อุบลราชธานี

ที่แรกเมื่อมาเที่ยวอุบลราชธานีก็ต้องมาที่นี่เลยค่ะ วัดพระธาตุหนองบัว จังหวัดอุบลราชธานี หนึ่งในวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดอุบล ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2498 และในปี 2500 ได้มีการสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือ พระธาตุหนองบัว ขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา  โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในพระธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในสถูปลงรักปิดทอง สลักเรื่องราวพระพุทธเจ้า 500 ชาติ ด้านนอกมีรูปปั้น พญานาค 2 องค์ขนาดใหย่คือ ท่านปู่กริชกรกต และท่านย่ามณีเกตุให้เหล่าสายมูได้สักการะบูชากันอีกด้วย ใครที่ไปอุบลราชธานี ก็ห้ามพลาดเดินทางไปสักการะกันได้เลย 

มาตัวเมืองอุบลราชธานีกันทั้งทีแนะนำว่าควรมาแวะเดินเที่ยวที่ทุ่งศรีเมืองชมเรื่องราวของเมืองอุบลราชธานีกันค่ะ ซึ่งทุ่งศรีเมืองในอดีตเป็นเดิมเป็นที่ทำนาของเจ้าเมืองอุบลราชธานี และใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเผาศพแบบนกหัสดีลิงค์ของเจ้าเมืองอุบลในอดีตและปัจจุบันได้มีการฟื้นพิธีกรรมเผาศพแบบนกหัสดีลิงค์อีกครั้งในพิธีฌาปนกิจพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งทุ่งศรีเมืองในปัจจุบันเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังเก่าซึ่งเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองอุบลราชธานีศรีวะนาไลที่เราสามารถเข้าไปชมเรื่องราวเมืองอุบลได้ และอภิมหาเทียนพรรษาเฉลิมพระเกียรติ หรือต้นเทียนจำลอง สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีศาลหลักเมือง และมีอนุสาวรีย์พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานีให้เราได้สักการะเอาฤกษ์เอาชัยก่อนไปเที่ยวเมืองอุบลราชธานีกันด้วย    

ไปชมความสวยงามอลังการของพุทธศิลป์ในเมืองอุบลราชธานีกันต่อกับ วัดสระประสานสุข หรือวัดบ้านนาเมืองตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีไปประมาณ 5 กิโลเมตร ใกล้กับสนามบินอุบลราชธานี สร้างเมื่อปี พ.ศ.2470 จุดเด่นของวัดนี้คืออุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์ประดับด้วยเซรามิคสีน้ำตาลแดงขนาดใหญ่สวยงามอลังการมากๆ  นอกจากนนี้บริเวณประตูทางเข้าวัดยังมีรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 3 เศียร และวิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราชที่สวยงามอลังการไม่แพ้กัน

จากนั้นขับรถออกนอกเมืองไปเที่ยวที่เที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดอุบลราชธานีกันค่ะ เริ่มจากที่แรกก็ต้องที่นี่เลยอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ที่อำเภอโขงเจียมริมแม่น้ำโขงซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและลาว เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยจากตัวเมืองอุบลราชธานีขับรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ก็พบกับที่เที่ยวที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยจากบริเวณผาแต้มยังสามารถมองเห็นฝั่งลาวได้ด้วยค่ะ และจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติผาแต้มคือภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ที่บริเวณผาขาม ผาแต้ม ผาเจ็ก ผาเมย โดยจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางเดินรอบประมาณ  3.6 กิโลเมตร โดยเป็นทางเดินเลียบหน้าผาเดินสบายค่ะ จุดแรกจะอยู่บริเวณผาขามเดินไปประมาณ 280 เมตรจากจุดเรื่มต้นก็จะพบกับภาพเขียนสีกลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็นภาพปลาขนาดใหญ่จำนวน 4 ตัว ภาพช้าง 1 เชือกและรูปโครงร่างสัตว์สี่เท้า 1 ตัว จากนั้นเดินต่อไปจากจุดแรกประมาณ 300 เมตรก็จะพบกับภาพเขียนสีกลุ่มที่ 2 บริเวณผาแต้มก็จะพบกับภาพเขียนสีขนาดใหญ่เป็นภาพต่อเนื่องกันยาว 180 เมตร โดยเป็นภาพคน ช้าง เต่า ปลากระเบนน้ำจืด ปลาบึก เครื่องมือจับปลาของชาวอีสานที่เรียกว่าตุ้มและภาพฝ่ามือคน เดินต่อไปอีก 470 เมตรก็จะพบกับภาพเขียนสีกลุ่มที่ 3 ผาหมอน และสุดท้ายเดินไปอีกประมาณ 720 เมตรก็จะพบกับภาพเขียนสีกลุ่มที่ 4 ภายในอุทยานมีร้านขายเครื่องดื่ม ขนม และยังมีห้องน้ำสะอาดให้บริการใครที่อยากมาชมความสวยงามของธรรมชาติก็ปักหมุดมาที่นี่เลย