ข้อมูลผู้ประเมิน

ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 

 1.1   ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน  30  ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้ 

รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.1 ห้อง 4,8,10,12    จำนวน  12   ชั่วโมง/สัปดาห์ 

รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ห้อง 4,8,10,12   จำนวน   6   ชั่วโมง/สัปดาห์ 

ชุมนุมคณิตศาสตร์            จำนวน   1    ชั่วโมง/สัปดาห์ 

ลูกเสือ/เนตรนารี         จำนวน   1    ชั่วโมง/สัปดาห์ 

กิจกรรมสังคมและสาธารณประโยชน์   จำนวน   1   ชั่วโมง/สัปดาห์

    1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้       จำนวน   4  ชั่วโมง/สัปดาห์ 

    1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา  จำนวน   4  ชั่วโมง/สัปดาห์

    1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน   1  ชั่วโมง/สัปดาห์

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 

   1.1   ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน  30  ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้ 

รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน  ม.2 และ ม.4 จำนวน  6  ชั่วโมง/สัปดาห์ 

รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.2 ม.3 และ ม.4 จำนวน  11 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

ชุมนุมคณิตศาสตร์            จำนวน   1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

ลูกเสือ/เนตรนารี         จำนวน   1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

กิจกรรมสังคมและสาธารณประโยชน์ จำนวน   1 ชั่วโมง/สัปดาห์

กิจกรรมสังคมและสาธารณประโยชน์ จำนวน   1 ชั่วโมง/สัปดาห์

    1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้     จำนวน   4 ชั่วโมง/สัปดาห์ 

    1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา   จำนวน   4 ชั่วโมง/สัปดาห์

    1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น     จำนวน   1 ชั่วโมง/สัปดาห์

2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู

ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ แก้ปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

1.  สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ในปัจจุบันยังคงประสบปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน โดยเฉพาะในหัวข้อที่ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการและกระบวนการคิดอย่างเป็นขั้นตอน เช่น เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

1.       ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ  ผลการประเมินทางการศึกษาในระดับชาติ (O-NET) และนานาชาติ (PISA) ชี้ให้เห็นว่าผลคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนไทยในวิชาคณิตศาสตร์มีแนวโน้มต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานและค่าเฉลี่ยสากลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาเชิงคุณภาพในการเรียนการสอนและการเรียนรู้

2.       การสอนที่เน้นครูเป็นศูนย์กลาง วิธีการสอนแบบเดิมที่เน้นการบรรยายและให้นักเรียนจดจำสูตร หรือวิธีการแก้โจทย์เพียงอย่างเดียว ทำให้    ผู้เรียนขาดโอกาสในการฝึกฝนคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาด้วยตนเอง ส่งผลให้นักเรียนขาดทักษะพื้นฐานที่จำเป็นและไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง

3.       นักเรียนขาดการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ แม้จะมีการเรียนการสอนในห้องเรียน แต่การฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และเป็นขั้นเป็นตอนยังไม่เพียงพอต่อการสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งในเนื้อหาที่ซับซ้อนอย่างสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การขาดเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมการฝึกทักษะเฉพาะด้านนี้ทำให้นักเรียน ไม่สามารถพัฒนาความชำนาญได้อย่างเต็มที่

จากปัญหาข้างต้น การพัฒนา "แบบฝึกทักษะ" จึงเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยมุ่งเน้นที่การให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงอย่างเป็นลำดับขั้น เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและพัฒนาทักษะการแก้สมการให้ดีขึ้น นำไปสู่การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม

     ดังนั้นครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าทาย โดยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปร 

     เดียวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

       2.1  วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551  (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนนางรอง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563 ในเรื่องของมาตรฐานการเรียน และตัวชี้วัดของเนื้อหา เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 

       2.2 ศึกษาการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบไปด้วย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดสาระสำคัญ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล

       2.3 ศึกษารูปแบบของการสอน

       2.4 สร้างแผนการจัดการเรียนรู้วชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน (ค21102) โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ พร้อมเฉลยตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด ดังนี้

                1) แนะนำสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

                2) การแก้สมการโดยใช้สมบัติการเท่ากัน

                3) การแก้โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

        2.5 ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของแผนการจัดการเรียนรู้ พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข

       2.6 ครูผู้สอนนำแผนการจัดการเรียนรู้ มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์โรงเรียนนางรอง

       2.7 นำแผนการจัดการเรียนรู้ทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เคยเรียนเนื้อหา  เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว และให้นักเรียนเสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุง แก้ไข

       2.8 นำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน  (ค21102) ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบท

       2.9 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้ และสะท้อนผล การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริมด้วยคลิปวีดีทัศน์ที่ครูจัดหาไว้ สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง

3.1 เชิงปริมาณ

                นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 4 ห้อง รวมจำนวนนักเรียน 156 คน ได้รับการพัฒนาเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยมีคะแนนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด และ                มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ระดับ 2.5 ขึ้นไป ร้อยละ 70 โดยผลการประเมิน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวนทั้งหมด 156 คน     มีผลการเรียนระดับ 2.5 ขึ้นไป จำนวน 151 คน คิดเป็นร้อยละ 96.79  ซึ่งบรรลุผลตามเป้าหมายประเด็นท้าทายที่ตั้งไว้

3.2 เชิงคุณภาพ

             นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไป  และมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

4. สรุปผลการดำเนินงาน

       จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้แบบฝึกทักษะเรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567  พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ  เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ระดับ 2.5 ขึ้นไป ร้อยละ 70 จากผลการศึกษาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากแบบฝึกทักษะ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มีการเรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปยาก ทำให้นักเรียนเกิดความมั่นใจเมื่อทำแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง และอยากเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งแบบฝึกทักษะทำให้เกิดความสนใจ ช่วยพัฒนาความคิดของนักเรียน ตลอดจนแบบฝึกหัดมีคำสั่งชัดเจน นักเรียนเข้าใจง่าย เนื้อหามีความเหมาะสม