สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ภาคอีสาน หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือว่าเป็นภูมิภาคที่มีเนื้อที่มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีด้วยกันถึง 20 จังหวัด โดยผู้คนที่อาศัยจะมีสำเนียงภาษาอีสานเป็นเอกลักษณ์ที่คล้ายกับสำเนียงของภาษาลาว รวมไปถึงวัฒนธรรมอย่างอื่นที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ อาหาร ดนตรี ศิลปะการแสดง ฟ้อนรำ หมอลำ  

หินสามวาฬ

 หินสามวาฬ หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภูสิงห์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลาป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู ในพื้นที่ของภูสิงห์เอง เต็มไปด้วยกลุ่มของก้อนหินรูปทรงต่างๆ หน้าผาและถ้ำ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่เกิดเป็นความสวยงามที่ชวนให้สะกดสายตานักท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงหินสามวาฬที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดห      แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ75 ล้านปี หนึ่งเดียวของโลก ความพิเศษของหินสามวาฬอยู่ตรงที่เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬแม่วาฬและลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน   

ที่มา:https://travel.trueid.net/detail/7Mkbxrrndd2Z

ถนนคนเดินเชียงคาน

ถนนคนเดินเชียงคาน สีสันแห่งการมาเที่ยวเชียงคานที่เริ่มตั้งแต่ยามเย็นจนพลบค่ำ เป็นถนนทางเดินทอดยาวพาดผ่านบ้านเรือนไม้เก่าแก่ ทั้งสองข้างทางมีทั้งร้านขายของกินร้านค้าสินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึกต่างๆตลอดแนวทางเดิน ถนนคนเดินเชียงคาน ตั้งอยู่ถนนศรีเชียงคานสายล่างใกล้กับแม่น้ำโขง เริ่มต้นตั้งแต่วัดท่าครกไปจนถึงวัดศรีคุณเมือง โดยเปิดให้บริการทุกวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 17:00 – 22:00 น.

ที่มา:https://th.trip.com/moments/detail/chiang-khan-1447145-15238448?locale=th-TH

สกายวอล์คเชียงคาน

สกายวอล์ค เชียงคาน หรือ สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว ตั้งอยู่ที่ ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย สูงกว่าระดับแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้นเลยทีเดียว มีทางเดินที่ทำด้วยกระจกใสยาวกว่า 100 เมตร กว้างกว่า 2 เมตร เป็นจุดที่เสียวและตื่นเต้นที่สุดเลยค่ะ และยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวได้อย่าง

ที่มา:https://travel.trueid.net/detail/9WXGyb8Lwn47

ปราสาทศีขรภูมิ

 ปราสาทศีขรภูมิ ก่อสร้างด้วยอิฐ หินทราย และศิลาแลง ประกอบด้วย ปราสาทอิฐ ๕ องค์ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีปราสาทประธาน ๑ องค์อยู่ตรงกลาง และมีปราสาทบริวาร ๔ องค์ ล้อมอยู่ทั้ง ๔ ทิศ ทั้งหมดตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน และมีสระน้ำล้อมรอบเว้นทางเข้าด้านหน้าด้านหลัง

-ปราสาทประธาน มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม ไม่มีมุขยื่น มีประตูทางเข้า-ออกด้านทิศตะวันออกเพียงด้านเดียว ทับหลังแกะสลักจากหินทรายรูปศิวนาฏราชบนแท่น มีรูปหงส์แบก ๓ ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมาอยู่ด้านล่าง ส่วนเสาประดับกรอบประตูสลักเป็นลายเทพธิดา ลายก้ามปู และรูปทวารบาล ส่วนบริเวณหน้าบันเป็นอิฐประดับลวดลายปูนปั้น

-ปราสาทบริวาร มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม มีประตูทางเข้า-ออกด้านทิศตะวันออกด้านเดียว พบทับหลัง ๒ ชิ้น สลักด้วยหินทราย ชิ้นที่หนึ่งสลักเป็นภาพพระกฤษณะประลองกำลังกับช้างและคชสีห์ ชิ้นที่สองสลักเป็นภาพพระกฤษณะประลองกำลังกับคชสีห์ ส่วนปราสาทบริวารองค์ด้านหน้าขวาของปราสาทประธานพบจารึกหินทรายบนผนังกรอบประตู เป็นจารึกอักษรธรรมอีสาน ภาษาไทย-บาลี กล่าวถึงเรื่องราวของกลุ่มพระเถระผู้ใหญ่และท้ายพระยา ร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานแห่งนี้

ปราสาทศีขรภูมิ เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นเนื่องในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย และต่อมาคงมีการดัดแปลงให้เป็นวัดในพุทธศาสนา  ตามที่มีหลักฐานการบูรณะปฏิสังขรณ์ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๒ – ๒๓ ในสมัยอยุธยาตอนปลาย จากลักษณะลวดลายบนเสาประดับกรอบประตูและทับหลัง ปราสาทศีขรภูมิอยู่ในศิลปะขอมแบบบาปวน (พ.ศ.๑๕๖๐ – ๑๖๓๐) และแบบนครวัด (พ.ศ.๑๖๕๐ – ๑๗๒๐)

 

     ปัจจุบันปราสาทศีขรภูมิได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรแล้ว โบราณวัตถุที่พบนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์

                                อาทิ ทับหลังรูปพระกฤษณะทั้ง ๒ ชิ้น กลีบขนุน                                      รวมถึงแบบจำลองปราสาท

 

          เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๗.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.


ที่มา:https://www.finearts.go.th/surinmuseum/view/11318


อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง

อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง มีความสูงจากท้องน้ำ 20 เมตร สันเขื่อนยาว 4.4 กิโลเมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ 20.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของชาวสุรินทร์มาเป็นเวลานาน ได้ชื่อว่าทะเลสุรินทร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสวรรค์ชายหาดของคนชาวสุรินทร์ นอกจากนี้บนสันเขื่อนมีที่กว้าง


ที่มา:https://travel.trueid.net/detail/xy0XKrvmQ1by