 นำแผนอัตรากำลังมากำหนดตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสถานศึกษาและหน่วยงานการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา
3.3 รับคำขอปรับปรุงการกำหนดตำแหน่ง/ขอเลื่อนวิทยฐานะ/ขอเปลี่ยนแปลง เงื่อนไขตำแหน่ง/ขอกำหนดเพิ่มจากสถานศึกษา
3.4 ดำเนินการให้มีการประเมินเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ตำแหน่ง กำหนดตำแหน่งเพิ่ม
3.5 นำเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาและหรือ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี พิจารณาอนุมัติ
3.6 ผู้มีอำนาจตามกฏหมายมีคำสั่งการปรับปรุงตำแหน่ง เลื่อนวิทยฐานะ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตำแหน่ง กำหนดตำแหน่งเดิม
3.7 เสนอแนะการพัฒนาแก่หน่วยงานตามความเหมาะสม
งานบำเหน็จความชอบและทะเบียนประวัติ
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. งานบำเหน็จความชอบ
1. การเลื่อนขั้นเงินเดือน/ค่าจ้าง
(1) การเลื่อนขั้นเงินเดือน/ค่าจ้างกรณีปกติ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ ในการพิจารณาความดีความชอบของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
2. คณะกรรมการเสนอหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการพิจารณาความดีความชอบของเขตพื้นที่การศึกษาให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นชอบ
3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แจ้งหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติให้สถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบและถือปฏิบัติ
4. ดำเนินรวบรวมข้อมูลผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่สมควรได้ รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน
เสนอขอความเห็นชอบ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
(2) การเลื่อนขั้นเงินเดือน/ค่าจ้างกรณีพิเศษ มี 4 กรณี ประกอบด้วย
1. กรณีกลับจากศึกษาต่อ
2. กรณีบรรจุใหม่
3. กรณีลาออกไปสมัครผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและกลับเข้ามาปฏิบัติราชการ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. รับเรื่องจากสถานศึกษา/ตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐาน ( แบบขอเลื่อนขั้นเงินเดือนของผู้ที่ขาดคุณสมบัติพร้อมผลการปฏิบัติงานในระดับ ดีหรือดีเด่น/คำสั่งให้ไปและกลับจากศึกษา/
คำสั่งบรรจุแต่งตั้ง คำสั่งลาออกและกลับเข้ารับราชการแล้วแต่กรณี รวมทั้งคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนสุดท้าย)
2. วิเคราะห์และเสนอความเห็นชอบผลการปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการแล้วเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติ
3. แจ้งสถานศึกษาทราบ
4. บันทึกรายการเปลี่ยนแปลงในทะเบียนควบคุมบัญชีถือจ่ายและทะเบียนประวัติ
4. กรณีการขอบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ เมื่อข้าราชการถึงแก่ความตายทุพพลภาพหรือพิการ เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
2. การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีถือจ่าย
(1) การจัดทำบัญชีถือจ่ายเงินเดือนข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. การจัดทำบัญชีถือจ่ายประจำปีชั่วคราว บัญชีถือจ่ายคือเอกสารที่ใช้ประกอบการเบิกจ่ายจึงกำหนดให้จัดทำแยกตามหน่วยเบิก
1.1 วิเคราะห์ผลการเลื่อนขั้นประจำปีและตรวจสอบความถูกต้อง
1.2 เสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อขออนุมัติกรมบัญชีกลาง
1.3 เมื่อได้รับแจ้งผลการอนุมัติ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาส่งบัญชีถือจ่ายให้หน่วยเบิกดำเนินการเบิกจ่าย
2. การจัดทำบัญชีถือจ่ายประจำปี
2.1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำรวจข้อมูลการตัดอัตราข้ามหน่วยเบิก ตรวจสอบความถูกต้องระหว่างหน่วยเบิก และสรุปจำนวนอัตราของปีงบประมาณเดิมจำแนกอัตรา
2.2 จัดทำทะเบียนควบคุมบัญชีถือจ่ายของปีงบประมาณใหม่ซี่งมีลักษณะเป็นบัญชีถือ จ่ายรายตัวแสดงรายละเอียดของเงินถือจ่ายปีงบประมาณเดิม เงินถือจ่ายปีงบประมาณใหม่ เงินปรับลด
เงินเลื่อนขั้น
และเงินเพิ่มพิเศษต่าง ๆ
2.3 ประมวลผลข้อมูลและจัดทำบัญชีถือจ่าย บัญชีรายละเอียดประกอบบัญชีถือจ่ายตามรูปแบบที่กรมบัญชีกลางกำหนด
2.4 ตรวจสอบความถูกตัองความต่อเนื่องของจำนวนอัตราที่ถือจ่ายปีงบประมาณเดิมและ ปีงบประมาณใหม่เป็นรายอัตรา/ความสอดคล้องของข้อมูลเงินถือจ่ายปีที่แล้วเงิน ถือจ่ายปีนี้ เงินปรับลด
และเงินเลื่อนขั้น
2.5 เสนอเรื่องไปยังคณะกรรรมการการศึกษาขั้นพิ้นฐานเพื่อขออนุมัติการมปัญชีกลาง
2.6 เมื่อได้รับแจ้งผลการอนุมัติส่งบัญชีถือจ่ายให้หน่วยเบิกดำเนินการเบิกจ่าย
3. การจัดทำบัญชีถือจ่ายเพิ่มเติม
3.1 สำรวจและรวบรวมข้อมูลข้าราชการที่ได้ปรับอัตราเงินเดือนให้สูงขึ้นกรณีต่าง ๆ เช่น ปรับอัตราเงินเดือนให้ได้รับตามวุฒิที่สูงขึ้น ปรับอัตราเงินเดือนตามที่ได้รับโอน ปรับอัตราเงินเดือน
เนื่องจากเลื่อนระดับเลื่อนเงินเดือนเพิ่มเติม ฯลฯ
3.2 ประมวลผลข้อมูลและจัดทำบัญชีถือจ่ายตามรูปแบบที่กรมบัญชีกลางกำหนด
3.3 เสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพิ้นฐานเพื่อขออนุมัติกรมบัญชีกลาง
3.4 เมื่อได้รับแจ้งการอนุมัติส่งบัญชีถือจ่ายให้หน่วยเบิกดำเนินการเบิกจ่าย
(2) เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่ง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. รวบรวมข้อมูลจ้าราชการครูที่มีสิทธิได้รับเงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพิ้นฐานจัดทำทะเบียนตำแหน่งส่งไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ.เพื่อเสนอสำนักงบประมาณพิจารณา ให้ความเห็นชอบ ขอถือจ่ายไปยังกรมบัญชีกลาง
เมื่อได้รับแจ้งผลการอนุมัติ
ส่งบัญชีถือจ่ายให้หน่วยเบิกดำเนินการเบิกจ่าย
3. เมื่อได้รับแจ้งผลการอนุมัติ ส่งบัญชีถือจ่ายให้หน่วยงานเบิกดำเนินการเบิกจ่าย
3. งานขอรับเงินรางวัลประจำปี
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. แต่งตั้งคณะกรรมการการศึกษาหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการให้เงินรางวัลประจำปีของครูและ บุคลากรทางการศึกษา
2. คณะกรรมการเสนอหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการขอรับเงินรางวัลต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา
3. สำนักงานเขตพิ้นที่การศึกษานำหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเสนอขอความเห็นชอบต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
4. สำนักงานเขตที่การศึกษาแจ้งหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติให้สถานศึกษาครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบ
5. ผู้บริหารสถานศึกษาเสนอรายละเอียดครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับรางวัลประจำปีให้ สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาทราบและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเสนอ อ.ก.ค.ศ. ให้ความเห็นชอบ
2. งานทะเบียนประวัติ
1. การควบคุมการเกษียณอายุราชการ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าหน้าที่บันทึกวัน เดือน ปีเกิดลงใน
1.1 บัตรเกษียณอายุราชการ
1.2 เครื่องคอมพิวเตอร์
2. คำนวณผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และต้องพ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณนั้น
2.1 วิธีคำนวณ
2.1.1 ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม - 31 ธันวาคม ให้ใช้ 61 บวก พ.ศ.เกิด
2.1.2 ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 1 ตุลาคม ให้ใช้ 60 บวก พ.ศ.เกิด
3. แจ้งรายชื่อข้าราชการดังกล่าวไปส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
4. ตรวจสอบและยืนยันพร้อมแจ้งรายชื่อผู้ที่จะเกษียณอายุราชการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบ
5. ประกาศรายชื่อผู้เกษียณอายุราชการ
6. ส่งประกาศให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้วดำเนินการ
2. การแก้ไข วัน เดือน ปีเกิด ของข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้าง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้มีความประสงค์ขอแก้ไข วันเดือนปีเกิด ยื่นคำขอตามแบบที่กำหนดโดยแนบเอกสารต่อผู้บังคัญบัญชาขั้นต้นประกอบด้วย ทะเบียนราษฎร หลักฐานทางการศึกษา หลักฐานทางราชการ
แสดง วัน เดือน ปีเกิด หลักฐานอื่น ๆ ของทางราชการที่ระบุ วัน เดือน ปีเกิด โดยชัดเจน
2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง
3. นำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นถึงผู้มีอำนาจ
4. ดำเนินการแก้ไขในทะเบียนประวัติ ถ้าได้รับอนุญาต
5. แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ไข
3. การจัดทำและเก็บรักษาทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและลูกจ้าง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าของประวัติกรอกรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประวัติของตนเองพร้อมลงลายมือชื่อ
2. เจ้าหน้าที่ตรวจรายละเอียดความถูกต้อง
3. เก็บรักษาทะเบียนประวัติไว้เป็นความลับในที่ปลอดภัย
4. เปลี่ยนแปลง บันทึกข้อมูลลงใน ก.พ. 7 / สมุดประวัติ / แฟ้มประวัติ
5. ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหาย / ทำขึ้นใหม่ตามสภาพ
4. การจัดทำข้อมูลทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและลูกจ้าง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
1.1 ให้ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างกรอกรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ
1.2 เจ้าหน้าที่นำข้อมูลที่ได้เก็บไว้ในแฟ้มปกติ / เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์
2. เจ้าหน้าที่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงประวัติบันทึกรายการเกี่ยวกับประวัติที่เกิดขึ้น
3. เก็บข้อมูลไว้เป็นความลับในที่ปลอดภัย
4. นำข้อมูลไปใช้ในการบริหารงานบุคคล
5. การขออนุญาตการลา และเบิกจ่ายเงินเดือนระหว่างลาในส่วนที่เกิน 60 วันทำการ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้มีสิทธิขออนุญาตเสนอใบลาพร้อมหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตโดยนำใบลา ทุกฉบับ (ฉบับจริง) พร้อมเอกสารประกอบ เช่นใบรับรองแพทย์ นำเสนอผู้บังคับบัญชาขั้นต้นเสนอ
ผู้มีอำนาจเหนือขึ้นไป
2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารที่เกี่ยวข้องใบลา ตรวจนับวันลา ใบรับรองแพทย์ ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงสุด นำเสนอผู้มีอำนาจ อนุมัติการลาและเบิกจ่ายในส่วนที่เกิน 60 วันทำการ
6. การดำเนินการเกี่ยวกับแฟ้มประวัติของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ลาออกจากราชการและถึงแก่กรรม
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าหน้าที่จัดทำเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการรองรับข้อมูลประวัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2. เจ้าหน้าที่เสนอผู้บังคับบญชาลงนามในเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการรับรองข้อมูลประวัติทะเบียนประวัติ ของครูและบุคลากรทางการศึกษา
3. เจ้าหน้าที่มอบเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการรับรองขัอมูลประวัติทะเบียนประวัติ และแฟ้มประวัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผู้บังคับบัญชาลงนาม รับรองข้อมูลแล้วให้ส่วนราชการ
ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเรื่องเงินบำเหน็จบำนาญและเงินอื่น ๆ ต่อไป
7. การบันทึกวันลาประจำปีในแฟ้มประวัติข้าราชการ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. สถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัดจัดทำบัญชีรายงานการลาประเภทต่าง ๆ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยนับตามปีงบประมาณ (1 ตุลาคม - 30 กันยายน) เสนอเขตพื้นที่การศึกษา
2. สถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัดจัดส่งบัญชีรายงานการลงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาตามลำดับชั้น
3. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและรายงานผู้บังคับบัญชา
4. เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลการลาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามาลงปกแฟ้มประวัติ ข้าราชการของแต่ละคน
8. การให้บริการสำเนาทะเบียนประวัติและ ก.พ. 7
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าของประวัติและยื่นความจำนงในการขอสำเนาทะเบียนประวัติและ ก.พ.7 ด้วยตนเองหรือเจ้าของประวัติมอบฉันทะให้บุคคลอื่นยื่นเสนอขอการจัดทำสำเนา ทะเบียนประวัติและ ก.พ.7
โดยเจ้าของประวัติทำหนังสือมอบฉันทะพร้อมแนบบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ของเจ้าของประวัติและผู้รับมอบฉันทะด้วย
2. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตรวจดูความถูกต้อง
3. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทำการจัดทำสำเนาทะเบียนประวัติและ ก.พ.7พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และส่งมอบให้ผู้ยื่นความจำนง หรือผู้ได้รับมอบฉันทะ
9. การจัดส่งทะเบียนประวัติและ ก.พ.7 ของข้าราชการครูบุคลากรทางการศึกษาที่ย้ายไปสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาอื่นหรือส่วนราชการอื่น
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าหน้าที่เสนอผู้บังคับบัญชารับรองข้อมูลในทะเบียนประวัติและ ก.พ.7 และแฟ้มประวัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ย้ายไปสังกัดเขต พื้นที่การศึกษาอื่นหรือส่วนราชการอื่น
2. เจ้าหน้าที่จัดทำหนังสือนำส่งแฟ้มประวัติทะเบียนและ ก.พ.7 ถึงเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
10. การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในทะเบียนประวัติ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงทะเบียนประวัติเสนอคำร้องตามลำดับชั้น
2. ผู้บังคับบัญชาเสนอผู้มีอำนาจเหนือขึ้นไป
3. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
3.1 ทะเบียนสมรส( คร.3)
3.2 ทะเบียนหย่า (คร.7)
3.3 เอกสารการขอเปลี่ยนชื่อ (ทร.3)
3.4 เอกสารการขอเปลี่ยนชื่อสกุล (ท.4)
3.5 ทะเบียนบ้าน (ทร.14)
3.6 ใบรับรองคุณวุฒิ หรือปริญญาบัตร
4. เปลี่ยนแปลง บันทึกข้อมูลลงใน ก.พ.7 / สมุดประวัติ / แฟ้มประวัติ
5. แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
11. การรายงานบุคลากรทางการศึกษาถึงแก่กรรม
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ส่วนราชการรายงานการถึงแก่กรรมของบุคลากรทางการศึกษาตามลำดับชั้น
2. เจ้าหน้าที่รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
3. ตอบรับทราบหน่วยงานที่รายงานการถึงแก่กรรม
4. ออกหนังสือแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ถึงแก่กรรม
5. รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. งานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ตรวจสอบผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน สมควรได้รับการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
2. ดำเนินการในการเสนอขอพระราชทารเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจักรพรรดิมาลาแก่ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฏหมายกำหนด
3. จัดทำทะเบียนผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจักรพรรดิมาลาเครื่อง ราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์และผู้คืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
4. งานบริการบุคคล
1. การขอยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้มีสิทธิได้รับการยกเว้น กรอกรายละเอียดตามแบบที่กำหนดก่อนเดือนเมษายนของปี
2. แนบเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ, ตารางการสอน/สัปดาห์, จำนวนนักเรียนที่รับผิดชอบ, สำเนา สด.35., สด.9
3. เจ้าหน้าที่นำเสนอหัวหน้าส่วนราชการเพื่อลงนามนำเสนอผู้มีอำนาจ
4. ผู้มีอำนาจออกในสำคัญยกเว้น แล้วแจ้งท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของผู้นั้น, แจ้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
2. การขอมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้ขอมีบัตรกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ โดยมีเอกสารหลักฐาน ดังนี้
1.1 ติดรูปถ่ายในแบบขอมีบัตร 3 รูป
1.2 สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ
1.3 ใบรับรองหมู่โลหิต 1 ฉบับ
1.4 เสนอผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับ
2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารความถูกต้อง
3. เจ้าหน้าที่นำเสนอผู้มีอำนาจลงนามในบัตรประจำตัว โดยผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับ โดยคุมทะเบียนประวัติไว้
3. งานขอหนังสือรับรอง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้ขอหนังสือรับรองแจ้งเหตุผลและความจำเป็นในการขอหนังสือ
2. เสนอต่อผู้บังคับบัญชาขั้นต้น
3. เจ้าหน้าที่ตรวจรายงานเหตุผล ความจำเป็น
4. นำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติลงนามหนังสือรับรอง
5. ส่งหนังสือรับรอง
4. งานขออนุญาตให้ข้าราชการไปต่างประเทศ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้มีความประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศ กรอกรายละเอียดตามแบบที่กำหนด
2. ในกรณีที่เดินทางอยู่ในระหว่างเปิดภาคเรีน ต้องแนบใบลาที่ได้รับการอนุญาต
3. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- แบบขออนุญาต
- บัญชีประมาณการค่าใช้จ่าย
- ใบลากิจ หรือลาพักผ่อน หนังสือเชิญจากองค์การ หน่วยงาน
4. นำเสนอผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจลงนามนำเสนอผู้มีอำนาจ
5. งานขออนุญาตลาอุปสมบท
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้มีความประสงค์จะอุปสมบทกรอกรายละเอียดตามแผนที่กำหรดผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับ
2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ
3. นำเสนอผู้มีอำนาจ
- อนุญาตการลาอุปสมบท
- เสนอพระอุปัชฌาย์ เพื่อขออนุญาตให้ไปอุปสมบท
6. การลาไปประกอบพิธีฮัจย์
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. รับใบลาไปประกอบพิธีฮัจย์ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของใบลาและเอกสารประกอบ
2. เสนอใบลาให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั่นพื้นฐานหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจพิจารณา อนุญาต และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ลาทราบ
7. งานขอพระราชทานเพลิงศพ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เจ้าภาพแจ้งวัตถุประสงค์ของการขอพระราชทานเพลิงศพ
2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- หลักเกณฑ์คุณสมบัติ
- วันเดือนปีที่จะขอพระราชทานเพลิงศพ
- สถานที่
- นำเสนอผู้มีอำนาจลงนาม เสนอเลขาธิการพระราชวัง
- ติดต่อประสานงาน (เลขาธิการพระราชวัง เจ้าภาพ)
3. ดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักพระราชวัง
งานสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. งานสรรหาและบรรจุ
1. การสอบแข่งขัน สอบคัดเลือกและการคัดเลือก
1.1 สำรวจอัตราว่างข้าราชการครูและบุคลากรในสถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษา
1.2 วางแผนจัดทำโครงการและงบประมาณค่าใช้จ่ายในการสอบแข่งขันสอบคัดเลือก การคัดเลือก
1.3 ประสานการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนในการดำเนินการ
1.4 อนุมัติดำเนินการเปิดรับสมัครสอบแข่งขัน สอบคัดเลือก คัดเลือกต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
1.5 ดำเนินการสอบแข่งขัน สอบคัดเลือก การคัดเลือก
1.6 ขออนุมัติประกาศผลการสอบแข่งขันฯ สอบคัดเลือก การคัดเลือก และ การเรียกตัวบรรจุแต่งตั้งหรือเลื่อนและแต่งตั้ง
2. การแต่งตั้ง หรือ เลื่อน และ แต่งตั้งจากผู้สอบคัดเลือกหรือผู้ได้รับการคัดเลือก
2.1 มีหนังสือเรียกตัวผู้สอบคัดเลือกหรือผู้ได้รับการคัดเลือกมาเลือกสถานศึกษา
2.2 ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้บริหารสถานศึกษาแล้วแต่กรณีลงนามคำสั่งแต่งตั้ง
2.3 ส่งตัวผู้ได้รับการแต่งตั้งหรือเลื่อนและแต่งตั้งไปรายงานตัวในสถานศึกษา หรือหน่วยงานทางการศึกษาที่ได้รับการแต่งตั้งหรือเลื่อน และแต่งตั้งสถานศึกษารายงานตัวเข้ารับตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งหรือเลื่อน และแต่งตั้ง
3. การบรรจุเข้ารับราชการใหม่
3.1 มีหนังสือเรียกตัวผู้สอบแข่งขันได้มาเลือกสถานศึกษา
3.2 ส่งตัวผู้สอบแข่งขันได้ไปรายงานตัวที่สถานศึกษา
3.3 สถานศึกษารับรายงานตัว ปฐมนิเทศ และรายงานสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาทราบ
3.4 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นำเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาอนุมัติ ให้ผู้บริหารสถานศึกษาบรรจุและแต่งตั้งและแจ้งสถานศึกษาทราบ
3.5 ผู้บริหารสถานศึกษาออกคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติ
3.6 ผู้บริหารสถานศึกษารายงานและส่งคำสั่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษา
3.7 ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาหรือดำเนินการทดลองปฏิบัติราชการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนดและรายงานผลการดำเนินการต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
2. งานแต่งตั้ง ย้าย โอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
1. การแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.1 ศึกษา วิเคราะห์กฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.2 เสนอหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
1.3 สำรวจความต้องการและความจำเป็นในการแต่งตั้ง ตามที่หน่วยงานทางการศึกษาเห็นสมควร รวมทั้งตรวจสอบตำแหน่งว่างและอัตราเงินเดือนที่ใช้รับย้าย และรวบรวมข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประสงค์ที่จะให้มีการแต่งตั้ง
1.4 จัดทำข้อมูลรายละเอียดของผู้ประสงค์แต่งตั้ง ให้ อ.ก..ศ. เขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นชอบ
2. การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2.1 การย้ายผู้บริหาร ข้าราชการครูและบุลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษา วิเคราะห์กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2. เสนอหลักเกณฑ์การย้าย ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
3. สำรวจความต้องการและความจำเป็นในการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือย้ายตามที่หน่วยงานทางการศึกษาเห็นสมควร รวมทั้งตรวจสอบตำแหน่งว่างและอัตราเงินเดือนที่ใช้
รับย้าย
4. เขตพื้นที่การศึกษารวบรวมข้อมูล ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประสงค์ขอย้ายและจัดทำรายละเอียดข้อมูลของผู้ประสงค์ขอย้าย
5. จัดทำข้อมูลรายละเอียดของผู้ประสงค์แต่งตั้ง ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นชอบ
2.2 การย้ายผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาต่างเขตพื้นที่การศึกษา
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้บริหาร ข้าราชการครูและบุลากรทางการศึกษาแจ้งความประสงค์และเหตุผลความจำเป็นในการ ขอย้ายไปยังเขตพื้นที่การศึกษาที่ประสงค์ขอย้าย
2. เขตพื้นที่การศึกษาที่รับย้ายตรวจสอบคุณสมบัติข้อมูลรายละเอียดตรวจสอบตำแหน่งว่างและอัตราเงินเดือนที่ใช้รับย้าย
3. เสนอข้อมูลรายละเอียดต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาท่รับย้ายพิจารณาอนุมัติ
4. แจ้งผลการพิจารณาให้เขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัดทราบ
5. ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาหรือผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแล้วแต่กรณีลงนามแต่งตั้ง (ย้าย )
3. การรับโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. รวบรวมรายชื่อ ข้อมูล และรายละเอียดของผู้ประสงค์ขอโอน
2. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอโอน และตรวจสอบตำแหน่งว่างและอัตราเงินเดือนที่ใช้รับโอน
3. เสนอข้อมูลรายละเอียดให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณารับโอนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด
4. การบรรจุกลับเข้ารับราชการ
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. ตรวจสอบวิเคราะห์กฎหมาย ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
2. ผู้ประสงค์ขอกลับเข้ารับราชการยื่นความประสงค์ขอกลับเข้ารับราชการ
3. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประสงค์ขอกลับเข้ารับราชการ
4. เสนอข้อมูลรายละเอียดให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาอนุมัติ
5. การรักษาราชการแทน
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. ให้สถานศึกษาเสนอรองผู้อำนวยการสถานศึกษาเพื่อแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
2. กรณีสถานศึกษาไม่มีรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้สถานศึกษาเสนอครูหรือบุคลากรทางการศึกษาที่มีความเหมาะสมเพื่อแต่งตั้ง เป็นผู้รักษาราชการแทน
3. เสนอผู้มีอำนาจแต่งตั้งครูหรือบุคลากรทางการศึกษาให้รักษาราชการแทน
3. งานออกจากราชการ
1. การออกจากราชการ
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. ประสานการดำเนินการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในแต่ละปี
2. ส่งรายชื่อให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นผู้ประกาศในเดือนมีนาคมของทุกปี
3. แจ้งประกาศรายชื่อผู้เกษียณอายุราชการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าตัวทราบ
2. การลาออกจากราชการ
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. รับเรื่องการลาออกจากราชการของครูและบุคลากรทางการศึกษา
2. เสนอผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งพิจารณาอนุญาตการลาออกจากราชการของข้า ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด
3. การให้ออกจากราชการ
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. ตรวจสอบข้อมูลของผู้ออกจากราชการ
2. เสนอผู้มีอำนาจพิจารณาออกคำสั่ง
3. แจ้งสถานศึกษาและผู้ออกให้ลงนามรับทราบคำสั่งและแจ้งกลุ่มงานบริหารการเงินและสินทรัพย์
4. สถานศึกษาส่งคำสั่งที่รับทราบกลับคืนพร้อมบัตรประจำตัวข้าราชการ 11.5. รายงาน ก.ค.ศ. ให้ทราบ
4. การออกจากราชการกรณีถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ขั้นตอนและแนวปฏิบัติ
1. รับข้อมูลการไม่ผ่านการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2. ตรวจสอบข้อมูลและเสนอผู้มีอำนาจสั่งบรรจุให้มีคำสั่งให้ออกจากราชการ
3. แจ้งสถานศึกษาและผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการ ลงนามรับทราบคำสั่งและแจ้งกลุ่มงานบริหารการเงินและบริหารสินทรัพย์
งานพัฒนาบุคลากร
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. งานฝึกอบรมและลาศึกษาต่อ
1.1 การฝึกอบรม
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. สำรวจ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยสภาพความต้องการจำเป็นในการฝึกอบรม พัฒนา (Training need)
2. จัดทำแผนงาน/โครงการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร
3. จัดทำพัฒนาหลักสูตร คู่มือ นวัตกรรมและจัดหาเทคโนโลยี
4. ประสานและส่งเสริมการดำเนินการฝึกอบรมและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกตำแหน่ง ทั้งกรณีเตรียมเข้าสู่ตำแหน่ง (Pre service Training) และพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน (In service Training)
รวมทั้งการอบรมลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวกรณีเข้าสู่ตำแหน่งใหม่และกรณีประจำการ
5. การประเมินผลการฝึกอบรม
6. ดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบและกระบวนการฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาวิชาชีพ
7. ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาเสริมสร้างขวัญกำลังใจ ปกป้องคุ้มครองระบบคุณธรรมและยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษาในหน่วยงานทางการศึกษา
8. ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษามีการอบรมหรือประสานการฝึกอบรมและพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งในวิชาชีพ
9. สร้างเครือข่ายประสานการฝึกอบรมกับสถาบันการศึกษาและสถานศึกษา
10. ประสานกับหน่วยงานทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้มีการเทียบโอนประสบการณ์ในการฝึกอบรมกับการพัฒนาวิทยฐานะของบุคลากร ในสถาบันอุดมศึกษา
1.2 การลาศึกษาต่อ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษาความจำเป็นและดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาที่มีวุฒิและไม่มีวุฒิได้มีโอกาสศึกษาต่อตามความต้องการของตนและ หน่วยงานทางการศึกษา
โดยให้สอดคล้องกับนโยบายและหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือกระทรวงศึกษาธิการ และตามข้อตกลงในการส่งไปศึกษาต่อกับสถาบันอุดมศึกษา
2. ดำเนินการวางแผนและส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ลาศึกษาต่อทุกประเภทงานส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติ
2. งานส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ประสานการดำเนินการจัดสรรงบประมาณ สนับสนุน ส่งเสริมการพัฒนาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในการปฏิบัติงานให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพเป็นมืออาชีพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาวิชาชีพและคุณภาพ การศึกษา
2. เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ เพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยกย่อง เชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์
3. ประกาศแจ้งสถานศึกษาดำเนินการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
4. เขตพื้นที่ตั้งคณะกรรมการพิจารณาและนำเสนอ อ.ก.ค.ศ. ให้ความเห็นชอบ
5. ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและมอบเกียรติบัตร โล่รางวัล พร้อมเผยแพร่ ยกย่องอย่างกว้างขวาง
6. ให้นำผลงานไปประกอบการพิจารณาความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษงานพัฒนามาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณ
3. งานพัฒนามาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณ
3.1 การขอรับใบอนุญาตและการขอต่อใบอนุญาตวิชาชีพ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
2. เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา ตรวจสอบ และนำเสนอตามที่ผู้มีอำนาจหรือองค์กรวิชาชีพ มอบหมาย
3. จัดทำทะเบียนควบคุม กำกับ ดูแล ผู้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
4. ประสานองค์กรวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา และสถาบันการศึกษาที่ทำหน้าที่ผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาและ พัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเป็นมืออาชีพ
5. ส่งเสริมการดำเนินการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ประพฤติตามระเบียบ วินัย มาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
3.2 การส่งเสริมความมั่นคง ผดุงความเป็นธรรมในการประกอบวิชาชีพ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. วิเคราะห์งานความมั่นคงและความเป็นธรรมในการประกอบวิชาชีพ
2. กำหนดหลักเกณฑ์การส่งเสริมความมั่นคง และผดุงความเป็นธรรมในการประกอบวิชาชีพ
3. วางแผนดำเนินการส่งเสริมความมั่นคง และผดุงความเป็นธรรมในการประกอบวิชาชีพ
4. ประเมินผลและรายงานงานประเมินคุณภาพการบริหารงานบุคคล
4. งานประเมินคุณภาพการบริหารงานบุคคลล
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับการจัดทำและ พัฒนาฐานข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในหน่วยงานการศึกษา
2. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีประเมินผลการปฏิบัติงานด้านพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล
3. พัฒนามาตรฐานคุณภาพ โดยให้ผู้บริหารสถานศึกษาได้ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนดภาระงานขั้นต่ำและเกณฑ์การประเมินผลงานสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของเขตพื้นที่การศึกษา
4. ส่งเสริมและจัดทำเครื่องมือประเมินคุณภาพการบริหารงานบุคคล
5. ดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติงาน
6. นำผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ไปใช้ประโยชน ์ในการบริหารงานบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
7. จัดทำรายงานการบริหารงานบุคคลเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเสนอ ก.ค.ศ.
งานวินัยและนิติการ
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. งานวินัย
1.1 การส่งเสริมวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษาวิเคราะห์วิจัยสาเหตุการกระทำผิดวินัย การเสริมสร้างวินัย จริยธรรมให้ข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษามีวินัยและจริยธรรม
2. ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่อเสริมสร้างและพัฒนาวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาส่งเสริมให้สถานศึกษา มีการเสริมสร้างและพัฒนาวินัยข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา
3. จัดทำและสนับสนุนการจัดทำเอกสาร คู่มือ สื่อเกี่ยวกับการรักษาวินัยและการป้องกันการกระทำผิด วินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
4. ติดตามประเมินผลการพัฒนาวินัย จริยธรรมของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.2. การดำเนินการทางวินัยและการลงโทษ
1.2.1 การดำเนินการทางวินัยแก่ผู้กระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. รับเรื่องร้องเรียนเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
2.ร่วมเป็นคณะกรรมการสืบสวน/สอบสวนวินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด
3. ตรวจสอบสำนวนการสืบสวนสอบสวนพยานหลักฐานและเสนอความเห็นเพื่อให้มีการ พิจารณาสั่งลงโทษทางวินัยหรือให้ความเห็นในระดับโทษทางวินัยที่ผู้บังคับ บัญชาสั่งลงโทษ วินัยไม่ร้ายแรง
4. ประสานกับหน่วยงานหรือเขตพื้นที่การศึกษาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยในกรณี ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิดร่วมกัน
5. ให้คำปรึกษาแนะนำ อบรม และพัฒนาผู้บริหารข้อราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยว กับกระบวนการดำเนินการทางวินัย
6. จัดทำสรุปรวบรวมเอกสารหลักฐานการดำเนินการทางวินัยไม่ร้ายแรงข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาเสนอต่อองค์คณะบุคคลผู้มีอำนาจพิจารณาหรือหน่วยงาน บังคับบัญชา
7. ดำเนินการออกคำสั่งลงโทษตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
1.2.2 การดำเนินการทางวินัยแก่ผู้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. รับเรื่องร้องเรียนและสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น ตามกรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย
2. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเมื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วปรากฏ กรณีมีมูลการ กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
3. ร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณา
4. ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนพิจารณาพยานหลักฐานและเสนอความเห็นเพื่อให้มีการ พิจารณาสั่งลงโทษ ทางวินัยหรือให้ความเห็นในระดับโทษทางวินัยที่ผู้บังคับ บัญชาสั่งลงโทษ วินัยอย่างร้ายแรง
5. ประสานงานกับหน่วยงานหรือเขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัย กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิดร่วมกัน
6. จัดทำสรุปรวบรวมเอกสารหลักฐาน การดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อ เสนอองค์คณะผู้มีอำนาจพิจารณาหรือหน่วยงานบังคับบัญชา
7. ดำเนินการออกคำสั่งลงโทษตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
1.2.3 การสั่งพักราชการ สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. เมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดอย่างร้ายแรงและมีสาเหตุให้สั่งพักราชการไว้ก่อน
2. เมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดวินัยอย่างร้างแรงและมีสาเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อน
1.2.4 การรายงานการดำเนินการทางวินัยและการลงโทษ
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ผู้สั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนจัดทำรายงานผลการดำเนินการเมื่อมีการดำเนินการ ทางวินัยและการลงโทษทางวินัยไม่ร้ายแรง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เสนอให้ผู้มีอำนาจ ตามกฏหมายพิจารณา
2. จัดทำรายงานผลการดำเนินการเมื่อมีการดำเนินการทางวินัยและการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เสนอให้ผู้มีอำนาจตามกฏหมายพิจารณา
2. งานอุทธรณ์และร้องทุกข์
2.1 การอุทธรณ์
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษาวิเคราะห์ วิจัย กฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษ เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบและการใช้สิทธิทางกฏหมายและการรักษาสิทธิ
2. รับเรื่องอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยไม่ร้ายแรงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ตรวจพิจารณา และเสนอให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายพิจารณา
3. ให้คำปรึกษาแนะนำสิทธิการอุทธรณ์และการฟ้องร้องต่อศาลปกครองตรวจสอบคำอุทธรณ์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2.2 การร้องทุกข์
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ กรณี ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ร้องทุกข์เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับระเบียบและการใช้สิทธิทางกฎหมายและรักษาสิทธิบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบและการใช้สิทธิทางกฎหมายและรักษา สิทธิ
2. ให้คำปรึกษาแนะนำการร้องทุกข์และตรวจสอบคำร้องทุกข์ของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา
3. รับเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาตรวจ สอบพิจารณาและเสนอให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายพิจารณา
3. งานด้านกฎหมายและการดำเนินคดีของรัฐ
3.1. การดำเนินงานด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับที่ใช้ในหน่วยงาน
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งการจัดระบบการจัดเก็บให้บริการทาง กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ
2. ให้คำปรึกษาข้อเสนอแนะและตอบข้อหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ กรณีที่เป็นปัญหาทางกฎหมายให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและหน่วยงานในสังกัด
3. ส่งเสริม อบรม แนะนำให้ความรู้และพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบวินัย
3.2. การดำเนินงานด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงาน
ขั้นตอนและแนวการปฏิบัติ
1. ตรวจสอบการดำเนินการจัดทำนิติกรรม หรือ เอกสารมีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานในสังกัดมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น สัญญาซื้อขาย สัญญาจ้าง สัญญาเช่า สัญญาลาศึกษาต่อ
สัญญาค้ำประกัน หนังสือรับสภาพหนี้ หนังสือมอบอำนาจ การบอกเลิกสัญญา ฯลฯ
2. ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการทางคดีแพ่ง คดีอาญา คดีล้มละลาย คดีล่วงละเมิดสิทธิเด็ก คดีปกครอง ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานในสังกัด ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เป็นผู้เสียหาย หรือมีส่วนได้ส่วนเสีย และประสานกับพนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีหรือแก้ต่างคดี
3. พิจารณาดำเนินการหาตัวผู้รับผิดชอบทางละเมิด และการใช้สิทธิเรียกร้องติดตาม ทวง ถามให้ผู้ต้องรับผิดชำระหนี้แก่ทางราชการ
4. ให้ความช่วยเหลือแนะนำ ปรึกษา แนวทางต่อสู้คดีแพ่ง คดีอาญา คดีล้มละลาย คดีล่วงละเมิดสิทธิเด็ก คดีปกครอง รวมทั้งการเรียกค่าสินไหมทดแทน ในกรณี สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา หน่วยงานในสังกัด
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญา ถูกจับกุมคุมขัง ถูกฟ้องคดีแพ่ง ถูกฟ้องคดีอาญา ถูกฟ้องคดีปกครอง หรือถูกกระทำละเมิด
5.ร่วมปฏิบัติงานหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับ มอบหมายและปฏิบัติงาน อื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
งานเลขานุการ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ขอบข่าย/ภารกิจ
1. วิเคราะห์อำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา จัดกลุ่มงานให้เป็นหมวดหมู่ และกำหนดบุคลากรรับผิดชอบ
2. ออกแบบจัดทำทะเบียน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ให้สามารถใช้เป็นข้อมูลในการปฏิบัติงาน และประสานงานได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
3. ร่างระเบียบสำหรับใช้บริหารบุคคลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณากำหนด
4. วางแผนการประชุม
5. ประสานงานรวบรวมเรื่องที่จะนำเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำเอกสารการประชุม
6. เสนอประธาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา กำหนดนัดประชุม จัดทำหนังสือเชิญประชุม และส่งเอกสารการประชุมให้กรรมการพร้อมหนังสือเชิญประชุม
7. ประสานงานการจัดสถานที่ประชุม การจัดเตรียมสื่ออุปกรณ์สำหรับใช้ในการประชุม เบี้ยประชุมกรรมการ เอกสารหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการประชุมตลอดจนเครื่องดื่มและอาหารว่าง
8. ดำเนินการประชุมและจดบันทึกผลการประชุม
9. จัดทำรายงานการประชุมส่งให้อนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามมติที่ประชุม
10. ประสานงาน ติดตาม กำกับ และรวบรวมผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามมติที่ประชุม
11. ประเมินผลการดำเนินการประชุมนำข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุง แก้ไขให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น