ปลูกกะหล่ำปลี สร้างรายได้หลังฤดูทำนา

ชาวตำบลนาหัวบ่อ ประกอบอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลัก ส่วนมากปลูกข้าวนาปี หรือ ข้าวที่ต้องอาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูก ซึ่งเพาะปลูกได้เพียงหนึ่งครั้งต่อปี หลังฤดูทำนาเกษตรกรหลายรายจึงจำใจปล่อยแปลงนาของตนให้รกร้าง ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นการเสียโอกาสในการสร้างรายได้เป็นอย่างมาก

เกษตรกรบ้านหนองผักตบ ตำบลนาหัวบ่อ หลายครอบครัวหันมาปลูกผักหลังฤดูทำนา ตามความต้องการของตลาด โดยส่วนมากจะปลูกผักสวนครัวหลากหลายชนิด เช่น ต้นหอม ข่า ตะไคร้ ฯลฯ ซึ่งผักที่สร้างรายได้ และเป็นที่รู้จักว่าเป็นแหล่งปลูกที่มีคุณภาพ คือพริกและกะหล่ำปลี เพราะผลผลิตที่ได้มีขนาดและน้ำหนักเป็นที่ต้องการของตลาด

นายอภิวัฒน์ โยลัย ผู้ใหญ่บ้านหนองผักตบ หมู่ที่ 4 ตำบลนาหัวบ่อ เป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกพริกและกะหล่ำปลี เล่าว่า ทุกปีหลังจากฤดูทำนาช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านหนองผักตบจะปลูกพริกและกะหล่ำปลีกันหลายครอบครัว ส่วนของผู้ใหญ่จะปลูกพริกไว้ 1 แปลง แต่จะเน้นปลูกกะหล่ำปลี ประมาณ 2 ไร่ ซึ่งต้นทุนในการปลูกกะหล่ำปลี ประมาณ 7,500 บาท (จากค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าไถ ค่าปุ๋ยขี้ไก่ ปุ๋ยเคมีและค่าไฟฟ้าจากการสูบน้ำ) และจะเก็บผลผลิตช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะมีพ่อค้ามารับถึงที่ โดยจะทำเป็นถุงๆละ 10 กิโลกรัม ราคาอยู่ที่ 80 – 200 บาท แล้วแต่ช่วงที่เก็บผลผลิต ช่วงแรกต้นเดือนมกราคมที่เก็บผลผลิตราคาจะค่อนข้างสูง ปีนี้ขายได้ประมาณ 50,000 บาท กำไรหลังจากหักค่าใช้จ่าย ประมาณ 42,500 บาท ภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน

อาชีพการปลูกผัก โดยเฉพาะการปลูกกะหล่ำปลีสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนชาวตำบลนาหัวบ่อเป็นพืชเศรษฐกิจที่เป็นของดีของเด่นของตำบล ผู้ที่สนใจวิธีการปลูกหรือมารับซื้อผลผลิต สามารถติดต่อ ผู้ใหญ่อภิวัฒน์ โยลัย โทร.063-5907093