ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับบุคคลภายในบริษัท

1. บทนำ

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท ล็อกซเล่ย์ ซิสเต็ม อินทิเกรเตอร์ จำกัด จึงจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยประกาศฉบับนี้จะครอบคลุมถึงท่านซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้

(1) ผู้สมัครงานกับบริษัท

(2) บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

(3) บุคลากรของบริษัท

(4) ผู้ถือหุ้นของบริษัท และผู้กระทำการแทนผู้ถือหุ้น

(5) สมาชิกครอบครัวของบุคลากร

(6) บุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาจ้างเหมาบริการ

2. นิยาม

2.1 “บริษัท” หมายถึง บริษัท ล็อกซเล่ย์ ซิสเต็ม อินทิเกรเตอร์ จำกัด ซึ่งกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ของประกาศฉบับนี้

2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

2.3 “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

2.4 “ฐานทางกฎหมาย” หมายถึง เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.5 “ผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งแสดงความประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกหรือสัมภาษณ์งาน เพื่อทำสัญญากับบริษัทเป็นพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว หรือบุคลากรในตำแหน่งอื่นใดที่ทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆให้กับบริษัท และได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และค่าตอบแทนอื่น ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรเพื่อตอบแทนการทำงานทั้งนี้ ไม่ว่าจะแสดงความประสงค์ด้วยตนเองมายังบริษัทโดยตรง หรือผ่านการดำเนินการของบริษัทจัดหางานภายนอก หรือองค์กรภายนอกอื่นใด

2.6 “บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บุคคลซึ่งผู้สมัครงานได้อ้างอิงไว้ในเอกสารสมัครงาน สมาชิกในครอบครัวของผู้สมัครงาน บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

2.7 “บุคลากร” หมายถึง บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัท และได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และค่าตอบแทนอื่นไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรเพื่อตอบแทนการทำงาน เช่น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ผู้จัดการ บุคลากร ที่ปรึกษา ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

2.8 “สมาชิกครอบครัว” หมายถึง บิดา มารดา คู่สมรส บุตร พี่น้อง หรือญาติของบุคลากรอื่นใด ซึ่งบุคลากรได้ให้ข้อมูลของบุคคลนั้นไว้กับบริษัทหรือบริษัทได้รับข้อมูลของบุคคลนั้นมาโดยประการอื่นเนื่องจากการจ้างงานบุคลากรโดยพิจารณาจากสถานะตามความเป็นจริงที่มีกับบุคลากร แม้จะไม่ใช่สถานะที่มีกับบุคลากรตามกฎหมายหรือโดยชอบด้วยกฎหมาย

2.9 “ผู้ถือหุ้น” ได้แก่ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งถือหุ้นที่ออกโดยบริษัท

2.10 “ผู้กระทำการแทนผู้ถือหุ้น” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้กระทำการแทนหรือผู้รับมอบฉันทะของผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาหรือผู้ถือหุ้นประเภทนิติบุคคลในการกระทำการแทน ใด ๆ เกี่ยวกับหุ้นของบริษัท

2.11 “บุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาจ้างเหมาบริการ” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งปฏิบัติงานให้กับบริษัทตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาจ้างเหมาบริการ ที่บริษัททำขึ้นระหว่างบริษัทกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ประกอบการบริหารสัญญาและการส่งมอบงานตามสัญญาระหว่างบริษัทกับลูกค้า หรือ เพื่อการให้บริการภายในอาคารสำนักงานของบริษัท เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานทำความสะอาด เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่ว่าบริษัทจะถือเป็นนายจ้างของบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายแรงงานด้วยหรือไม่ก็ตาม

2.12 “พันธมิตรทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ขายหรืออาจจะเสนอขายสินค้าและ/หรือบริการให้แก่บริษัท หรือได้ลงทะเบียนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

3. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของบริษัทที่แจ้งในประกาศฉบับนี้


3.1 รายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อสกุล ชื่อเล่น เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ หมู่เลือด สัญชาติ ภูมิลำเนาที่เกิด ลายมือชื่อ สถานภาพการสมรส จำนวนบุตร ประวัติทางราชการทหาร ประวัติการอุปสมบท ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่รัฐบาลออกให้ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง วีซ่า หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ใบอนุญาตทำงาน สำเนาทะเบียนบ้าน รูปถ่าย เอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล) หมายเลขทะเบียนรถยนต์ สี และรุ่นของรถยนต์ ข้อมูลหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลักฐานการชำระภาษีเงินได้

3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ไปรษณีย์ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ไปรษณีย์ปัจจุบัน ที่อยู่ไปรษณีย์ของที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล บัญชีผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ช่องทางการติดต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และข้อมูลจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Line, Facebook หรือ LinkedIn เป็นต้น

3.3 ข้อมูลตามเอกสารสมัครงาน เช่น ข้อมูลในจดหมายแนะนำตัวผู้สมัครงาน ข้อมูลตามประวัติการสมัครงาน (Curriculum Vitae / Resume) ข้อมูลในใบสมัครงาน ทักษะในการทำงาน ทักษะภาษา ความรู้พิเศษ ประสบการณ์และประวัติการทำงาน สถานที่ทำงานเก่าและปัจจุบัน ระยะเวลาการทำงานในอดีตถึงปัจจุบัน ตำแหน่งงานและเงินเดือนที่ต้องการ วันที่สมัครงาน เป็นต้น

3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการฝึกอบรม เช่น ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิใบแสดงผลการศึกษา ข้อมูลความสามารถที่เกี่ยวกับการทำงาน เช่น ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการอบรมและการทดสอบ กิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างศึกษา เป็นต้น

3.5 ข้อมูลการประเมินผลการสัมภาษณ์งานโดยบริษัท เช่น ผลการประเมินทักษะ ข้อคิดเห็นต่อตัวผู้สมัคร ผลการสัมภาษณ์ ข้อตกลงเกี่ยวกับการจ้างงาน เช่น ตำแหน่งงาน ระยะเวลาทดลองงาน เงินเดือน หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ตกลงเพื่อรับเข้าทำงาน เป็นต้น

3.6 ข้อมูลการทำงาน เช่น รหัสพนักงาน User ID/รหัสผ่านตั้งต้น ข้อมูลบัตรประจำตัวพนักงาน ตำแหน่ง สายงาน ชื่อหน่วยงาน รหัสสังกัด ระยะเวลาในการทำงาน ข้อมูลบันทึกเวลาทำงาน เงินเดือน เอกสารแสดงรายได้ หนังสือรับรองการทำงานจากสถานที่ทำงานเดิม ข้อมูลบริษัท/ธุรกิจที่ท่านเกี่ยวข้อง รายงานการมีส่วนได้เสียในนิติบุคคลอื่น ข้อมูลการถือหุ้นในนิติบุคคลต่าง ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตของท่าน (เช่น เลขที่บัตรใบอนุญาต วันที่ออกบัตรและวันหมดอายุบัตร ประวัติการสอบและผลการสอบ) ประสบการณ์ทำงาน (เช่น สถานที่ทำงาน (ปัจจุบัน/อดีต) อาชีพ ตำแหน่ง เงินเดือน/รายได้ต่อเดือน รายละเอียดค่าตอบแทนวันที่เริ่มทำงาน วันที่สิ้นสุดการทำงาน อายุงาน) ข้อมูลการทำงานข้าราชการ (หากมี) และ เอกสารประกอบการพิจารณาอื่น ๆ

3.7 ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือน ผลประโยชน์ และสวัสดิการที่ได้รับเนื่องจากการทำงานกับบริษัท เช่น เงินเดือน (ฐานเงินเดือน ระดับเงินเดือน โบนัส) ค่าตอบแทน ค่านายหน้า ค่าทำงานล่วงเวลา ค่าทำงานกะ ค่าทำงาน นอกสถานที่ ค่าเดินทาง เงินค่าตอบแทนพิเศษ ข้อมูลการนำส่งเงินให้หน่วยงานต่าง ๆ (เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรมสรรพากร ประกันสังคม) เงินชดเชย เงินบำนาญ การประกันชีวิต/ประกันสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล และสวัสดิการต่าง ๆ ของบริษัท เป็นต้น

3.8 ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น

3.9 ข้อมูลด้านการปฏิบัติงานและข้อมูลทางวินัย เช่น ผลการประเมินการทดลองงาน ผลการประเมินประจำปีข้อมูลการเลื่อน ย้าย หมุนเวียน เปลี่ยนตำแหน่ง ตัวชี้วัด ข้อมูลเกี่ยวกับการฟ้องร้องทางวินัย กระบวนการทางวินัยและการตักเตือน รายละเอียดการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์และผลการพิจารณา

3.10 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานหรือสมาชิกครอบครัวของบุคลากรที่ปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสมัครงานและการจ้างงานของบริษัท ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล ความสัมพันธ์กับผู้สมัคร อายุ อาชีพ/ตำแหน่ง การศึกษา ที่อยู่ สถานที่ทำงาน ข้อมูลติดต่อของสมาชิกครอบครัวและบุคคลอ้างอิง เป็นต้น

3.11 ข้อมูลตามเอกสารอ้างอิง ได้แก่ ข้อมูลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบขับขี่ สำเนาใบสำคัญการผ่านเกณฑ์ทหาร สำเนาหนังสือรับรองการทำงาน สำเนาหนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาสลิปเงินเดือน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ข้อมูลทะเบียนบ้าน สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการสอบประวัติบุคคล สัญญาจ้างและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ใบรับรองแพทย์ รายงานผลการตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน ข้อมูลบัตรประกันสังคม ข้อมูลบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ข้อมูลใบอนุญาตในการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพในประเทศไทย หนังสือรับรองเกี่ยวกับครอบครัว นามบัตร แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน และข้อมูลเอกสารอื่น ๆ ที่ได้ให้ไว้กับบริษัท เป็นต้น


3.12 ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่ถือในบริษัท ได้แก่ ใบจองหุ้น สัญญาซื้อขายหุ้น ข้อมูลซึ่งปรากฏในใบหุ้น สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เป็นต้น

3.13 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิและการทำหน้าที่ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้แก่ ข้อมูลการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ข้อมูลการมอบฉันทะเพื่อเข้าประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ข้อมูลการออกเสียงลงคะแนน ข้อมูลการรับเงินปันผลและเสียภาษีจากเงินปันผล เป็นต้น

3.14 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ เช่น ความทุพพลภาพ น้ำหนักและส่วนสูง โรคประจำตัว ผลการตรวจสุขภาพ ใบรับรองแพทย์ อุณหภูมิร่างกาย ผลการตรวจหาเชื้อโรคติดต่อร้ายแรง แบบประเมินความเสี่ยงรายบุคคล (รวมถึงบันทึกกิจกรรมของผู้ติดเชื้อโรคติดต่อร้ายแรง เช่น โควิด-19) ผลตรวจสารเสพติด เป็นต้น

3.15 ข้อมูลการสอดส่องเพื่อดูแลความปลอดภัย เช่น ข้อมูลการเข้าใช้ระบบงานภายใน การเข้าอาคาร ข้อมูลที่บันทึก จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (รวมถึงภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งที่บันทึกด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งควบคุมโดยบริษัทหรือผู้รับจ้างของบริษัท) บันทึกการใช้งานอินเทอร์เน็ต อีเมล และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ รหัสสำหรับระบบข้อมูลสารสนเทศและสิทธิการเข้าถึงระบบข้อมูลสารสนเทศของบริษัท

3.16 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงสนทนาจากระบบบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของศูนย์บริการลูกค้า หรือ Call Center/Help Desk บันทึกภาพและเสียงสนทนาในการประชุมแบบออนไลน์ (e-Meeting)


หมายเหตุ กรณีที่ท่านให้รายละเอียดของบุคคลที่สาม หรือกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านตามประกาศฉบับนี้ ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งให้บุคคลที่สามดังกล่าวทราบถึงกรณีที่ท่านนำข้อมูลของบุคคลดังกล่าวมาเปิดเผยต่อบริษัท รวมถึงแจ้งรายละเอียดในประกาศฉบับนี้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวด้วย

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมดังต่อไปนี้

4.1 จากตัวท่านเอง ผ่านทางวาจา ได้แก่ กรณีการพูดคุยต่อหน้า หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น ผ่านทางเอกสาร ได้แก่ แบบฟอร์มใบสมัครงาน จดหมายแนะนำ ตัว ประวัติย่อการทำงาน (Curriculum Vitae / Resume) นามบัตร เอกสารสัญญา แบบฟอร์มการกรอกเอกสารประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันกลุ่ม หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท เป็นต้น รวมถึง ผ่านทางช่องทางการติดต่ออื่น ได้แก่ อีเมล โทรสาร เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันสำหรับติดต่อสื่อสาร เช่น Line, Facebook และ LinkedIn เป็นต้น


4.2 จากแหล่งอื่น ๆ หรือบุคคลที่สาม ได้แก่ บริษัทในเครือหรือในกลุ่มของบริษัท ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ บุคลากรของบริษัทที่ท่านได้ฝากให้ ช่วยเหลือในการติดต่อประสานงานเรื่องการสมัครงาน ผู้กระทำการแทนหรือผู้รับมอบฉันทะของท่าน องค์กรนายหน้าจัดหางาน เว็บไซต์จัดหางานที่ท่านได้ให้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านไว้สำหรับการสมัครงานในตำแหน่งที่บริษัทเปิดรับสมัคร บริษัทที่ให้บริการตรวจสอบประวัติของท่านก่อนเข้าทำงาน บริษัทผู้รับเหมาแรงงานหรือ ผู้รับเหมาบริการภายนอกซึ่งเป็นนายจ้างของท่าน โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลซึ่งท่านได้เข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มต้นทำงานกับบริษัท บุคคลที่ท่านได้ อ้างอิงในใบสมัครงานเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของท่าน หรือองค์กรอื่นที่ท่านได้เคยหรือได้ทำงานให้ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทอื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้จัดสรร สวัสดิการต่าง ๆ ของบริษัทให้แก่ท่าน เช่น บริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทประกันชีวิต หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็น สาธารณะตามกฎหมาย เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น


4.3 ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน หรือสมาชิกครอบครัวของบุคลากร บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้สมัครงาน หรือบุคลากรซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่าน

5. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้หรือเปิดเผยภายใต้วัตถุประสงค์ โดยอาศัยฐานทางกฎหมายตามที่ปรากฏในประกาศฉบับนี้เท่านั้น หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ปรากฏในประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอมตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในประกาศฉบับนี้ บริษัทได้ทำการจำแนกวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ วัตถุประสงค์เฉพาะ ซึ่งใช้บังคับกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามประเภทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“วัตถุประสงค์เฉพาะ”) และวัตถุประสงค์ทั่วไป ซึ่งจะใช้บังคับกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทุกประเภท (“วัตถุประสงค์ทั่วไป”)

5.1 วัตถุประสงค์เฉพาะ

5.1.1 ผู้สมัครงาน

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การพิจารณาใบสมัครและคัดเลือกผู้สมัครงานเพื่อการสัมภาษณ์ รวมถึงการนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยภายในบริษัทเพื่อประกอบการสัมภาษณ์ การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผู้สมัครงานได้ลงสมัครไว้ ตลอดจนตำแหน่งอื่น ๆ ที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม รวมถึงการติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์ การแจ้งผลการสัมภาษณ์และการเสนอตำแหน่งงานเพื่อการเข้าทำสัญญาจ้างกับท่าน

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของท่านเพื่อประกอบการพิจารณารับท่านเข้าทำงาน รวมถึงการรับข้อมูลผลการตรวจสุขภาพของท่านจากโรงพยาบาลที่ท่านเข้ารับการตรวจ

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย

- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น ตรวจสอบคุณสมบัติตามที่มีกฎหมายกำหนด เพื่อการประเมินความสามารถในการทำงานของบุคลากร เพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

3.การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของท่าน เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการรับท่านเข้าทำงาน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงาน หรือบุคคลภายนอกบริษัท เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของท่านแทนบริษัท

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย

- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น ตรวจสอบคุณสมบัติตามที่มีกฎหมายกำหนด เพื่อการประเมินความสามารถในการทำงานของบุคลากร)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

4.การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการพิจารณาและติดต่อกับท่าน เมื่อบริษัทเปิดรับสมัครในตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้หรือตำแหน่งงานอื่นใดในอนาคตซึ่งบริษัทเห็นว่าเหมาะสมกับท่าน (เฉพาะกรณีที่ท่านไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานหรือไม่เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทด้วยเหตุผลประการอื่น)

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง



5.1.2 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การพิจารณาตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัครงาน ซึ่งอาจรวมถึงการนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยเป็นการภายในบริษัทเพื่อใช้ประกอบการสัมภาษณ์การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผู้สมัครงานได้ลงสมัครไว้ ตลอดจนตำแหน่งอื่น ๆ ที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้สมัครงาน


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาและติดต่อกับผู้สมัครงาน เมื่อบริษัทเปิดรับสมัครในตำแหน่งงานที่ผู้สมัครงานได้สมัครไว้หรือตำแหน่งงานอื่นใดในอนาคตซึ่งบริษัทเห็นว่าเหมาะสมกับผู้สมัครงาน (เฉพาะกรณีที่ผู้สมัครงานไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานหรือไม่เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทด้วยเหตุผลประการอื่น)

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้สมัครงาน


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

3.การติดต่อประสานงานกับท่านในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดกับผู้สมัครงานภายในบริเวณของบริษัท

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้สมัครงาน



5.1.3 บุคลากร

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับการเข้าทำสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างกรรมการ (ถ้ามี) ตลอดจนการเข้าทำสัญญาการแก้ไขเปลี่ยนแปลงและการเลิกสัญญาดังกล่าว

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย

- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการประเมิน ความสามารถในการทำงานของบุคลากร เพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการติดต่อและประกอบธุรกิจของบริษัทอันเนื่องมาจากตำแหน่งหน้าที่การงานของท่าน เช่น การจัดทำนามบัตร การใช้และเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อติดต่อประสานงานกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานของรัฐ บริษัทในเครือในกลุ่ม และเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างบริษัทกับลูกค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจการเดินทางไปทำงานในสถานที่ของลูกค้า การป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานภายในสถานที่ของบริษัทหรือลูกค้า หรือการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงการมอบอำนาจให้เป็นผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทนบริษัทในบางกรณี เช่น การยื่นประมูลงาน การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐแทนบริษัท การให้ถ้อยคำต่อหน่วยงานรัฐแทนบริษัท

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือบุคคลที่สาม (เช่น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น)

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการประเมินความ สามารถในการทำงานของบุคลากร เพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

3.การตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของท่าน เช่น กฎหมายการทำงานของคนต่างด้าว หรือกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นต้น และดำเนินการช่วยเหลือให้ท่านได้มาซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว เช่น การยื่นคำขอใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว การยื่นขอวีซ่า การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เป็นต้น รวมถึงการตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลอื่นที่จำเป็นต่อการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมกับตำแหน่งงานของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองแรงงานและ สวัสดิภาพในการทำงาน ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลกับหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงแรงงาน และผู้ให้บริการของบริษัทเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการประเมินความ สามารถในการทำงานของบุคลากร เพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

4.การบริหารจัดการเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคลของบริษัท ได้แก่ การกำกับดูแลและตรวจสอบการเข้าทำงาน (เช่น การตรวจสอบเวลาการเข้า-ออกงานด้วยระบบแสกนบัตรหรือระบบแสกนลายนิ้วมือ) การขาด การลา การประเมินประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงาน การพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง การพิจารณาลงโทษทางวินัย และการเลิกจ้าง การแจ้งข่าวสารและนโยบายของบริษัท การสร้าง แก้ไข หรือลบทำลายข้อมูลของบุคลากร การลงทะเบียนข้อมูลของบุคลากรในระบบฐานข้อมูลของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource Information System : HRIS) ตลอดจนการส่งมอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับการทำงานให้แก่บุคลากร ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการจัดการและควบคุมดูแลบุคลากรตามข้อบังคับการทำงานของบริษัท และกรณีมีกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการประเมินความสามารถในการทำงานของบุคลากร เพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

5.การให้สวัสดิการต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การทำประกันสุขภาพ การตรวจสุขภาพประจำปี การเบิกค่ารักษาพยาบาล การเดินทางท่องเที่ยวประจำปี เป็นต้น รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้หน่วยงานอื่น เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกัน ผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทนำเที่ยว บริษัทสายการบิน เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท (ในกรณีของลูกจ้างที่ทำงานอันตราย)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (สำหรับการให้สวัสดิการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท)

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการประเมินความ สามารถในการทำงานของบุคคลากร เพื่อการคุ้มครองแรงงาน เพื่อการประกันสังคม)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (สำหรับการให้สวัสดิการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท)


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

6.การจ่ายค่าจ้าง เงินโบนัส ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ท่านได้ออกไปก่อนเพื่อทำงานให้แก่บริษัท การดำเนินการเกี่ยวกับการประกันสังคม การดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายภาษีของท่าน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

