ประวัติความเป็นมาของวัดป่าคูณคำวิปัสสนา

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓ พระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต ได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดของท่านหลังจากธุดงค์และได้มาพักที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นเป็นที่รกร้าง ซึ่งพระอธิการสุพัตร์ พุทธรักขิโต ได้พิจารณาร่วมกับชาวบ้านบ้านกลางเห็นสมควรที่จะพัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้เพื่อเป็นวัดสืบต่อไปจึงได้ร่วมแรงใจร่วมกันพัฒนาจนต่อมาได้มีมติความเห็นชอบของคณะกรรม การมหาเถรสมาคมและกรมการศาสนาในสมัยนั้น (ปัจจุบันคือสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ) ได้อนุญาตให้สำนักสงฆ์ป่าคูณคำวิปัสสนายกลำดับฐานะขึ้นเป็นวัดในวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘( แต่เดิมหลวงพ่อเบี้ยว ฐานวิโร เป็นผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ แต่ท่านมรณภาพไปก่อน)

ศาสนสถานภายในวัดป่าคูณคำวิปัสสนา

1.ประวัติการสร้างพระพุทธศรีรัตนมหามงคลสยาม (พระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือพระนอน)

พระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต เจ้าอาวาสวัดป่าคูณคำวิปัสสนาได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรที่จะสร้างรูปเหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระสมณโคดมเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา, เป็นศูนย์รวมในการสักการะของพุทธศาสนิกชนและเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนม์มายุครบ ๘๐ พรรษา ในปี พ.ศ.๒๕๕๐โดยมีพระเดชพระคุณพระพรหมเวที เจ้าคณะภาค ๘ ในขณะนั้นเป็นองค์ประธานในการน้อมถวายพระราชกุศล

องค์พระนอนได้ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๗ และเริ่มก่อสร้างจนแล้วเสร็จในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๙ โดยองค์พระมีขนาดความยาว ๒๙ เมตร สูงจากฐานถึงพระเกศ ๓๒ เมตร

2 ประวัติการสร้างพระธาตุคูณคำธรรมเจดีย์

พระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโตได้มีดำริที่จะสร้างองค์พระธาตุคูณคำธรรมเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นพุทธบูชา โดยได้มีลำดับในการก่อสร้างและการบูรณะปฏิสังขรณ์ดังต่อไปนี้

2.1. เริ่มก่อสร้างองค์พระธาตุ(องค์เดิมก่อนที่จะทำการบูรณะ) องค์พระธาตุมีส่วนสูง ๑๒ เมตร กว้างด้านละ ๓ เมตร และมีพระธาตุองค์เล็กล้อมรอบทั้ง ๔ ทิศ เริ่มก่อสร้างในวันพฤหัสบดีที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๕ จนแล้วเสร็จ

ในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๓๖ รวมระยะเวลาในการก่อสร้าง ๘ เดือน ใช้งบประมาณทั้งสิ้นเป็นเงิน ๙๙๐,๐๐๐ บาท

2.2. การบูรณะองค์พระธาตุคูณคำธรรมเจดีย์ นำโดยพระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต เป็นประธานในการนำคณะสงฆ์ สามเณรวัดป่าคูณคำวิปัสสนา ศิษยานุศิษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศพร้อมทั้งชาวบ้านบ้านกลางร่วมกันบูรณะองค์พระธาตุให้มีความมั่นคงถาวรยิ่งขึ้น เนื่องจากพระธาตุองค์เดิมมีขนาดเล็กและเริ่มชำรุดทรุดโทรมพร้อมกันนั้นยังมีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างพระธาตุคูณคำธรรมเจดีย์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า,เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ และเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุเบื้องซ้ายที่ได้รับประทานจาก ดร.ธรรมเสน สมเด็จพระสังฆราชประเทศบังคลาเทศเมื่อวันที่ ๖พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้เป็นที่สักการะบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนตลอดชั่วกาลนาน เป็นการสร้างเพื่อครอบพระธาตุองค์เดิม ซึ่งองค์พระธาตุที่สร้างขึ้นในครั้งนี้มีขนาดความกว้างของฐานด้านละ ๑๘ เมตร ความสูงจากพื้นถึงยอดฉัตร ๖๐ เมตร เป็นการก่อสร้างแบบคอนกรีตเสริมด้วยเหล็ก ก่อด้วยอิฐและฉาบด้วยปูน ยอดฉัตรทำจากทองคำหนัก ๑๕ บาท ซึ่งเริ่มบูรณะในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๐ ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งหมด ๖ ปี สิ้นงบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น ๔๐ ล้านบาท

3. งานพุทธสถานต่างๆซึ่งพระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโตให้ความอุปถัมภ์ ร่วมสร้างพระธาตุเจดีย์ตามที่ต่างๆ4 ที่ดังนี้

3.1.พระธาตุเจดีย์ศรีคันไชยวัดท่าเดื่อ ต.ท่าเดื่อคันไชย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พระธาตุเจดีย์ศรีคันไชย มีขนาดกว้างด้านละ ๙ เมตรสูง ๓๙ เมตร ได้ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคมพ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมีประธานฝ่ายฆราวาสคือ ผู้ว่าราชการจังหวัด สกลนคร นายจรินทร์ จักกะพากและพระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยที่ใช้งบประมาณในการ

ก่อสร้างพระธาตุไปแล้วประมาณ ๕ ล้านบาทแล้ว และยังขาดงบประมาณอีก ๘ ล้านบาทจึงจะแล้วเสร็จ

3.2.พระธาตุเจดีย์หินศิลามงคลวัดสว่างอารมณ์บ้านหนองหอย ต. ธาตุทอง อ.สว่างแดนดิน จ. สกลนคร ได้ก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของฐานเจดีย์ ๑๕ เมตร สูง ๓๙ เมตร โดยใช้หินจากไร่นามาทำการก่อสร้างโดยการนำของอดีตกำนันคล้าย สารสวัสดิ์ พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน หลวงปู่วีระพันธ์ สุทัสสัตโท และพระครูปภัศร์ สกลกิจ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ซึ่งเจดีย์หินศิลามงคลได้ทำการก่อสร้างแล้ว ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ใช้งบประมาณ ๓ ล้านตั้งแต่ต้น และยังขาดอีก ๕ ล้านจึงจะแล้วเสร็จ

3.3.พระธาตุศิลามงคล วัดศิลามงคลตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอ ธาตุพนม จังหวัด นครพนมประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ ๑๐ ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ใช้งบประมาณไปแล้ว ๖ ล้านบาท ยังขาดงบประมาณอีก ๔ ล้านบาทจึงจะแล้วเสร็จ

3.4. พระเจดีย์พุทธมงคลศรีพยัคฆ์ วัดหนองแคน ตำบลเมืองเสือ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม องค์พระเจดีย์กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๒ เมตร ความสูงรวมฉัตร ๑๙ เมตร พระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต ได้เป็นประธานการจัดสร้างและวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมี สส. ยุทธพงษ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีค่าใช้จ่ายดำเนินงานไปแล้ว ๒ ล้าน และยังขาดงบประมาณในการดำเนินงานอีก ๖ ล้าน

4. สร้างพิพิธภัณฑ์

4.1 พิพิธภัณฑ์หลวงปู่บัว เตมิโยตั้งอยู่ภายในวัดศิลามงคล ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอ ธาตุพนม จังหวัด นครพนมพระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต ได้เป็นประธานก่อสร้าง ร่วมกับบรรดาศิษยานุศิษย์ หลวงปู่บัว เตมิโย มีพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยใช้

งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น ๔ล้านบาท และได้ทำการฉลองสมโภชเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

4.2 งานสาธารณสุขเพื่อชุมชน

1.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบล พระกลางทุ่ง อำเภอ ธาตุพนม จังหวัด นครพนม พระอธิการสุพัตร พุทธรักขิโต ได้บริจาคเงินเพื่อสร้างต่อเติมอาคารที่ทำการเป็นจำนวนเงิน ๒๕๐,๐๐๐บาท เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕

2.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ บ้านกลางพระอธิการสุพัตรพุทธรักขิโต ได้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงพยาบาลและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งสิ้น ๔ ล้านาท ได้ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งได้เปิดใช้งานแล้วจนถึงปัจจุบัน

3. ศูนย์นวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ ศาลารวมน้ำใจพุทธรักขิโต ได้ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ๗๐๐,๐๐๐ บาท

อ้างอิง : http://watpakoonkamwipussana.com/

เพจมหัศจรรย์สกลนคร