ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
สถานศึกษาปัจจุบัน โรงเรียนหนองฉางวิทยา
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 16 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์ ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- รายวิชา การสร้างเว็บเพ็จด้วยภาษา HTML จำนวน 13 ชั่วโมง 20 นาที/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- รายวิชา ต้านทุจริต จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
- รายวิชา หน้าที่พลเมือง จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
- รายวิชา ลูกเสือ เนตรนารี จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
- รายวิชา ชุมนุม จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- งานตรวจการบ้าน/ภาระงาน/ตรวจชิ้นงานนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน และงานโฮมรูม จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ และวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานพัฒนา สื่อ การจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
- เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
- งานพัฒนาผู้เรียนที่ส่งผลลัพธ์ต่อผู้เรียนสอดคล้อง จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
กับเป้าหมายของสถานศึกษา
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- หัวหน้าและกรรมการในแต่ละงาน/ฝ่าย จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
ตามโครงสร้างการบริหารโรงเรียน 5 กลุ่ม
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- งานโรงเรียนคุณธรรม/โรงเรียนสุจริต จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนการปฏิบัติงาน ข้อ 1.1 – 1.4 ทั้งสิ้น 31 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- รายวิชา วิทยาการคำนวณและการออกแบบ 2 จำนวน 8 ชั่วโมง 20 นาที/สัปดาห์
- รายวิชา การสร้างเว็บเพจ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- รายวิชา ต้านทุจริต จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
- รายวิชา หน้าที่พลเมือง จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
- รายวิชา ลูกเสือ เนตรนารี จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
- รายวิชา ชุมนุม จำนวน 0 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- งานตรวจการบ้าน/ภาระงาน/ตรวจชิ้นงานนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน และงานโฮมรูม จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ และวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานพัฒนา สื่อ การจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
- เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
- งานพัฒนาผู้เรียนที่ส่งผลลัพธ์ต่อผู้เรียนสอดคล้อง จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
กับเป้าหมายของสถานศึกษา
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- หัวหน้าและกรรมการในแต่ละงาน/ฝ่าย จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
ตามโครงสร้างการบริหารโรงเรียน 5 กลุ่ม
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- งานโรงเรียนคุณธรรม/โรงเรียนสุจริต จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนการปฏิบัติงาน ข้อ 1.1 – 1.4 ทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
การจัดการเรียนการสอน
รายวิชาวิทยาการคำนวณและการออกแบบ 2
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
การจัดการเรียนการสอน
กิจกรรมชุมนุม
นักศึกษาวิชาทหาร
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
นิเทศติดตาม
การจัดการเรียนการสอน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี)
การจัดการเรียนการสอน
กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีหลากหลายรูปแบบที่จะส่งเสริมให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ ตอบสนองนโยบายประเทศไทย 4.0 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 258 จ. (4) ได้บัญญัติให้ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนทุกระดับ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความถนัดสอดคล้องกันทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กิจกรรมปฏิรูปที่ 2 ที่มีเป้าหมายการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้สู่สมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนรู้และรูปแบบการเรียนการสอนตามหลักสูตรอิงมาตรฐาน (Standard-Based Curriculum) ในปัจจุบัน ไปสู่การเรียนรู้ที่พัฒนาสมรรถนะผู้เรียน (Competency-Base Learning) เป็นสำคัญ
จากที่ผู้ศึกษาได้สังเกตพฤติกรรมและวิเคราะห์สภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนยังขาดทักษะการฝึกปฏิบัติการเรียนรู้ด้วยตนเองเนื่องจากจะเป็นการสอนที่เน้นการบรรยาย เน้นการท่องจำ และที่สำคัญขาดการใช้สื่อที่ทำให้นักเรียน ได้มีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมและเกิดการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง จึงส่งผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่นักเรียนเป็นสำคัญ คือ การกำหนดจุดมุ่งหมายของกิจกรรม แหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียน และการวัดประเมินผลที่มุ่งพัฒนาคนและชีวิตให้เกิดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเต็มความสามารถ สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ และความต้องการของนักเรียน ครูมีบทบาทในการกระตุ้นและเสริมแรงนักเรียนให้ค้นพบคำตอบ ดังนั้นการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน จึงไม่ได้มุ่งเฉพาะเนื้อหาความรู้ที่ได้จากการค้นคว้าและเรียบเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่รวมถึงกระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งควรให้นักเรียนได้ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ค้นหาความรู้ด้วยตนเอง ตลอดจนปลูกฝังจิตวิทยาศาสตร์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเรียนวิทยาศาสตร์ จุดประสงค์หลักของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น เน้นให้เด็กได้เรียนรู้ถึงสภาพปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา โดยให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความคิดสร้างสรรค์ด้วยประสบการณ์ตรง (Ministry of Education, 2008) ซึ่งสอดคล้องกับ จุดมุ่งหมายในการเรียนวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps เป็นขั้นตอนและจุดเน้นในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง จากนั้นนำไปใช้ในการปฏิบัติจริง ใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ สิ่งที่ได้จากกระบวนการเหล่านี้ จะตกผลึกภายในตัวของผู้เรียน จะกลายเป็นตัวตนเป็นบุคลิกภาพของผู้เรียน และสะท้อนออกมาในภาระงานหรือการปฏิบัติที่ครูมอบหมาย ผลก็คือ ผู้เรียนจะสามารถคิดวิเคราะปัญหา เก็บรวบรวมข้อมูล สังเคราะห์วิธีการแก้ปัญหา เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสังคมอย่างมีความสุข
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียน ยังขาดทักษะคิดวิเคราะปัญหา เก็บรวบรวมข้อมูล สังเคราะห์วิธีการแก้ปัญหา เนื่องจากจะเป็นการสอนที่เน้นการบรรยาย เน้นการท่องจำ จึงส่งผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาการคำนวณและการออกแบบ 2 ต่ำ ปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อให้การเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเป้าหมายของหลักสูตร วิธีการหนึ่งที่คิดว่าจะประสบผลสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือ การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ซึ่งการวิจัยครั้งนี้จะศึกษาว่าการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบสูงขึ้นหรือไม่
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ขั้นตอนที่ 1 สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
1. การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้วิจัยได้ดำเนินการตาม ขั้นตอน ดังนี้
1.1 ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
1.2 วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.3 กำหนดหัวข้อเรื่อง หน่วยการเรียนรู้ย่อย เวลาเรียน
1.4 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น ให้ครูพี่เลี้ยงพิจารณาเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและให้ข้อเสนอแนะ
1.5 ปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ตามข้อเสนอแนะ และได้วางแผนการจัดการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ จำนวน 2 แผน
ขั้นตอนที่ 2 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. การศึกษาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1.1 ศึกษาวิเคราะห์จุดประสงค์ในหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ จากหลักสูตรการศึกษาขั้น พื้นฐาน พ.ศ.2551
1.2 ศึกษาวิเคราะห์จุดประสงค์ในหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.3 กำหนดจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ในหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.4 สร้างแบบทดสอบตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ซึ่งเป็นแบบทดสอบ และแบบเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ จำนวน 20 ข้อ
1.5 นำแบบทดสอบที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา จำนวน 3 คน ตรวจสอบความถูกต้องความเที่ยงตรงตามเนื้อหาและจุดประสงค์ โดยการหาค่า IOC ซึ่งการให้ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ได้กำหนดเกณฑ์ ดังนี้
+1 เมื่อแน่ใจว่า ข้อสอบนั้นวัดได้ตรงตามเนื้อหาและจุดประสงค์
0 เมื่อไม่แน่ใจว่า ข้อสอบนั้นวัดได้ตรงตามเนื้อหาและจุดประสงค์
-1 เมื่อแน่ใจว่า ข้อสอบนั้นไม่ได้วัดได้ตรงตามเนื้อหาและจุดประสงค์
1.6 ปรับปรุงแก้ไขแบบทดสอบตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ แล้วคัดเลือกข้อสอบที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป ได้จำนวนข้อสอบที่ผ่านเกณฑ์จำนวน 20 ข้อ แล้วนำมาพิมพ์เป็นแบบทดสอบเพื่อนำไปใช้ทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 การดำเนินการรวบรวมข้อมูล
1. ดำเนินการทดสอบก่อนใช้การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
2. ดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps จำนวน 1 ชุด มีทั้งหมด 2 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง จำนวน 1 แผนต่อสัปดาห์
3. หลังการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ครบตามที่กำหนดไว้ ผู้วิจัยได้ทดสอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ อีกครั้งหนึ่ง
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ หลังเรียนของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps กับเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ (Percentage)
3.2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps โดยใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) หรืออาจจะเลือกใช้ค่า t-test แบบ Dependent Sample Test