7.การดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมทักษะบุคลากรของบริษัท ทั้งภายในและภายนอกบริษัท และทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานรัฐ เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน และเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เช่น บริษัทในกลุ่ม ผู้จัดอบรมภายนอก บริษัทสายการบิน

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (กรณีการฝึกอบรมภาคบังคับโดยบริษัท)

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท (กรณีการฝึกอบรมภาคบังคับโดย)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (กรณีการฝึกอบรมภาคสมัครใจ)

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท (กรณีการฝึกอบรมภาคบังคับโดยกฎหมาย)


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

8.การรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณบริษัท เช่น การสอดส่องดูแลบริเวณภายในบริษัทด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด การตรวจสอบการเข้า-ออกบริษัทด้วยระบบแสกนบัตรหรือระบบแสกนลายนิ้วมือ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อบุคคลภายนอก เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

9.การบันทึก การจัดทำ การจัดเก็บเอกสารทางบัญชีและภาษี ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในต่างประเทศ (ถ้ามี) กรณีเก็บไว้เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท เช่น การเก็บเอกสารและเปิดเผยต่อหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด การตรวจสอบบัญชีและภาษีรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลให้กับหน่วยงานภายนอก เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินต่างๆ ที่ปรึกษาบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นต้น และผู้ให้บริการคลังเก็บเอกสาร

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท (กรณีการเก็บเอกสารตามกฎหมาย)

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท (กรณีการเก็บเอกสารตามกฎหมาย)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

10.การตลาดและการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท เช่น การเก็บภาพของผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ เช่น สื่อภายในบริษัท บทสัมภาษณ์ ข่าวประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (กรณีเผยแพร่ตามสื่อสังคมที่ผู้เข้าร่วมไม่สามารถคาดหมายถึงการเผยแพร่นั้น)


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

11.การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้บนฐานข้อมูลของบริษัทเพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงเกี่ยวกับการจ้างงานท่านและการปฏิบัติตามสัญญาจ้างของบริษัท เช่น การเก็บรักษาข้อมูลตามใบสมัครงาน การบันทึกข้อมูลการเข้าออกบริษัท การเก็บผลการตรวจสุขภาพประจำปีซึ่งเป็นสวัสดิการของบริษัท เป็นต้น และกรณีเก็บไว้เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท เช่น การเก็บเอกสารและเปิดเผยต่อหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด หรือการแจ้งข้อมูลต่อหน่วยงานของรัฐ

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท (กรณีการเก็บตามกฎหมาย)

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีการเก็บตามกฎหมาย)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (กรณีการเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล)



5.1.4 ผู้ถือหุ้น (เฉพาะผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดา) และผู้กระทำการแทนผู้ถือหุ้น

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การออกใบหุ้น การยกเลิกใบหุ้น การลงบันทึกในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น การเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับหุ้นของบริษัทต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย การจัดทำตราสารหรือสัญญาซื้อขายหุ้นกรณีมีการโอนหุ้นที่ถืออยู่ให้ผู้ถือหุ้นอื่นหรือบุคคลอื่น หรือกรณีมีการรับโอนหุ้นจากผู้ถือหุ้นอื่นหรือบุคคลอื่น และการจัดการให้ข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือผู้ถือหุ้นหรือบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้โอนหรือผู้รับโอนหุ้นของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การติดต่อสื่อสารและการดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของผู้ถือหุ้นของบริษัท เช่น การประชุมคณะกรรมการ การประชุมผู้ถือหุ้น การลงคะแนนเสียง การจ่ายเงินปันผลและการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท



5.1.5 สมาชิกครอบครัวของบุคลากร

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในทะเบียนประวัติของบุคลากร

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และบุคลากร

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การดำเนินการใด ๆ เพื่อการช่วยเหลือด้านการขออนุญาตอยู่ในประเทศของบุคลากรและครอบครัวซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เช่น การขอและต่ออายุวีซ่า รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่ผู้ให้บริการของบริษัท สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และบุคลากร

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

3.การอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการทำเงินเดือน การหักภาษี ณ ที่จ่าย และการลดหย่อนภาษีเงินได้ของบุคลากร รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่ผู้ให้บริการของบริษัท กรมสรรพากร เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และบุคลากร


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

4.การให้สวัสดิการกับบุคลากร เช่น การทำประกัน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลภายนอก เช่น บริษัทประกัน เป็นต้น เพื่อการให้สวัสดิการกับบุคลากรดังกล่าว

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และบุคลากร

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

5.การให้ความช่วยเหลือและมอบเงินสนับสนุนแก่ครอบครัวของบุคลากรกรณีบุคลากรเสียชีวิต รวมถึงการยืนยันตัวตนของสมาชิกครอบครัวและการอนุมัติโดยบริษัทเพื่อการเข้ารับเงินสนับสนุนดังกล่าว

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการเข้าทำสัญญา

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

6.การติดต่อประสานงานกับท่านในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดกับบุคลากรภายในบริเวณของบริษัท หรือระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้บริษัท

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และบุคลากร



5.1.6 บุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาจ้างเหมาบริการ

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การร่วมกับบริษัทผู้รับเหมาแรงงานหรือผู้รับเหมาบริการในการพิจารณาใบสมัครและคัดเลือกท่านเข้าทำงานให้กับบริษัท รวมถึงการสัมภาษณ์ และนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยเป็นการภายในบริษัทเพื่อประกอบการสัมภาษณ์ การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ท่านได้ลงสมัครไว้

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้รับเหมาแรงงานหรือผู้รับเหมาบริการ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างเหมาแรงงานหรือสัญญาจ้างเหมาบริการที่ทำขึ้นระหว่างบริษัทกับนายจ้างของท่าน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลไปยังบุคคลภายนอก เช่น ลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทในกรณีที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้รับเหมาแรงงานหรือผู้รับเหมาบริการ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

3.การบันทึกข้อมูลการทำงานของท่าน เช่น เวลาเข้า-ออกงาน วันหยุดวันลา เป็นต้น (เช่น การตรวจสอบเวลาการเข้า-ออกด้วยระบบแสกนบัตรหรือระบบแสกนลายนิ้วมือหรือการบันทึกข้อมูลลงในเอกสารแบบฟอร์ม) และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไปยังบริษัทผู้รับเหมาแรงงานหรือผู้รับเหมาบริการซึ่งเป็นนายจ้างของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารงานทรัพยากรบุคคลของบริษัทและบริษัทนายจ้างของท่าน เช่น การคำนวณค่าตอบแทนเพื่อการทำงานของท่าน การตรวจสอบบันทึกการลางานและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลางาน ตลอดจนการคำนวณค่าบริการที่เรียกเก็บจากบริษัท

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้รับเหมาแรงงานหรือผู้รับเหมาบริการ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

4.การให้สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ แก่ท่านในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงานประเภทที่กฎหมายแรงงานให้ถือว่าบริษัทเป็นนายจ้างของท่านด้วย รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทให้กับท่าน ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้หน่วยงานอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (สำหรับการให้สวัสดิการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท)

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนดเพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (สำหรับการให้สวัสดิการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท)


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

5.การดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมทักษะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานให้บริษัท

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

6.การจัดการด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและการจัดการสถานการณ์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในการทำงาน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและโรงพยาบาล เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนดเพื่อการคุ้มครองแรงงาน)

- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม


5.2 วัตถุประสงค์ทั่วไป

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

1.การตรวจสอบข้อเท็จจริงและบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพของท่าน เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลสุขภาพ จัดทำแบบประเมินความเสี่ยง การวัดอุณหภูมิร่างกาย เป็นต้น เพื่อดำเนินการป้องกันโรคติดต่อหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่กระจายเป็นวงกว้าง รวมถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดกับชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคลที่เข้ามาภายในบริเวณบริษัท โดยอาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้หน่วยงานภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว เช่น กรมควบคุมโรค สถานพยาบาล หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท

- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง

- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม

- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น กฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านสาธารณสุข)


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

2.การรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณบริษัท เช่น การสอดส่องดูแลบริเวณภายในบริษัทด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

3.การจัดการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและโครงสร้างของบริษัท เช่น การขออนุญาตประกอบธุรกิจกับหน่วยงานรัฐ การจัดการด้านระบบและฐานข้อมูล การตรวจสอบภายใน การซื้อขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง


วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม

4.การปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมาย การริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต

ฐานทางกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

- เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย


6. ผลกระทบของการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของท่าน ในการเข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัท ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถประเมินความสามารถและความเหมาะสมของท่านอย่างถูกต้อง และในบางกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญต่อตำแหน่งที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทอาจตัดสินใจไม่รับท่านเข้าทำงานด้วยเหตุผลที่ท่านไม่ให้ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญต่อตำแหน่งดังกล่าว

6.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

กรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครงาน บริษัทอาจไม่สามารถประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ที่เหมาะสมเพื่อการรับผู้สมัครงานเข้าทำงานกับบริษัท

6.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร

6.3.1 บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือสัญญาจ้างกรรมการ (ถ้ามี) รวมถึงเพื่อประโยชน์โดยชอบในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบุคคลที่สามที่มีความสัมพันธ์ในทางธุรกิจกับบริษัท ดังนั้น ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้าง หรือคู่สัญญากับบุคคลที่สามที่บริษัทมีความสัมพันธ์ในทางธุรกิจด้วย ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานร่วมกันของท่านกับบริษัทต่อไปได้

6.3.2 ในกรณีที่บริษัทขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น กรณีที่บริษัทต้องขอความยินยอมในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเพื่อจัดหาสวัสดิการให้กับท่าน เช่น การทำประกันสุขภาพให้แก่ท่าน แต่ท่านไม่ให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมในภายหลัง การถอนความยินยอมอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งไว้กับท่านได้ ซึ่งอาจรวมถึงการที่ท่านอาจไม่ได้รับสวัสดิการบางประการของบริษัท แต่ทั้งนี้ท่านยังคงสามารถให้หรือไม่ให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมได้โดยสมัครใจและเป็นอิสระ โดยการกระทำเช่นนั้นย่อมไม่ส่งผลต่อการประเมินผลงานและความสามารถของท่านที่กระทำโดยบริษัท

6.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น (เฉพาะผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดา) และผู้กระทำการแทนผู้ถือหุ้น

บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านหรือผู้ถือหุ้นที่ท่านกระทำการแทนหรือเป็นผู้รับมอบฉันทะสามารถดำเนินการตามสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ตามกฎหมายได้ หากท่านมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท ท่านหรือผู้ถือหุ้นที่ท่านกระทำการแทนหรือเป็นผู้รับมอบฉันทะอาจจะไม่สามารถใช้สิทธิหรือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ถือหุ้นตามที่กฎหมายกำหนดได้

6.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกครอบครัวของบุคลากร

บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการให้สวัสดิการแก่บุคลากรของบริษัท หากท่านมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถจัดสวัสดิการบางอย่างแก่บุคลากรหรือมอบสิทธิประโยชน์บางประการที่เกี่ยวเนื่องกับบุคลากรให้แก่ท่านได้

6.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาจ้างเหมาบริการ

6.4.1 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของท่านในการเข้าทำงานกับบริษัทภายใต้สัญญาที่บริษัทนายจ้าของท่านทำกับบริษัท รวมถึงเพื่อประโยชน์โดยชอบในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่บริษัทนายจ้างของท่านได้ทำไว้กับบริษัท ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถประเมินความสามารถและความเหมาะสมของท่านอย่างถูกต้อง ซึ่งในบางกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญต่อตำแหน่งที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทอาจตัดสินใจไม่รับท่านเข้าทำงานด้วยเหตุผลที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว รวมถึงอาจทำให้บริษัทไม่สามารถบริหารจัดการการทำงานของท่านตามสัญญาจ้างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาปฏิบัติงาน หรือสัญญาจ้างบริการ หรือสัญญาจ้างเหมาแรงงานที่บริษัททำกับนายจ้างของท่านได้

6.4.2 ในกรณีที่บริษัทขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาทิ กรณีที่บริษัทต้องขอความยินยอมในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเพื่อจัดหาสวัสดิการให้กับท่าน (กรณีที่ท่านมีสิทธิได้รับสวัสดิการนั้น) แต่ท่านไม่ให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมในภายหลัง การถอนความยินยอมอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งไว้กับท่านได้ ซึ่งอาจรวมถึงการที่ท่านอาจไม่ได้รับสวัสดิการบางประการของบริษัทดังกล่าว


7. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใครบ้าง

7.1 แผนกหรือส่วนงานต่าง ๆ ในบริษัท และบริษัทในเครือ

บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 4 ด้านบน ให้กับแผนกหรือส่วนงานต่าง ๆ ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการดังกล่าว รวมถึงเปิดเผยข้อมูลของท่านไปยังบริษัทในกลุ่ม ในเครือโดยสามารถอาศัยความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้แก่บริษัทเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ชึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

7.2 ผู้ให้บริการของบริษัท

7.2.1 บริษัทอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนบริษัท หรือเพื่อช่วยในการจัดหาหรือจัดให้มีสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอก ชึ่งรวมถึง

(1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ สื่อดิจิทัล แพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

(2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง

(3) ผู้ให้บริการการเรียน การสอน การฝึกอบรม การจัดสอบ และวิทยากร

(4) บริษัทที่ให้บริการด้านงานกิจกรรม

(5) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์

(6) ผู้ตรวจสอบบัญชี

(7) ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชีและ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัท

(8) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บและ/หรือทำลายเอกสาร

(9) ผู้ให้บริการด้านการจัดหางาน และการบริหารทรัพยากรบุคคล

(10) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร

(11) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอกในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7.2.2 บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้น และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ และบริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการที่บริษัททำงานด้วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

7.3 พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น หรือลูกค้าของบริษัท

บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจ และให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทและกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการใช้บริการจากบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ สถาบันการศึกษา หน่วยงานหรือสถาบันจัดอบรมความรู้หรือวิชาชีพ โรงพยาบาล บริษัทจองตั๋วเครื่องบิน บริษัทประกัน บริษัทตัวแทน (เอเจนซี่) บริษัทที่ผลิตบัตร บริษัทที่พิมพ์ข้อมูล บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ การวิจัย และการสำรวจ

7.5 บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด

ในบางกรณี บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล (เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรมสรรพากร และ/หรือ หน่วยงานอื่น ๆ) หรือบุคคลอื่นหากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด

7.6 ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่

ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน บริษัทย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลที่สามที่ได้รับการโอนหรือที่ประสงค์จะรับโอนสิทธิของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

7.7 การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ

7.7.1 บริษัทอาจจะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานด้านการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย เช่น เมื่อบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อรับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

7.7.2 เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนในระดับที่เพียงพอ หรือดำเนินการให้แน่ใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น บริษัทอาจจะต้องได้รับคำยืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย

8. บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเพียงใด

8.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการพิจารณาเข้าทำสัญญาจ้างกับท่าน และเมื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้

8.1.1 ในกรณีที่บริษัทรับท่านเข้าทำงาน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างและหลังจากสัญญาจ้างสิ้นสุดลง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

8.1.2 ในกรณีที่ท่านไม่ได้เข้าทำงานกับบริษัทไม่ว่าด้วยเหตุเพราะบริษัทปฏิเสธไม่รับท่านเข้าทำงาน หรือท่านปฏิเสธจะเข้าทำงานกับบริษัท และท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บข้อมูลของท่านไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทต่อไป บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ ท่านเข้าสัมภาษณ์งานกับบริษัท

8.1.3 ในกรณีที่ท่านไม่ได้เข้าทำงานกับบริษัทไม่ว่าด้วยเหตุเพราะบริษัทปฏิเสธไม่รับท่านเข้าทำงาน หรือท่านปฏิเสธจะเข้าทำงานกับบริษัท และท่านไม่ได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บข้อมูลของท่านไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทต่อไป บริษัทจะลบและทำลายข้อมูลของท่านโดยทันที นับแต่มีการปฏิเสธไม่รับท่าน เข้าทำงานหรือท่านแจ้งการปฏิเสธที่จะเข้าทำงานกับบริษัท

8.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

8.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้

8.3.1 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างกรรมการ (ถ้ามี) และหลังจากท่านพ้นจากสถานะการเป็นบุคลากรของบริษัท เป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

8.3.2 กรณีข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ ประกันกลุ่ม และผลการตรวจสารเสพติด บริษัทจะลบหรือทำลายไม่เกินระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ท่านพ้นจากสถานะการเป็นบุคลากรของบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทอาจพิจารณาลบข้อมูลดังกล่าวในช่วงระยะเวลาของสัญญาจ้างทุกรอบปีบัญชีของบริษัท

8.3.3 ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพของท่านเพื่อป้องกันโรคติดต่อ เช่น แบบประเมินความเสี่ยง ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 บริษัทจะลบทำลายภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลจากท่าน

8.3.4 กรณีข้อมูลลายนิ้วมือ บริษัทจะลบหรือทำลายไม่เกินระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ท่านพ้นจากสถานะการเป็นบุคคลากรของบริษัท

8.5 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น (เฉพาะผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดา) และผู้กระทำการแทนผู้ถือหุ้น

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ถือหุ้นหรือผู้กระทำการแทนหรือผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามสิทธิหน้าที่ต่าง ๆ ของผู้ถือหุ้น เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัทและเพื่อการจัดการเกี่ยวกับองค์กรและการดำเนินธุรกิจของบริษัทตามที่ระบุไว้ข้างต้น ตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจการของบริษัทและหลังจากที่บริษัทเสร็จสิ้นการชำระบัญชีไปแล้วเป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 2 ปี

8.6 ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกครอบครัวของบุคลากร

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างกรรมการ (ถ้ามี) ที่บริษัททำกับบุคลากร และหลังจากบุคลากรพ้นจากสถานะการเป็นบุคลากรของบริษัท เป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

8.7 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาจ้างเหมาบริการ

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้

8.7.1 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการพิจารณารับท่านเข้าทำงาน และทำงานร่วมกับท่านภายใต้สัญญาจ้างเหมาแรงงานหรือสัญญาจ้างเหมาบริการ และเมื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

8.7.2 กรณีบริษัทพิจารณาไม่รับท่านเข้าทำงานกับบริษัทหรือท่านปฏิเสธไม่เข้าทำงานกับบริษัท บริษัทจะลบและทำลายข้อมูลของท่านโดยทันที นับแต่มีการปฏิเสธไม่รับท่านเข้าทำงานหรือท่านแจ้งการปฏิเสธที่จะเข้าทำงานกับบริษัท

8.7.3 กรณีข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพประจำปี ประกันกลุ่ม และผลการตรวจสารเสพติด บริษัทจะลบหรือทำลายไม่เกินระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ท่านพ้นจากสถานะการเป็นบุคคลตามสัญญาจ้างเหมาแรงงานของบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทอาจพิจารณาลบข้อมูลดังกล่าวในช่วงระยะเวลาของสัญญาจ้างทุกรอบปีบัญชีของบริษัท

8.7.4 ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพของท่าน เช่น แบบประเมินความเสี่ยง ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 บริษัทจะลบทำลายภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สัญญาจ้างเหมาแรงงาน หรือสัญญาเหมาบริการสิ้นสุด

8.7.5 กรณีข้อมูลลายนิ้วมือ บริษัทจะลบหรือทำลายไม่เกินระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่สัญญาจ้างเหมาแรงงานหรือสัญญาจ้างเหมาะบริการสิ้นสุด

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนอาจถูกเก็บรักษาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นสำหรับการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท โดยในกรณีดังกล่าวข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาตลอดระยะเวลาที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

9. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ ซึ่งท่านอาจขอให้สิทธิต่อบุคคลที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ภายในเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท โดยสิทธิดังกล่าวมีดังนี้

9.1 สิทธิเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ โดยการเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนั้น

9.2 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้

9.3 สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย

9.4 สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย

9.5 สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย

9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย

9.7 สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้

9.8 สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ท่านสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวแก่บริษัทโดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อมูลการติดต่อของบริษัท ซึ่งอยู่ด้านล่างนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะอธิบายเหตุผลของการปฏิเสธไปพร้อมกับคำตอบสนองดังกล่าว

10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว หากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย หากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลใช้บังคับ

11. ข้อมูลและช่องทางการติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยบริษัทยินดีที่จะช่วยเหลือท่านในการให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะและข้อร้องเรียน โปรดติดต่อบริษัท


(1) บริษัท ล็อกซเล่ย์ ซิสเต็ม อินทิเกรเตอร์ จำกัด

เลขที่ 102 ถนน ณ ระนอง แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

โทรศัพท์: (66) 02-348-8000


(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 102 ถนน ณ ระนอง แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

โทรศัพท์ (66) 02-348-8000 ต่อ 8150

Email: DPOOFFICE@loxleysi.co.th