เศรษฐศาสตร์(Economics) เป็นวิชาที่ว่าด้วยการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่จำกัดของมนุษย์เศรษฐศาสตร์จึงเกิดความขาดแคลนของทรัพยากรเพราะความต้องการกับทรัพยากรไม่มีความสมดุลกันเมื่อทรัพยากรทุกชนิดมีจำกัด ในทุกครั้งที่เราเลือกหรือตัดสินใจอะไรลงไป เราต้องเสียโอกาศที่จะนำทรัพยากรนั้นไปใช้อย่างอื่น เราเรียกว่า ค่าเสียโอกาส หรือต้นทุนค่าเสียโอกาส แล้วมันคืออะไรล่ะ???
ตัวอย่างค่าเสียโอกาส วันหนึ่ง ถ้าเรามีเงินพอที่จะทำกิจกรรมได้ 1 อย่าง แต่ว่ามีให้เราเลือกระหว่าง 1. ไปซื้อของ และ 2. ดูหนัง เราจะตัดสินใจระหว่าง 2 อย่างนี้อย่างไร ?
ถ้าเรามีเงินอยู่จำกัด หากเราเลือกซื้อของ สิ่งที่เรากำลังจะเสียไปก็คือ ความสุขจากการที่เราได้ดูหนัง (เพราะเรามีเงินซื้อได้เพียง 1 อย่างในทางกลับกัน เมื่อเราเลือกดูหนัง สิ่งที่เรากำลังจะเสียไปคือ ความสุขจากการซื้อของ นั่นเอง ค่าเสียโอกาสคือ ความสุขที่จะได้รับ ไม่ใช่เงินที่เราเสียไป
บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์คือ Adam Smith เสนอแนวคิด Laissez-faire คือการปล่อยให้เอกชนทำอย่างเสรี (รัฐห้ามยุ่ง) ในหนังสือเรื่อง (The Wealth of Nation) ให้ระบบเศรษฐกิจเป็นไปตามกลไกราคา ซึ่งกลไกราคา ทางเศรษฐศาสตร์เปรียบเสมือน มือที่มองไม่เห็น
เศรษฐศาสตร์จุลภาค คืออะไรและศึกษาเกี่ยวกับอะไร
เศรษฐศาสตร์จุลภาคเป็นแขวงวิชาหนึ่งของ วิชาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะศึกษาหน่วยเศรษฐกิจขนาดเล็ก เช่นการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าผู้บริโภคมีการตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างไรเพื่อให้ตอบสนองความต้องการสูงสุด หรือศึกษาพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรของหน่วยผลิตอย่างไรเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด เป็นต้น
โดยหัวข้อหลักในการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาคจะมีดังนี้
1. อุปสงค์และอุปทาน
2. ทฤษฎีพฤติกรรมผู้บริโภค
3. การผลิตและทรัพยากรการผลิต
4. ประเภทของตลาด
จุดสังเกต คำแสดงถึงแสดงเศรษฐระดับจุลภาค มักจะเป็นสินค้าชนิดเดียว เช่น ปีนี้ไทยปลูกข้าวได้น้อยกว่าปีที่แล้ว คิดเป็นร้อยละ 10
บิดาของเศรษฐศาสตร์จุลภาค คือ จอห์น เมย์นาด คีนย์ (John Maynard Keynes)
เศรษฐศาสตร์มหภาค คืออะไร และศึกษาเกี่ยวกับอะไร
เศรษฐศาสตร์มหภาค เป็นแขนงวิชาหนึ่งในวิชาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะศึกษาหน่วยเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยจะศึกษาหน่วยเศรษฐกิจโดยรวมทั้งระบบ เช่น ผลผลิตหรือรายได้ประชาชาติ ระดับการออม การลงทุนของประชาชน นโยบายรัฐบาล นโยบายการคลัง เป็นต้น
หัวข้อหลักในวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค จะมีดังนี้
เงินฝืด
เงินเฟ้อ
ดุลการค้าระหว่างประเทศ
รายได้ประชาชาติ
ปัญหาการว่างงานในประเทศ
งบประมาณแผ่นดิน
ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เกิดขึ้นจากการที่ทรัพยากรเศรษฐกิจมีอยู่อย่างจำกัด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ ทำให้ทุกสังคมประสบปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งจำแนกออกได้เป็น 3 ปัญหา คือ
จะเลือกผลิตอะไร (What) ผู้ผลิตต้องคิดว่าจะผลิตอะไร เพราะทรัพยากรมีอยู่อย่างจำกัดทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าและบริการได้ทุกชนิด
ผลิตอย่างไร (How) ผู้ผลิตต้องคิดว่าจะผลิตอย่างไร ผลิตด้วยวิธีใด ต้องใช้ปัจจัยการผลิตอะไรบ้างจึงจะทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ผลิตเพื่อใคร (For Whom ) ผู้ผลิตต้องคิดว่าจะผลิตเพื่อใคร ใครจะเป็นผู้ใช้และจะจำแนกจ่ายสินค้าไปยังผู้ใช้อย่างไร
จะสังเกตได้ว่าทุกสิ่ง ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรทั้งสิ้น
ทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์ มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป บางตำราจะเรียกว่า ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทรัพยากรการผลิต ปัจจัยการผลิต ไม่ว่าชื่อใดก็ตามล้วนเป็นทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างจำกัดทั้งสิ้น ซึ่งทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด มีอยู่เพียง 4 ปัจจัยเท่านั้น
ที่ดิน คือ ทรัพยากรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทั้งที่อยู่บนดิน ใต้ดิน ใต้น้ำ ในอากาศ (ไม่ใช่ที่ดินแต่เพียงอย่างเดียว) เช่น สัตว์ป่า ต้นไม้ แม่น้ำ อากาศ ลม ค่าตอบแทนของที่ดินคือ ค่าเช่า
ทุน คือ สิ่งใดก็ตามที่ทำให้เกิดสินค้าและบริการ เป็นส่วนสนับสนุน แต่ไม่ใช่สินค้า เช่น ชาวนา ทำนา ทุนของชาวนา คือ จอบ เสียม ถังน้ำ ส่วนสินค้าก็คือ ข้าว เป็นต้น ค่าตอบแทนของทุนคือ ดอกเบี้ย
แรงงาน ในที่นี้ เราจะนับคนเป็นแรงงานเท่านั้น เพราะต้องมีการจ้างงาน เราไม่นับสัตว์เป็นแรงงาน เพราะไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้สัตว์เหล่านั้น ค่าตอบแทนของแรงงานคือ ค่าจ้าง แรงงานแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
แรงงานมีทักษะ เป็นแรงงานที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ หรือเรียนมาทางด้านนั้นโดยเฉพาะจึงจะทำงานสาขานั้นได้ เช่น หมอ พยาบาล ทหาร ตำรวจ ครู
แรงงานไม่มีทักษะ เป็นแรงงานไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ หรือเรียนมาในสาขานั้นก็สามารถทำงานได้ เช่น แม่บ้าน เกษตรกร ยาม วินมอเตอร์ไชค์
ผู้ประกอบการ เจ้าของปัจจัยการผลิต โดยนำทรัพยากรทั้งที่่ดิน ทุน แรงงาน มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งแบ่งผู้ประกอบการออกเป็น 2 ประเภทคือ ผู้ประกอบการคนเดียว ผู้ประกอบ 2 คนขึ้นไป ค่าตอบแทนของผู้ประกอบการคือ กำไร