ส่วนที่ 2  ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียน

          ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ Active Learning

     1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และและคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

สภาพปัญหาของผู้เรียนด้านคณิตศาสตร์ยังพบปัญหาอย่างมากในการคิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ เนื่องจากนักเรียนไม่เข้าใจถึงกระบวนคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เท่าที่ควร เนื่องมาจากการเรียนการสอนไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้ตลอดเวลา ทำให้ผู้เรียนไม่สนใจเรียน จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการแนวคิด เชิงคำนวณที่ดีขึ้น ครูผู้สอนจึงใช้วิธีการประยุกต์การใช้สื่อการสอนที่มีความหลากหลาย และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning ที่เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง เพื่อส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

   2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

             2.1 วิเคราะห์ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องการแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนแม่ลาววิทยาคม

             2.2  ปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยการวิเคราะห์เนื้อหาและกำหนดเนื้อหาเพื่อความเหมาะสมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning

             2.3 เขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร  ตามเนื้อหาที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้  โดยเน้นกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่ให้ผู้เรียนได้ค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง
            2.4  สร้างสื่อการเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยเป็นสื่อที่ทำให้นักเรียนสามารถค้นพบองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
            2.5 ประเมินผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนเรื่องการแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร

             2.6 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ข้างต้น  โดยมีผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ร่วมสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น เพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้
            2.7 ประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ด้วยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
            2.8 ปรับปรุงหรือพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ให้มีคุณภาพมากขึ้นตามผลการสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และผลการประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน

      3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 

             3.1 เชิงปริมาณ

             ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 100 คน ที่ได้การพัฒนาทักษะกระบวนการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร  โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ Active Learning  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร  ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด

3.2  เชิงคุณภาพ

             ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง