วนอุทยานดอนเจ้าปู่
คำขวัญ อำเภอพนา
พนาเมืองเก่า พระเหลาเทพนิมิต ผ้าขิดสวยดี มัดหมี่จานลาน วนอุทยานดอนเจ้าปู่ เมืองครูนักปราชญ์
เดิมเป็นป่าดงดิบประกอบด้วยป่าไม้เบญจพันธุ์นานาชนิด เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาพันธุ์ ต่อมาราวปี พ.ศ.2213 พรานที พรานทอง สองพี่น้องพร้อมด้วยสมัครพรรคพวกได้อพยพติดตามท่านพระครูโพนสะเม็กพระครูขี้หอมหนีภัยการเมืองจากนครเวียงจันทน์ลงมาตามแม่น้ำโขง มาขอพึ่งเจ้านครจำปาศักดิ์ และเจ้านครจำปาศักดิ์ให้ตั้งถิ่นฐานที่ภูมะโรง แขวงจำปาศักดิ์ เรียกว่า บ้านมะขามเนิ่ง ซึ่งด้านทิศตะวันตกของดงใหญ่เป็นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำมาหากิน จึงพาสมัครพรรคพวกตั้งบ้านขึ้นเรียกว่า "บ้านทรายมูล" ซึ่งในปัจจุบันก็คือ "ดอนเจ้าปู่" นั่นเอง ตั้งอยู่ได้ประมาณ 15 ปี ได้เกิดโรคระบาดผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากชาวบ้านหมดปัญญาที่จะรักษาโรคร้ายให้หายไปจากหมู่บ้านได้ ต่อมาทราบข่าวว่าท่านพระครูธิ บ้านปอพรานขัน เป็นผู้มีเวทย์มนต์คาถาอาคมขลัง สามารถรักษาโรคภัยต่างๆได้ จึงพากันไปอาราธนานิมนต์ท่านมาและท่านพระครูธิพร้อมด้วยสานุศิษย์ได้เดินทางมาถึงจึงได้พิจารณาดูภูมิประเทศโดยรอบของหมู่บ้านทรายมูลแล้วบอกว่าไม่เหมาะถ้าไม่ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นโรคร้ายจะไม่หาย ท่านพระครูธิจึงได้มาพิจารณาภูมิประเทศทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งใกล้กับบึงใหญ่ (กุดพระเหลา)
มีความเหมาะสมที่จะตั้งหมู่บ้านได้จึงให้ชาวบ้านทรายมูลอพยพมาตั้งบ้านขึ้น (ซึ่งเป็นหมุ่บ้านพนาในปัจจุบัน) ส่วนบ้านททรายมูลก็เป็นบ้านร้าง ซึ่งชาวบ้านพนาเรียกว่า "โนนบ้านเก่า" และชาวพนาได้สงวนไว้เป็นดอนปู่ตา ซึ่งเป็นมเหศักดิ์หลักเมืองของชาวอิสาน ปัจจุบันวนอุทยานมีสภาพโดยทั่วไปยังคงเป็นป่าดงดิบ ประกอบด้วยไม้เบญจพันธุ์นานาชนิด เป็นที่อยู่อาศัยของลิงซึ่งมีจำนวนมากนับพันตัว ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างก็แวะชมและให้อาหารแก่ฝูงลิงเป็นประจำ
วนอุทยยานดอนเจ้าปู่ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอำนาจเจริญประมาณ 40 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีลิงเป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ มีศาลปู่ตาซึ่งเป็นที่สิงสถิตย์ของเจ้าปู
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวณัฐธพร สมร
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวณัฐธพร สมร
อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.tessabanphana.go.th/data_2005