ข้อมูลผู้ประเมิน

ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด

2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู

ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ในวิชาภาษาไทยที่มีต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การเขียนสรุปความ และทัศนคติที่มีต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

             การจัดการเรียนรู้ภาษาไทยในปัจจุบันควรเน้นให้ผู้เรียนได้ใช้ความสามารถในการคิดมากกว่าเน้นเพียงการจดจำเนื้อหา ดังที่ พรทิพย์ แข็งขัน และคณะ (2553) กล่าวว่า สมรรถนะด้านการคิดเป็นสมรรถนะสำคัญที่พึงให้เกิดแก่ผู้เรียน เนื่องจากสภาพสังคมในปัจจุบันเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสารที่แพร่หลายอย่างรวดเร็วและมีลักษณะซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้คนในสังคมต้องใช้สมรรถนะด้านการคิดเพื่อสร้างข้อสรุป ตัดสินใจ และประเมินค่าสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น การจัดการเรียนรู้เฉพาะเนื้อหาวิชาอาจไม่เพียงพอและไม่เท่าทันต่อสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ (2556) กล่าวว่า การคิดวิเคราะห์เป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และการดำเนินชีวิต การคิดวิเคราะห์เป็นพื้นฐานของการคิดทั้งมวล บุคคลที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ จะมีความสามารถด้านอื่น ๆ เหนือกว่าบุคคลทั่วไป ทั้งทางด้านสติปัญญาและการดำเนินชีวิต  

           ทักษะที่สามารถแสดงออกถึงการคิดวิเคราะห์นั่นคือการเขียนสรุปความจากการคิดวิเคราะห์การเขียนเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความรูสึกนึกคิด ความเชื่อ จินตนาการและประสบการณต่าง ๆ ให้ผู้อื่นทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่สามารถตรวจสอบได้ดังนั้น นักเรียนควรได้รับการฝึกให้สามารถใชทักษะการเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งทักษะการใช้ภาษาเขียนต้องอาศัยพื้นฐานความรู้จากการฟังการพูดและการอ่าน เพราะพื้นฐานดังกล่าวจะทำให้มีความรู้มีข้อมูลและมีประสบการณ์เพียงพอที่จะให้เกิดความคิดความสามารถในการเรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดออกมาสื่อสารกับผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Ministry of Education, 2010; 7) Chanphen (1997; 91) กล่าวไว้ว่า การเขียนเป็นการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดความรู้สติปัญญา และอารมณ์ของมนุษย์สามารถสร้างความสามัคคีในมนุษยชาติ และทำให้มนุษย์ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งการเล่าเรียนและการประกอบอาชีพ ดังนั้นทักษะการเขียนสรุปความจึงเป็นวิธีการแสวงหาความรู้ที่เหมาะสมวิธีหนึ่งที่จำเป็นต้องฝึกฝนให้กับผู้เรียนตั้งแต่ระดับต้น ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนั้นการเขียนสรุปความมีความจำเป็นต่อผู้เรียนในการเรียนและการดำรงชีวิตประจำวัน (Kiansanthia, 2002; 11-21)  ดังนั้นการคิดวิเคราะห์และเขียนสรุปความจึงมีความสำคัญต่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตของผู้เรียน ซึ่งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยเน้นกิจกรรมแบบ Active Learning เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และเขียนสรุปความและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
   2.1 ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนนางรอง

2.2 ศึกษาเอกสาร และแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์

การเขียนสรุปความ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning

    2.3 จัดทำหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นการพัฒนาทักษะการ

คิดวิเคราะห์และเขียนสรุปความ

2.4 ดำเนินการสร้างกิจกรรม หรือสื่อการเรียนการสอน

2.5 สร้างแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก

2.6 นักเรียนประเมินสื่อ/ กิจกรรมการสอน จากนั้นผู้สอนนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
   3.1 เชิงปริมาณ 
         1)  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นภายหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยที่ครูใช้กิจกรรมการเรียนรู้

      2 )  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ตามค่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด

    3.2 เชิงคุณภาพ

           1)  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นภายหลังได้รับ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยที่ครูใช้กิจกรรมการเรียนรู้

        2 )  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามค่าเป้าหมาย

ที่โรงเรียนกำหนด