ขั้นตอนแนวทางการดำเนินการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
โรงเรียนกลันทาพิทยาคม
โรงเรียนกลันทาพิทยาคม
โรงเรียนพัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดการศึกษา หนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ และการบูรณาการ สร้างความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนที่หลากหลาย
1. สร้างความรู้ความเข้าใจและเจตคติที่ดีของผู้บริหาร ครูและบุคลากรเกี่ยวข้องและพัฒนาทักษะการบริหารการเปลี่ยนแปลงและภาวะผู้นำทางวิชาการ
ของผู้บริหารเพื่อบูรณาการการจัดการศึกษาทั้ง 3 รูปแบบและการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
2. พัฒนาทักษะการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลที่ยืดหยุ่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
3. ส่งเสริม สนับสนุนผู้บริหาร ครูและบุคลากรทุกคนพัฒนาตนเองด้วยการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) อย่างต่อเนื่อง
โรงเรียนพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศอย่างบูรณาการเพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาการจัดการศึกษา หนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ ดังนี้
1. ศึกษาฐานข้อมูลกลาง สำรวจ ค้นหา คัดกรองด้วยกระบวนการของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลจัดทำเป็นฐานข้อมูลของโรงเรียน
2. เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
มนุษย์ (อพม.) และผู้เกี่ยวข้องร่วมสำรวจ ค้นหาและรวบรวมข้อมูล
3. จัดทำสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและเชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้เรียนหรือเด็กหลุดระบบการศึกษา เด็กตกหล่นของโรงเรียน
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. จัดทำแผนติดตาม ช่วยเหลือ ส่งต่อ ดูแล เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่นด้วย การจัดการศึกษา 1 โรงเรียน 3 รูปแบบหรือวิธี
อื่นๆ ตามสภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียน
นำหลักเกณฑ์และวิธีการปรับใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อพัฒนาหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสภาพปัญหา ความสนใจ ความต้องการของผู้เรียน
2. พัฒนาหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาเรียนและการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล โดยคำนึงถึงทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรง
