ข้อมูลผู้ประเมิน

ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู  วิทยฐานะชำนาญการ  ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้

ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา  2567 

1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้ 

   กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา - 

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาพลศึกษา พ23104 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 ชั่วโมง 10 นาที/สัปดาห์ - 

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาพลศึกษา พ๓๑๒๐๒ 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ 

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน - 

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา  ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาหน้าที่พลเมือง    

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6  จำนวน 50 นาที/สัปดาห์ - - 

ลูกเสือ เนตรนารี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 50 นาที/สัปดาห์ 

ชุมนุมฟุตบอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 จำนวน 50 นาที/สัปดาห

1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์ - 

งานตรวจการบ้าน/ภาระงาน/ตรวจชิ้นงานนักเรียน  2 ชั่วโมง/สัปดาห์ - - - - - - 

งานที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน และงานโฮมรูม 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

งานพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ และวิจัยในชั้นเรียน  2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

งานพัฒนา สื่อ นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้  2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

งานวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้   1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC)  1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

งานพัฒนาผู้เรียนที่ส่งผลลัพธ์ต่อผู้เรียนสอดคล้องกับเป้าหมายของสถานศึกษา 

1ชั่วโมง/สัปดาห์

1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ - 

งานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา  1  ชั่วโมง/สัปดาห์ - - 

ปฏิบัติงานการบริหารและจัดการศึกษาในกลุ่มงานกิจการนักเรียน 2 ชั่วโมง/

 สัปดาห์ 

งานสวัสดิภาพของนักเรียน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ - 

งานโรงเรียนคุณธรรม/โรงเรียนสุจริต 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - 

งานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมและสร้างวินัย 1 ชั่วโมง/สัปดาห์  

รวมจำนวนโครงการปฏิบัติงานตามหัวข้อ 1.1 - 1.4 จำนวน 36 ชั่วโมง/สัปดาห์

 ประเด็นท้าทาย เรื่อง   ประเด็นท้าทาย เรื่อง เรื่องการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ด้านความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) รายวิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล) รหัสวิชา พ๓๑๒๐๒ เพื่อให้ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มี สมรรถภาพทางกายด้านความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) สูงขึ้น 

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ในการเรียนวิชาพลศึกษาที่ผ่านมา ผู้เรียนส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) ทำให้ การเคลื่อนที่ในการเล่นกีฬาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างช้า และผลการทดสอบ สมรรถภาพด้านความ คล่องแคล่วว่องไวที่ผ่านมาของผู้เรียน ยังไม่เกิดการพัฒนาของผู้เรียนที่เพิ่มขึ้น ครูผู้สอนจึงต้องใช้แบบฝึกเกี่ยวกับ ด้านความคล่องแคล่วว่องไว เช่น ตาราง 9 ช่อง, การเคลื่อนที่ในรูปแบบ ต่าง ๆ, การฝึกแบบสถานี, การฝึก Co-ordination เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีสมรรถภาพทางกายด้าน ความคล่องแคล่วว่องไวเพิ่มขึ้น เพราะ สมรรถภาพทางด้านความคล่องแคล่วว่องไวเป็นสิ่งสำคัญ ในการ เสริมสร้างบุคคลให้สามารถประกอบภารกิจและ ดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดพัฒนาการด้านอารมณ์ และจิตใจที่ดี ความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ มี ความสัมพันธ์กัน เมื่อสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แล้ว สุขภาพจิตใจย่อมดีตามไปด้วย สมรรถภาพทางกายที่ดีทำให้ ประสิทธิภาพของระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงาน ได้ดีขึ้น มีความต้านทานโรค รูปร่างและสัดส่วนของร่างกายดีขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพมีบุคลิกภาพที่ดี สามารถเคลื่อนไหวได้ ด้วยความสง่างาม ดังนั้นครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าท้าย เรื่องการสร้างเสริมสมรรถภาพ ทางกาย ด้านความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) รายวิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล) รหัสวิชา พ๓๑๒๐๒ เพื่อให้ผู้เรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีสมรรถภาพทางกายด้านความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) สูงขึ้น 

ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 

3.1 เชิงปริมาณ ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เรื่องการสร้าง เสริม สมรรถภาพทางกาย ด้านความคล่องแคล่วว่องไว (Agility) โดยมีผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ด้านความ คล่องแคล่วว่องไวหลังการฝึกสูงกว่าก่อนการฝึกร้อยละ 80 ขึ้นไปของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 

3.2 เชิงคุณภาพ ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีสมรรถภาพทางกาย ด้านความ คล่องแคล่วว่องไว (Agility) เพิ่มขึ้นหลังจากการฝึก และเพิ่มขีดความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันได้