ข้อมูลผู้ประเมิน

ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับ         ผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด

2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู

ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

เรื่อง  การพัฒนากระบวนการกลุ่มด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานบูรณาการกับโซเชียลมีเดียเพื่อเสริมสร้างทักษะด้านสารสนเทศและเทคโนโลยีของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

            จากการจัดการเรียนรู้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 พบว่า ผู้เรียนเป็นผู้รอรับความรู้ทางเดียวจากครู ขาดการให้เหตุผลและแสวงหาความจริง ไม่สามารถนำความรู้ไป

ปรับประยุกต์ใช้ เมื่อจบการเรียนการสอนก็ทำให้นักเรียนลืมบทเรียน นอกจากนี้นักเรียนยังขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในห้องเรียน ซึ่งผู้สอนมีการเก็บข้อมูลจากการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจัดทำเป็นสารสนเทศเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาผู้เรียน ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าท้าย การพัฒนากระบวนการกลุ่มด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานบูรณาการกับโซเชียลมีเดีย เรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2567 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความสนใจของตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติ ศึกษา ค้นคว้า  หาความรู้ ในเรื่องที่ตนสนใจและต้องการหาคำตอบและมีกระบวนการปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอน  อีกทั้งมีการประยุกต์ใช้โครงงานเป็นเครื่องมือสื่อสารในการเผยแพร่ผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับทักษะด้านสารสนเทศและเทคโนโลยีของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

    2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนนางรอง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563     จากนั้นศึกษาเอกสารเกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการกลุ่ม การสอนแบบโครงงานเป็นฐาน และการใช้โซเชียลมีเดีย

    2.2 จัดทำสื่อการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย เรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วิธีการทำโครงงาน การเผยแพร่ผลงานและสร้างแบบสำรวจความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้

    2.3 ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ในเนื้อหา กิจกรรม และแบบวัดผลการเรียนรู้ พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข

    2.4 ครูผู้สอนนำสื่อการจัดการเรียนรู้มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาโรงเรียนนางรอง

   2.5 นำสื่อการพัฒนากระบวนการกลุ่มด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานบูรณาการกับโซเชียลมีเดีย เรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้กับผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567  ในรูปแบบ ONSITE

  2.6 บันทึกผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ที่เกิดจากกิจกรรมการเรียนรู้ ในโปรแกรม Microsoft Excel และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทราบเป็นระยะ หากมีผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้ ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริม เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ และทำแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ใหม่ จนผู้เรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
   3.1 เชิงปริมาณ  
              1. ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 ห้อง รวมทั้งหมด 240  คน ได้รับการพัฒนากระบวนการกลุ่มด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานบูรณาการกับโซเชียลมีเดีย เรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดย

2. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีกระบวนการกลุ่ม อยู่ใน  ระดับ ดี ขึ้นไป 

3. ผู้เรียนร้อยละ 80 สามารถทำโครงงานได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขึ้นไป 

4. ผู้เรียนร้อยละ 80 นำเสนอผลงานการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยผ่านโซเชียลอย่างสร้างสรรค์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป

5. ผู้เรียนร้อยละ 90 พึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
3.2 เชิงคุณภาพ
      ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 ห้อง รวมจำนวนผู้เรียนทั้งหมด 240 คน มีกระบวนการกลุ่มด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานบูรณาการกับโซเชียลมีเดีย เรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปปรับและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ลงมือปฏิบัติ ศึกษา ค้นคว้า หาความรู้ ในเรื่องที่ตนสนใจและต้องการหาคำตอบและมีกระบวนการปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอน