ขั้นที่1.เลือกที่คำสั่ง File > Import > Import to library

ขั้นที่ 2 ลากชื่อไฟล์เสียงจากพาเนล Library มาไว้บนสเตจ สังเกตบนไทม์ไลน์จะปรากฏภาพคลื่นเสียงในช่องเฟรมของเลเยอร์นั้น กดคีย์ Enter เพื่อทดลองเล่นมูฟวี่

ขั้นที่ 1 กำหนดคุณสมบัติของ Sync รูปแบบการแสดงผลของเสียงที่ Properties ดังนี้

Event = เสียงจะเล่นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบโดยไม่ขึ้นกับ Timeline แม้ว่า Movie จะจบแล้วก็ตาม ซึ่งถ้า Movie เล่นวนซ้ำในขณะที่เสียงของรอบแรกยังไม่จบ ก็จะเกิดการทับซ้อนกันระหว่างเสียงที่เล่นรอบแรกกับรอบที่เล่นวนซ้ำใหม่ วิธีนี้เหมาะกับการใส่เสียงให้กับปุ่ม

Start = เสียงจะเล่นตั้งแต่ต้นจนกว่าจะจบ โดยถ้า Movie เล่นวนซ้ำ เสียงจะไม่เล่นซ้อนขึ้นมาอีก แต่จะเล่นเสียงเดิมต่อไปเรื่อย ๆ วิธีนี้เหมาะกับการใส่เสียงประกอบ Movie

Stop = ใช้สำหรับสั่งให้หยุดเล่นเสียง เมื่อ Movie เล่นมาถึงคีย์เฟรมที่กำหนดคำสั่ง stop นี้ไว้

Stream = จะเล่นไฟล์เสียงเมื่อเราโหลดไปได้แล้วบางส่วน เหมาะสำหรับการเล่นเสียงบนเว็บไซต์ เป็นรูปแบบที่เสียงจะหยุดเล่นเมื่อ Movie จบ และจะไม่เล่นเกินกว่าจำนวนเฟรมที่มีอยู่บนTimeline

นอกจากกดคีย์ Enter เพื่อทดลองเล่นมูฟวี่แล้ว เรายังสามารถเลื่อนหัวอ่านมาที่ช่องเฟรมที่ใส่เสียงไว้เพื่อฟังเสียงได้ถ้ามีหลายเสียงที่เราต้องการให้เล่นพร้อมกัน ให้สร้างเลเยอร์แยกกันสำหรับแต่ละเสียง โดยเสียงที่เรียงซ้อนกันต่างเลเยอร์ในช่องเฟรมเดียวกันจะถูกเล่นพร้อมกัน

Effect กำหนดเอฟเฟ็กต์ให้กับเสียง โดยมีรูปแบบต่างๆ ดังนี้

1. None ไม่ใช้เอฟเฟ็กต์ใดๆ

2. Left Chanel / Right Chanel ให้เสียงออกลำโพงออกซ้าย / ขวาเท่านั้น

3. Fade Left to Right/Fade Right to Left ไล่เสียงจากลำโพงซ้ายไปขวา / ไล่เสียงจากลำโพงขวาไปซ้าย

4. Fade In ให้เสียงเริ่มต้นเบา และค่อยๆ ดังขึ้น

5. Fade out ให้เสียงเริ่มต้นดัง และค่อยๆ เบาลง

6. Custom ให้เรากำหนดเอฟเฟ็กต์เสียงเอง โดยคลิกที่ปุ่ม Edit

เมื่อใดที่ต้องการลบเสียงในเฟรมนี้ ให้คลิกขวาเลือกคีย์เฟรมที่ใส่เสียง (ในตัวอย่างนี้คือเฟรมที่ 1) เลือกคำสั่ง Clear Keyframe (หรือเลือกที่เฟรม และเลือกคำสั่ง Insert > Clear Keyframe จากเมนูก็ได้) สังเกตว่าเฟรมไม่มีภาพรูปคลื่นเสียงอีกต่อไป แสดงว่าเสียงถูกลบออกจากเฟรมนั้นแล้ว

ขั้นตอนที่ 1

File > Import > Import to

ขั้นตอนที่ 2

สร้าง Layer 2 สำหรับใส่เสียง