ตำบลกระเสาะ
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา ช่างไม้ (การทำกรงนก)
1. ชื่อ – สกุล นายมะแอ ดาวางอ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มีนาคม 2501
2.2 อายุ 67 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 38/2 หมู่ที่ 3 ตำบลกระเสาะ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ -
4. ประวัติความเป็นมา
นายมะแอ ดาวางอ เป็นผู้ที่มีความสามารถเกี่ยวกับงานช่าง ต่างๆได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการทำกรงนกและมีความรู้ความสามารถในการทำกรงนกในรูปแบบต่างๆเพราะมีความชอบส่วนตัวสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ที่สนใจเป็นการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญา สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
มีความรู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทำกรงนกสามารถทำในรูปแบบต่างๆที่ลูกต้าต้องการ และมีการพัฒนาลวดลายกรงนกหัวจุกที่แข็งแรง คงทน สวยงาม รูปแบบที่หลากลาย สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนที่สนใจ
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ชื่อ – สกุล นายยา ลาเตะ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มกราคม 2501
2.2 อายุ 67 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 29/2 หมู่ที่ 2 ตำบลกระเสาะ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 081-099-4110
4. ประวัติความเป็นมา
การเข้าครัวทำอาหาร จะประสบปัญหาเวลาปอกหรือหั่นหัวหอมทุกครั้ง จะทำให้เป็นต้องเสียน้ำตาทุกครั้ง ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดมาจากสารประกอบซัลเฟอร์หรือกำมะถัน ที่พุ่งกระจายออกมาตอนที่เราหั่นหัวหอมนั้น มักลอยเข้ามาในตา จึงทำให้เกิดอาการแสบและระคายเคืองตา จึงทำให้เกิดความคิดและหาแนวทางในการแก้ปัญหาเวลาซอยหอมด้วยการทำที่ซอยหัวหอม ไม่ให้แสบตา จะทำให้การหั่นหอม ซอยหอมให้ง่ายขึ้น สไลด์ง่าย รวดเร็ว แล้วยังไม่แสบอีกด้วย
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
นายยา ลาเตะ อายุ 66 ปี เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามรถ และมีประสบการณ์ ในการทำงานฝีมือช่าง มีผลงานในสิ่งที่ทำมือ สามารถทำงานช่างได้หลายประเภท เช่นการจักรสานต่างๆ ผลงานที่โดดเด่นได้แก่การทำที่ซอยหัวหอมและยังเป็นที่สไลด์เอนกประสงค์ ที่ใช้ในครัวเรือน สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
การทำที่ซอยหัวหอม เป็นที่สนใจของประชาชนในตำบลกระเสาะ มีการศึกษาและเรียนรู้จากภูมิปัญญา สามารถใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ ปัจจุบันมีการนิยมใช้อย่างแพร่หลาย เพราะสะดวก และลดระยะเวลาในการประกอบอาหาร ที่สำคัญสามารถประดิษฐ์และผลิตชิ้นงานได้เอง
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
ศูนย์การเรียนรู้ตำบลกระเสาะได้มีการนำนักศึกษาและประชาชน ที่สนใจไปศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขั้นตอนการทำ และวัสดุอุปกรณ์ที่มีในท้องถิ่นที่สามารภนำมาใช้ ในการทำที่ซอยหัวหอม เพื่อใช้ในครัวเรือน
ตำบลสาคอใต้
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ชื่อ – สกุล นายกอเซ็ง กียะ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มกราคม 2512
2.2 อายุ 58 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 15 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคอใต้ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 061-5366457
4. ประวัติความเป็นมา
ช่างไม้ มิได้หมายความแต่เพียงว่า ทำการเลื่อยไม้ ไสกบ หรือตอกตะปูเป็น หากกินความ ลึกซึ้งถึงผู้ที่มีความถนัด ความสามารถ และมีทักษะในการทำงานช่างไม้ มีความรู้เกี่ยวกับชนิด คุณสมบัติ ของไม้ ใช้เครื่องมือช่างไม้ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และทำงานมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรต้องมีความรู้ เกี่ยวกับ อุปกรณ์ เครื่องใช้และวัสดุอื่นๆที่จะต้องใช้ร่วมกับไม้อีกด้วย เช่น กระจก บานพับ กุญแจ ฯลฯ ลักษณะของงานอาชีพนี้คือ การปฏิบัติเกี่ยวกับงานช่างไม้ทั่วๆไป เช่น การตัด เลื่อย ไส ปรับ ตอก ตะปู ทากาว ทำโครง ทำรูปร่างการก่อสร้าง ติดตั้ง ประกอบโครงสร้าง ทำโครงไม้ชั่วคราว ซ่อมแซมและ ดัดแปลงส่วนต่างๆที่เป็นไม้ บุฝา มุงหลังคา ทำเครื่องเรือน เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ การทำงานของช่างไม้ ถ้าพิจารณาตามลักษณะงานข้างต้นแล้ว จะเห็นว่าต้องทำงานในสถานที่และ ลักษณะต่างๆกัน เช่น ทำบนที่สูง ทำในอาคารและนอกอาคาร ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานประเภทนี้ จึงควรอาศัย คุณสมบัติหลายๆประการ เช่น เป็นคนอดทน แข็งแรง สุขภาพดี ทำงานปราณีต และแม่นยำ
นายกอเซ็ง กียะ นับเป็นช่างไม้ ที่มีความรู้ตั่งแต่การเลือกไม้เพื่อความคงทน เหมาะสมกับประเภทที่ต้องการใช้งาน ตลอดจน การใช้วัสดุอุปกรณ์ การทำโครงบ้าน การทำวงกบ การทำบานประตู หน้าต่าง และการทำฉลุลายไม้เชิงชาย การเป็นช่างไม้สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
เป็นช่างที่มีความรู้ในการเลือกไม้ การใช้อุปกรณ์ มีฝีมือประณีต แม่นยำ สามารถ สร้างโครงบ้าน หลังคา วงกบ บานประตู หน้าต่าง และที่สำคัญคิดค่าแรงอย่างกัลยานมิตร
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ชื่อ – สกุล นางบีเดาะ สาแม็ง
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มกราคม 2512
2.2 อายุ 58 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 15 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคอใต้ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 061-5366457
4. ประวัติความเป็นมา
ช่างไม้ มิได้หมายความแต่เพียงว่า ทำการเลื่อยไม้ ไสกบ หรือตอกตะปูเป็น หากกินความ ลึกซึ้งถึงผู้ที่มีความถนัด ความสามารถ และมีทักษะในการทำงานช่างไม้ มีความรู้เกี่ยวกับชนิด คุณสมบัติ ของไม้ ใช้เครื่องมือช่างไม้ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และทำงานมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรต้องมีความรู้ เกี่ยวกับ อุปกรณ์ เครื่องใช้และวัสดุอื่นๆที่จะต้องใช้ร่วมกับไม้อีกด้วย เช่น กระจก บานพับ กุญแจ ฯลฯ ลักษณะของงานอาชีพนี้คือ การปฏิบัติเกี่ยวกับงานช่างไม้ทั่วๆไป เช่น การตัด เลื่อย ไส ปรับ ตอก ตะปู ทากาว ทำโครง ทำรูปร่างการก่อสร้าง ติดตั้ง ประกอบโครงสร้าง ทำโครงไม้ชั่วคราว ซ่อมแซมและ ดัดแปลงส่วนต่างๆที่เป็นไม้ บุฝา มุงหลังคา ทำเครื่องเรือน เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ การทำงานของช่างไม้ ถ้าพิจารณาตามลักษณะงานข้างต้นแล้ว จะเห็นว่าต้องทำงานในสถานที่และ ลักษณะต่างๆกัน เช่น ทำบนที่สูง ทำในอาคารและนอกอาคาร ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานประเภทนี้ จึงควรอาศัย คุณสมบัติหลายๆประการ เช่น เป็นคนอดทน แข็งแรง สุขภาพดี ทำงานปราณีต และแม่นยำ
นายกอเซ็ง กียะ นับเป็นช่างไม้ ที่มีความรู้ตั่งแต่การเลือกไม้เพื่อความคงทน เหมาะสมกับประเภทที่ต้องการใช้งาน ตลอดจน การใช้วัสดุอุปกรณ์ การทำโครงบ้าน การทำวงกบ การทำบานประตู หน้าต่าง และการทำฉลุลายไม้เชิงชาย การเป็นช่างไม้สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
เป็นช่างที่มีความรู้ในการเลือกไม้ การใช้อุปกรณ์ มีฝีมือประณีต แม่นยำ สามารถ สร้างโครงบ้าน หลังคา วงกบ บานประตู หน้าต่าง และที่สำคัญคิดค่าแรงอย่างกัลยานมิตร
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ตำบลสาคอบน
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา หัตถกรรม
1. ชื่อ – สกุล นางสาวฟาอีซะห์ มายะ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 เมษายน 2523
2.2 อายุ 45 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 14 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคอบน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 081-2932874
4. ประวัติความเป็นมา
หัตถกรรม (Handicraft) คือ งานช่างที่ทำด้วยมือหรืออุปกรณ์ง่าย ๆ อาศัยทักษะและเน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก โดยทั่วไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและศาสนา สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
นางสาวฟาอีซะห์ มายะ เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการสานกระจูด แบบต่าง ๆ เช่น เสื่อ กระบุง สมุก ไว้ใช้ในบ้าน ซึ่งใช้เส้นใยจากพืชที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น มาสานเป็นเครื่องใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน เช่นสานสาดกระจูดไว้ปูนอนหรือตากข้าวเปลือก สานสอบไว้ใส่ข้าวเปลือกที่ตากแล้วไว้ลำเลียงไปขาย สานกระบุงไว้ใส่ข้าวสาร ใส่หอมกระเทียมในครัว สานสมุกไว้ใส่่หมากพลูปูนกินกับหมาก ชิ้นงานต่างๆที่กล่าวมา สามารถทำขายตามออเดอร์ส่งผลให้สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้วัสดุและเส้นใหญ่จากธรรมชาติและที่มีอยู่ในท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อน ราคาย่อมเยาว์
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ตำบลสะกำ
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา เศรษฐกิจพอเพียง
1. ชื่อ – สกุล นางกีเยาะ ดีเย๊าะ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 25 กรกฏกคม 2509
2.2 อายุ 59 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 47 หมู่ที่ 2 ตำบลสะกำ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 061-0871262
4. ประวัติความเป็นมา
นางกีเยาะ ดีเย๊าะ ทำงานอาชีพเกษตรกร อาชีพหลักคือกรีดยาง ทำนา ทำสวน หาเช้ากินและ
ท่านเป็นคนที่ขยันมากและให้ความสำคัญกับการพัฒนาขยายพื้นที่เพาะปลูกและยังให้ความช่วยเหลือหน่วยงานเกษตรของอำเภอมายอ ด้วย ท่านเป็นคนที่มีจิตอาสาหลาย ๆ ด้าน เช่นปัจจุบันผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นอาสาเกษตรตำบล ฯลฯ หน่วยงานในตำบลได้เล็งเห็นถึงความขยันและความเหมาะสมทำหน้าที่ในการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่องในส่วนการดำเนินงานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็ยังทำอย่างต่อเนื่องท่านได้รับการศึกษากับสกร.อำเภอมายอจนจบมัธยมศึกษาตอนปลายจากนั้นศกร.ระดับตำบลสะกำได้แต่งตั้งเป็นคณะทำงานของ ศกร.ตำบลมาตลอดเพราะท่านสามารถให้ความช่วยเหลือในหลายๆด้านและท่านได้เป็นวิทยากรเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนในตำบลมาหลายเวทีมาก เพราะท่านได้ผ่านการอบรมมาอย่างต่อเนื่อง สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่ได้อย่างดีเยี่ยม
ปัจจุบันนางกีเยาะ ดีเย๊าะ ได้นำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตได้เพาะปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อขายตามท้องตลาดทุกวัน ผักมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การเพาะปลูกพืชผักสวนสามาถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว ทำเป็นรายได้หลักและเสริม เพราะเป็นที่นิยมในการบริโภคและเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ที่สำคัญอาชีพการเพาะปลูกพืชผักสวน สามารถเรียนรู้และทำได้เองในครัวเรือน
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชนที่สนใจจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกพืชผักสวน ซึ่งทางสกร.ระดับอำเภอมายอ ให้การสนับสนุนด้านวิทยากรในการถ่ายทอดให้ความรู้กับนักศึกษา ศกร.อำเภอมายอและประชาชนที่สนใจจะสร้างอาชีพได้
ตำบลุโบะยีไร
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ชื่อ – สกุล นายซูไฮบ อาแวบือซา
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มกราคม 2544
2.2 อายุ 24 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 57 หมู่ที่ 5 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 065 381 8490
4. ประวัติความเป็นมา
อดีตนางสาวมารียานา สือแม เป็นคนอำเภอกะพ้อ ได้แต่งงานกับคนในหมู่บ้านน้ำใส ชื่อนายอาแซ สือแม อาชีพเกษตรกร ได้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 5 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อก่อนครอบครัว นางสาวมารียานา สือแม ได้ทำอาชีพเกษตรกรเกี่ยวกับหลักเกษตรกรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ฯลฯ การใช้เวลาว่างของครอบครัวคือได้มีการปลูกผักชีล้อมข้าง ๆ บ้าน พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จากนั้นมาได้มีการเก็บเกี่ยวผักชีล้อมไปส่งตลาดใหม่ในเมืองยะลาเอง โดยที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง วันหนึ่งได้ประมาณ 1,500 บาท โดยที่ไม่มีอาชีพอื่นเลยและเป็นที่ตลาดต้องการมากด้วยทำอาชีพนี้ได้ประมาณ 4 ปี ก็มีอาชีพใหม่เสริมเข้ามาอีก อาชีพการเพาะเห็ดนางฟ้าซึ่งครอบครัวเขาได้เล็งเห็นว่าอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่สามารถทำรายได้เหมือนกันและเป็นอาชีพที่ตลาดต้องการ ก็เลยได้มีการเริ่มสรรหาวัตถุดิบการเพาะเห็ดนางฟ้า ครอบครัวเขาได้หารือที่ปรึกษาว่าจะทำอาชีพนี้เสริมเห็นด้วยมั่ย โดยมีชื่อนายฮาเซ็ง บาโล เป็นอาสาเกษตรระดับหมู่บ้านและครูศกร.ตำบลลุโบะยิไร วัตถุดิบการเพาะเห็ดนางฟ้า ซึ่งปัจจุบันได้สืบทอดให้นายซูไฮบ อาแวบือซา เป็นลูกคนที่ 4 สานอาชีพต่อ
จากนั้นครอบครัวนางสาวมารียานา สือแม ได้เริ่มทำอาชีพการเพาะเห็ดนางฟ้าเสริมโดยจะมีการเก็บเกี่ยวทุกวันได้ประมาณวันละ 700 – 800 บาทต่อวัน ซึ่งอาชีพการเพาะเห็ดนางฟ้าก็จะสร้างโรงข้าง ๆ บ้าน จำนวน 2 โรง ทำอาชีพทั้ง 2 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นอาชีพของครอบครัวโดยที่ไม่มีหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การเพาะเห็ดนางฟ้าสามาถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว ทำเป็นรายได้หลักและเสริม เป็นที่นิยมในการบริโภค และที่ต้องการของตลาดที่ทำอยู่ปัจจุบัน ที่สำคัญวิธีการเพาะเห็ดนางฟ้าเป็นอาชีพที่ไม่ซับซ้อนสามารถเรียนรู้และทำได้เองในครัวเรือนใช้แรงงานภายในครอบครัวลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชนที่สนใจจะเรียนรู้อาชีพการเพาะเห็ดนางฟ้า ซึ่งทางสกร.ระดับอำเภอมายอ ให้การสนับสนุนด้านวิทยากรในการถ่ายทอดให้ความรู้กับประชาชนที่สนใจจะสร้างอาชีพนี้ได้อย่างดี
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา เศรษฐกิจพอเพียง
1. ชื่อ – สกุล นายฮาเซ็ง บาโล
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มีนาคม 2515
2.2 อายุ 53 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 41/2 หมู่ที่ 5 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 089 2969657
4. ประวัติความเป็นมา
เมื่อก่อนนายฮาเซ็ง บาโล ทำงานอาชีพเกษตรกร อาชีพหลักคือกรีดยางและทำสวนหาเช้ากินค่ำและท่านเป็นคนที่ขยันมากและให้ความสำคัญกับการพัฒนาขยายพื้นที่เพาะปลูก และยังให้ความช่วยเหลือหน่วยงานเกษตรของอำเภอมายอ ด้วย ท่านเป็นคนที่มีจิตอาสาหลาย ๆ ด้าน เช่น ปัจจุบันผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นอาสาเกษตรตำบล ฯลฯ หน่วยงานในตำบลได้เล็งเห็นถึงความขยันและความเหมาะสมทำหน้าที่ในการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนการดำเนินงานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็ยังทำอย่างต่อเนื่องท่านได้รับการศึกษากับสกร.อำเภอมายอจนจบมัธยมศึกษาตอนปลายจากนั้นศกร.ระดับตำบลลุโบะยิไรได้แต่งตั้งเป็นคณะทำงานของ ศกร.ตำบลมาตลอด เพราะท่านสามารถให้ความช่วยเหลือในหลาย ๆ ด้าน และท่านได้เป็นวิทยากรเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนในตำบลมาหลายเวทีมาก เพราะท่านได้ผ่านการอบรมมาอย่างต่อเนื่อง สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่ได้อย่างดีเยี่ยม
ปัจจุบันนายฮาเซ็ง บาโล ได้นำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ มาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตได้เพาะปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อขายตามท้องตลาดทุกวัน ผักมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การเพาะปลูกพืชผักสวน สามาถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว ทำเป็นรายได้หลักและเสริม เพราะเป็นที่นิยมในการบริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ที่สำคัญอาชีพการเพาะปลูกพืชผักสวน สามารถเรียนรู้และทำได้เองในครัวเรือน
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชนที่สนใจจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกพืชผักสวน ซึ่งทางสกร.ระดับอำเภอมายอ ให้การสนับสนุนด้านวิทยากรในการถ่ายทอดให้ความรู้กับนักศึกษา ศกร.อำเภอมายอและประชาชนที่สนใจจะสร้างอาชีพได้
ตำบลลางา
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา หัตถกรรม (เตาปูน)
1. ชื่อ – สกุล นายมะนารดี เจะนิ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 15 เมษายน 2511
2.2 อายุ 57 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 13/1 หมู่ที่ 1 ตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 065-5807478
4. ประวัติความเป็นมา
นายมะนารดี เจะนิ เกิดวันที่ 15 เมษายน 2511 อายุ 54 ปี ปัจจุบันมีอาชีพกรีดยาง และเป็น
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และมีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับงานก่อสร้างบ้าน และจะนำปูนที่เหลือจากงานก่อสร้างมาแปรรูปเป็นของใช้ในบ้าน เป็นกระถาง เป็นต้น จึงมีแนวคิดที่จะหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวพยายามที่จะหาความรู้ในการทำเตาถ่าน เตาปิ้งยาง เตาปูน เป็นต้น
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
ผลิตภัณฑ์เตาปูน มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เพราะผลิตโดยเสริมเหล็กอย่างดี แข็งแรงทนทาน ไม่แตกพังง่าย ใช้งานได้นาน สะดวกต่อการใช้หุงต้ม ดูแลรักษาง่าย ตัวผลิตภัณฑ์แฝงไว้ซึ่งงานฝีมือของภูมิปัญญาท้องถิ่น มีรูปแบบที่หลากหลาย สามารถผลิตตามความต้องการของผู้ใช้งาน จากวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นปูน และเหล็กที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน จึงเป็นที่นิยมสำหรับการใช้งานในครัวเรือน และเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในชุมชน ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด โดยไปส่งตามร้านขายปลีก ร้านขายส่ง และจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้าง
ตำบลมายอ
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา เกษตร
1. ชื่อ – สกุล นางสะกีลา เจะมะ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 22 กันยายน 2507
2.2 อายุ 61 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 146 หมู่ที่ 1 ตำบลมายอ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 089-8788710
4. ประวัติความเป็นมา
นางสะกีลา เล่าถึงประสบการณ์การทำงานด้านเกษตรอินทรีย์ และได้รับการยอมรับจากชาวบ้านและเป็นที่รู้จักของเกษตรกรส่วนใหญ่ทั้งในตำบลและตำบลใกล้เคียงก่อนที่จะทำงานด้านเกษตร เคยทำอาชีพมาหลายอย่าง เช่น การค้าขาย งานฝีมือ และงานเกษตรแบบดั้งเดิมว่ากันว่าทุกสิ่งที่สรรค์สร้างล้วนแต่เป็นเรื่องของเกษตรเชิงเดี่ยว ปลูกอย่างเดียวชนิดเดียวล้วน ๆ และส่วนใหญ่ก็เน้นในเรื่องของการใช้สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช ที่คิดเพียงอย่างเดียวว่าจะช่วยเร่งให้มีผลผลิตเร็วและได้ผลดีคุ้มกับการลงทุน เพราะสิ่งที่ได้รับไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะคนที่เขากำหนดราคาทั้งปุ๋ยเคมี และสารเคมีต่าง ๆ โดยเฉพาะยาปราบศัตรูพืช คือ พ่อค้าไม่ใช่เกษตรกร และผลผลิตที่สามารถผลิตได้ เกษตรกรก็ยังไม่สามารถกำหนดราคาได้อีก
นอกจากนี้ นางสะกีลาเล่าให้ฟังว่า ขณะที่เขาพึ่งพาสารเคมีในการผลิตสินค้าเกษตร นอกจากเขาทำลายผืนดินที่เขาทำกินแล้ว เขายังทำลายตัวเองไปด้วยเพราะร่างกายที่เคยแข็งแรงดูอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด สุขภาพที่เคยดีกลับไม่มีเรี่ยวแรง เหตุเพราะสารเคมีที่ใช้ทุกวันสะสมในร่างกายอย่างไม่รู้ตัวและเมื่อคุณสะกีลาเริ่มไม่ค่อยสบายจากปัญหาสุขภาพที่เกิดจากสารเคมีที่ใช้ตกค้างในร่างกายจึงคิดทบทวนตัวเอง และเกิดความคิดขึ้นมาว่า หากต้องพึ่งพาสารเคมีในการผลิตสินค้าเกษตร ต้องลำบากเป็นแน่เพราะ ยิ่งทำยิ่งจน ต้นทุนสูง ไม่ใช่เฉพาะสินค้าเกษตรที่ผลิตออกมาแต่มันหมายถึงต้นทุนชีวิตของเขาด้วย จากนั้นจึงได้คิดที่จะไม่ใช้สารเคมี โดยได้ยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานแนวคิดด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงหันหลังให้กับสารเคมี หัน ใช้จุลินทรีย์และสารชีวภาพทดแทน เครื่องมือการเกษตรให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ และในช่วง 1 ปีผ่านไป ก็เห็นว่าแนวทางที่ทำมาถูกทาง
ทางรอดของเกษตรกรคือเราต้องทำอย่างไรให้ต้นทุนเราน้อยที่สุด โดยเราต้องไม่ใช้สารเคมีและต้องพึ่งพาตนเองให้ได้ก่อน เมื่อเราลดต้นทุนของเราได้ ถึงแม้ราคาสินค้ามันจะถูกเราก็ขายได้ อยู่ได้ แต่หากราคามันสูงเราก็ได้เงินมากขึ้น อย่าไปคิดมาก เพราะเราไม่ใช่ผู้กำหนดราคา เมื่อเรากำหนดราคาไม่ได้ เราต้องลดต้นทุน ให้เราอยู่ได้ เศรษฐกิจพอเพียงคือสิ่งที่ผมยึดถือและปฏิบัติมาตลอดทำทุกอย่างที่ลดต้นทุน
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
เป็นเกษตรกรตัวอย่างในชุมชนสามารถเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจในการทำเกษตรอินทรีย์ ผักที่ปลูกเรามั่นใจในการบริโภค เพราะเป็นผักที่ปลอดภัยมีประโยชน์
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ตำบลปานัน
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
กรงนก
1. ชื่อ – สกุล นายอาหะมะ สาแม
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 มีนาคม 2508
2.2 อายุ 60 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 89 หมู่ที่ 2 ตำบลปานัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 087-0767049
4. ประวัติความเป็นมา
การทำกรงนกถือเป็นภูมิปัญญาของชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งในยุคแรก ๆ ที่เทคโนโลยียังไม่เจริญก้าวหน้ามาก จึงต้องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเจาะรูไม้ที่ทำกรงนก เช่น ในหมู่ที่ 2 ตำบลปานัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ใช้ก้านร่มเสียบกับไม้ผัดลนไฟผัดกับมือเพื่อเจาะรู ซึ่งใช้เวลานานมากในการทำเนื่องจากไม่มีเครื่องมือทุ่นแรง ต่อมาเมื่อมีเครื่องมือ เช่น สว่านมือหมุน หรือเครื่องเจาะรูอัตโนมัติ การทำกรงนกในปัจจุบันนี้มีการทำกรงนกกันมาก เพราะมีลูกค้ามารับกรงนกถึงที่บ้าน ซึ่งอาจจะโทรมาสั่งโดยบอกขนาดและรูปแบบที่ต้องการ หรือมีพ่อค้าคนกลางเข้ามาทำให้ทำตลาดได้มากขึ้น ทำให้ชุมชนบางชุมชนทำเป็นอาชีพหลักไปเลยก็มี
คนใต้ชอบเลี้ยงนกเหมือนกับคนไทยในภาคอื่น ๆ จะเห็นได้จากเกือบทุกบ้านทั้งของไทยมสลิมและไทยพุทธจะมีการชักกรงนกขึ้นสู่ยอดเสาแขวนเรียงกันเป็นแถวแนวตามชุมชนทั่วไปจนกลายเป็นสัญลักษณ์เชื่อมโยงความสัมพันธ์สมัครสมานระหว่างชาวไทย ที่มีความแตกต่างทางด้านศาสนา นกที่คนใต้ชอบเลี้ยงกันมากได้แก่ นกเขาชวา ชาวบ้านนิยมเรียกว่านกเขาเล็ก และนกปรอดหัวจุก ชาวบ้านนิยมเรียกว่านกกรงหัวจุก ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้ดูเล่น ฟังเสียงร้อง และนำไปประกวดแข่งขัน ซึ่งมีแทบทุกเสาร์-อาทิตย์ ตลอดถึงงานเทศกาลต่าง ๆ และความเชื่อปัจจุบันนี้มีผู้นิยมเลี้ยงนกเขาหันไปประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับนกเขาได้หลายอาชีพ เช่น อาชีพการเพาะพันธุ์ โดยแยกระดับการเลี้ยงนกคือบางรายเพาะเลี้ยงนกเขาแบบธรรมดา ไม่เน้นลักษณะเด่นทั้ง สัดส่วนรูปทรงและเสียง เพื่อสนองความต้องการของผู้เลี้ยงสมัครเล่น บางรายเพาะเลี้ยงนกเขาสายพันธุ์ดี ซึ่งสายพันธุ์นี้จะได้มาจากนกที่ชนะการประกวดจากงานสําคัญต่าง ๆ
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การทำกรงนกถือเป็นภูมิปัญญาหนึ่งของนายอาหะมะ สาแม ที่ควรแก่การสืบสาน และปลูกฝังให้เกิดจิตสำนึกในการรักถิ่นฐานบ้านเกิด รักภูมิปัญญาของท้องถิ่น และถือเป็นหน้าที่ของคนรุ่นใหม่ทุกคน ที่ต้องดำรงสืบทอดให้กับลูกหลาน
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ตำบลถนน
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา ช่างไม้
1. ชื่อ – สกุล ซาการียา อาแวกือจิ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 22 เมษายน 2508
2.2 อายุ 60 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 116/1 หมู่ที่ 1 ตำบลถนน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 092- 258 0484
4. ประวัติความเป็นมา
นายซาการียา อาแวกือจิ ชอบเลี้ยงนกเหมือนกับคนไทยในภาคอื่น ๆ จะเห็นได้จากเกือบทุกบ้าน ทั้งของไทยมุสลิมและไทยพุทธ จะมีการชักกรงนกขึ้นสู่ยอดเสาแขวนเรียงกันเป็นแถวแนวตามชุมชนทั่วไป จนกลายเป็นสัญลักษณ์เชื่อมโยงความสัมพันธ์สมัครสมานระหว่างชาวไทยที่มีความแตกต่างทางด้านศาสนา นกที่คนใต้ชอบเลี้ยงกันมากได้แก่ นกเขาชวา ชาวบ้านนิยมเรียกว่านกเขาเล็ก และนกปรอดหัวจุก ชาวบ้านนิยมเรียกว่านกกรงหัวจุก ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้ดูเล่น ฟังเสียงร้อง และนำไปประกวดแข่งขัน ซึ่งมีแทบทุกเสาร์-อาทิตย์ ตลอดถึงงานเทศกาลต่าง ๆ และความเชื่อ ปัจจุบันนี้มีผู้นิยมเลี้ยงนกเขาหันไปประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับนกเขาได้หลายอาชีพ เช่น อาชีพการเพาะพันธุ์ โดยแยกระดับการเลี้ยงนก คือบางรายเพาะเลี้ยงนกเขาแบบธรรมดา ไม่เน้นลักษณะเด่นทั้งสัดส่วนรูปทรงและเสียง เพื่อสนองความต้องการของผู้เลี้ยงสมัครเล่น บางรายเพาะเลี้ยงนกเขาสายพันธุ์ดี ซึ่งสายพันธุ์นี้จะได้มาจากนกที่ชนะการประกวดจากงานสำคัญต่าง ๆ โดยนกเขาที่ชนะการประกวด บางตัวมีราคานับล้านบาท แม้กระนั้นในบางตัวที่ได้รับรางวัลลดหลั่นลงมาก็มี ราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท เมื่อเป็นนกเขาเกรดดีสายพันธุ์ดี ผู้เลี้ยงจึงต้องสรรหากรงสำหรับเลี้ยงให้เหมาะสมกับราคาของนก และคุณค่าของนกตัวนั้นด้วย เมื่อมีการนิยมเลี้ยงนก สิ่งที่ตามมาก็คืออาชีพการทำกรงนก ซึ่งสามารถสร้างรายได้ที่มั่งคั่งให้กับครอบครัวได้ กรงนกที่ทำออกมามีหลายแบบทั้งแบบทั่วไปแบบสั่งทำตามปกติและแบบสั่งทำพิเศษ ซึ่งกรงนกที่สั่งทำนั้นจะมีความละเอียด ประณีตและสวยงามเป็นพิเศษทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำด้วย กรงนกเขาชวาและกรงนกหัวจุกมีลักษณะแตกต่างกัน โดยกรงนกเขาชวานิยมทรงรูปกลมโกมน โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 14 นิ้ว สูงประมาณ 16-18 นิ้ว มีลักษณะเรียบ ๆ และได้มีการพัฒนาโดยแกะดอกเป็นรูปต่าง ๆ ที่ซี่กรงเรียกว่า
“กรงมีดอก” ล่าสุดมีการพัฒนาถึงขั้นทำด้วยไม้สาวดำไม้มะม่วงป่าและไม้ชิงชัน ทั้งตัวกรงและซี่กรงพร้อมทั้งแกะสลักที่ฐานกรง
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การทำกรงนกถือเป็นภูมิปัญญาของชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งในยุคแรกๆ ที่เทคโนโลยียังไม่เจริญก้าวหน้ามาก จึงต้องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเจาะรู ไม้ที่ทำกรงนก เช่น ในหมู่ที่ 1 ตำบลถนน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ใช้ก้านร่มเสียบกับไม้ผัดลนไฟผัดกับมือเพื่อเจาะรู ซึ่งใช้เวลานานมากในการทำเนื่องจากไม่มีเครื่องมือทุ่นแรง ต่อมาเมื่อมีเครื่องมือ เช่น สว่านมือหมุน หรือเครื่องเจาะรูอัตโนมัติ การทำกรงนกในปัจจุบันนี้มีการทำกรงนกกันมาก เพราะมีลูกค้ามารับกรงนกถึงที่บ้าน ซึ่งอาจจะโทรมาสั่งโดยบอกขนาดและรูปแบบที่ต้องการ หรือมีพ่อค้าคนกลางเข้ามาทำ ทำให้ชุมชนบางชุมชนทำเป็นอาชีพหลักไปเลยก็มี
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอมายอให้แก่นักศึกษาและประชาชน รวมถึงเป็นการสืบสานการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ซึ่งเป็นรากฐานความรู้ของช่าวบ้านที่สร้างจากประสบการณ์ และความรอบรู้
ตำบลตรัง
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ชื่อ – สกุล นางละออ แดงเพ็ง
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 1 เมษายน 2481
2.2 อายุ 87 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 14/3 หมู่ที่ 2 ตำบลตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 081-2932874
4. ประวัติความเป็นมา
เสวียนหม้อ เป็นเครื่องรองก้นหม้อเพื่อให้หม้อตั้งได้โดยก้นไม่กระทบพื้น ทำด้วยหวาย หรือก้านมะพร้าว หรือใช้ขี้ตอกมัดเป็นเปราะๆ ต่อกันเป็นเส้น แล้วขดเป็นวงกลมขนาดย่อมกว่าก้นหม้อเล็กน้อย ใช้รองก้นหม้อ หากไม่มีเสวียนรองรับอาจทำให้พื้นที่วางหม้อไหม้
นางละออ แดงเพ็ง ได้เข้าฝึกทักษะการทำเสวียนหม้อ จากกลุ่มฝึกอาชีพหลักสูตรกลุ่มสนใจเมื่อปี พ.ศ. 2550 นางลออ การทำเสวียนหม้อต้องมีความรู้ในการเลือกใช้ก้านมะพร้าว มีขนาดความยาว ความเหนี่ยวให้เหมาะสำหรับการทำเสวียนหม้อ เพื่อความคงทน เหมาะสมกับประเภทและขนาดที่ต้องการใช้งาน ตลอดจนนางละออ ยังมีความสามารถทางด้านการทำไม้กวาดก้านมะพร้าว กระด้ง สุ่มดักปลา การเป็นการหัตถกรรมที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
เป็นงานหัตถกรรมที่มีความรู้ในการเลือกก้านมะพร้าว มีฝีมือประณีต แม่นยำ สามารถดัดก้านมะพร้าว ไม้กวาดจากก้านมะพร้าว และที่สำคัญคิดค่าแรงอย่างกัลป์ยานมิตร
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ตำบลเกาะจัน
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา เศรษฐกิจพอเพียง
..................................................
1. ชื่อ – สกุล นายมะรอซาลี สุหลง
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 2 สิงหาคม 2516
2.2 อายุ 52 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 55/1 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะจัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 085 6403996
4. ประวัติความเป็นมา
นายมะรอซาลี สุหลง เป็นคนในพื้นที่ตำบลเกาะจัน ได้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะจัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อก่อนครอบครัว นายมะรอซาลี สุหลง ได้ทำอาชีพเกษตรกรเกี่ยวกับหลักเกษตรกรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ฯลฯ การใช้เวลาว่างของครอบครัวคือได้มีการปลูกผักและเลี้ยงปลาดุก ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จากนั้นมาได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายตามตลาดและบางวันก็มีพ่อค้ามารับซื้อที่บ้าน วันหนึ่งได้ประมาณ 400 บาท ทำอาชีพนี้ได้ประมาณ 3 ปี ก็มีอาชีพใหม่เสริมเข้ามาอีก อาชีพการปลูกอ้อยและปลูกแตงโตซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างดีซึ่งครอบครัวเขาได้เล็งเห็นว่าอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่สามารถทำรายได้สูงจากนั้นครอบครัวนายมะรอซาลี สุหลง ได้เริ่มทำอาชีพการปลูกผักผสมผสาน ปลูกอ้อยและแตงโมซึ่งได้ขยายที่ในการปลูกอ้อยมากขึ้นตามความต้องการของตลาดซึ่งเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ครอบครัวมีรายได้มากขึ้นเฉลี่ย ผลผลิตที่ได้ประมาณ 4-5 ตัน/ปี และได้ทำอาชีพนี้ตลอดมา จนถึงปัจจุบัน
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การปลูกอ้อยและแตงโมสามาถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว ทำเป็นรายได้หลักและเสริม เป็นที่นิยมในการบริโภค และที่ต้องการของตลาดที่ทำอยู่ปัจจุบัน ที่สำคัญวิธีการปลูกอ้อยและแตงโมเป็นอาชีพที่ไม่ซับซ้อน สามารถเรียนรู้และทำได้เองในครัวเรือน
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชนที่สนใจจะเรียนรู้อาชีพการปลูกอ้อยและแตงโม ซึ่งทางสกร.ระดับอำเภอมายอ ให้การสนับสนุนด้านวิทยากรในการถ่ายทอดให้ความรู้กับประชาชนที่สนใจจะสร้างอาชีพนี้ได้อย่างดี
ตำบลกระหวะ
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา เศรษฐกิจพอเพียง
1. ชื่อ – สกุล นางสาวรอสือน๊ะ มามะ
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 13 สิงหาคม 2515
2.2 อายุ 53 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 57/1 หมู่ที่ 4 ตำบลกระหวะ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 0872900285
4. ประวัติความเป็นมา
นางสาวรอสือน๊ะ มามะ เริ่มต้นชีวิตโดยการทำนา ทำสวนยางพารา เกษตรผสมผสาน ปลูกผัก ทำปุ๋ย เลี้ยงสัตว์ ใช้ชีวิตแบบพอมีพอกิน ดำรงชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง มีความเสียสละชอบช่วยเหลือสังคม เป็นผู้นำในการพัฒนาด้านอาชีพและสังคม ยึดหลักคำสอนของศาสนาอิสลามโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ช่วยเหลือสมาชิกในชุมชน รณรงค์ให้เกิดการร่วมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกันวิถีชีวิตในการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พอมี พอกิน พอใช้อย่างมีเหตุผล ใช้ชีวิตอยู่กับการเกษตรผสมผสาน โดยมีพืชพันธ์หลายชนิดและสัตว์ต่าง ๆมากมาย สามารถเก็บขายได้ ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การปลูก ซึ่งปลูกผสมผสานกันไป จนสามารถสร้างรายได้ จากการปลูกพืชผักผลไม้ ไว้กินเองและสามารถขายเป็นรายได้ ให้ได้กับครอบครัว ได้เป็นอย่าง
การเพาะปลูกพืชผักสวน สามาถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว ทำเป็นรายได้หลักและเสริม เพราะเป็นที่นิยมในการบริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สำคัญอาชีพการเพาะปลูกพืชผักสวน สามารถเรียนรู้และทำได้เองในครัวเรือน โดยจะมีการเก็บเกี่ยวทุกวันได้ประมาณวันละ 300 – 500 บาทต่อวัน มีการปลูกข้าวโพด ปลูกผักชี ปลูกผักสลัก ปลูกมะเชื่อเปราะ ปลูกผักคะน้า ซึ่งจะเป็นอาชีพของครอบครัวโดยที่ไม่มีหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การปลูกผักสลัดสามาถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว ทำเป็นรายได้หลักและเสริมเป็นที่นิยมในการบริโภค\และที่ต้องการของตลาดที่ทำอยู่ปัจจุบันที่สำคัญวิธีการปลูกผักสลัดเป็นอาชีพที่ไม่ซับซ้อนสามารถเรียนรู้และทำได้เองในครัวเรือนใช้แรงงานภายในครอบครัวลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชนที่สนใจจะเรียนรู้อาชีพการปลูกผักสลัก ซึ่งทางสกร.ระดับอำเภอมายอ ให้การสนับสนุนด้านวิทยากรในการถ่ายทอดให้ความรู้กับประชาชนที่สนใจจะสร้างอาชีพนี้ได้อย่างดี
ตำบลปะโด
ประวัติภูมิปัญญาท้องถิ่น
สาขา อุตสาหกรรม/หัตถกรรม
1. ชื่อ – สกุล นางสม ชุมนุมมณี
2. ประวัติส่วนตัว
2.1 วันเกิด 15 เมษายน 2504
2.2 อายุ 64 ปี
2.3 สัญชาติ ไทย
3. ข้อมูลติดต่อ
3.1 ที่อยู่ 44 หมู่ที่ 3 ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94140
3.2 เบอร์โทรศัพท์ 088-3913165
4. ประวัติความเป็นมา
นางสม ชุมนุมมณี เป็นชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านควนหยี ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เริ่มต้นจากทาง สกร.ระดับอำเภอมายอมีการจัดกิจกรรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยครู ศกร.ระดับตำบลปะโดได้สำรวจความต้องการกับทางกลุ่มแม่บ้านบ้านควนหยี ซึ่งทางกลุ่มมีความสนใจเรียนหลักสูตรวิชา การสานผลิตภัณฑ์จากเส้นพลาสติก และได้เชิญวิทยากรนอกมาสอนในหลักสูตรที่เรียนนี้ จากการฝึกทักษะอาชีพในครั้งนี้ นางสม ชุมนุมมณี ได้พัฒนาตนเองโดยการสานเส้นพลาสติกในรูปแบบต่าง ๆ จากรูปแบบง่าย ๆ พัฒนาจน มีรูปแบบการสานที่ซับซ้อนและหลากหลายขึ้น เช่น สานตะกร้าหิ้ว , สานตะกร้าใส่ผ้า , สานกระเป๋าสะพาย , สานกล่องแก้วเยติ เป็นต้น จนสามารถมียอดการสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และได้พัฒนาด้านการเป็นวิทยากรให้ความรู้จนถึงปัจจุบัน
5. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
จักสานเป็นผลิตภัณฑ์ หัตถกรรม ที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรือง ประเพณี วัฒนธรรมของพื้นบ้าน มีการสืบทอดเทคนิควิธีการมาหลายช่วงอายุคน ซึ่งมีพื้นฐานการพัฒนาลวดลายในแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นฐานในการออกแบบจากสภาพการดำรงชีวิตวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา และธรรมชาติที่แตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย การส่งเสริมและการอนุรักษ์การจักสานโดยให้มีการผลิตอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนารูปแบบตลอดเวลาจึงมีการถ่ายทอดให้กับผู้ที่ต้องการศึกษาเพื่อเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพให้กับแม่บ้านนักเรียน นักศึกษา ผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อเป็นการสืบสานภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างมีคุณภาพและเป็นการอนุรักษ์และป้องกัน ภูมิปัญญามิให้สูญหายปัจจุบันการจักสานพลาสติกของกลุ่มแม่บ้าน บ้านควนหยีตำบลปะโดเปรียบเสมือนเป็นวิถีชีวิตของคนในกลุ่มเนื่องจากเป็นอาชีพเสริมที่ทำให้เกิดรายได้ดีทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
6. ความร่วมมีอกับ สกร.
เป็นอีกหนึ่งท่านที่มีความสามารถในการจักสานผลิตภัณฑ์จากเส้นพลาสติกได้หลายรูปแบบ จึงได้รับความร่วมมือกับ สกร.อำเภอมายอ โดยได้รับเชิญเป็นวิทยากรให้ความรู้ในการจัดกิจกรรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนในพื้นที่ตำบลปะโดหลักสูตรวิชาการสานผลิตภัณฑ์จากเส้นพลาสติก จนถึงปัจจุบัน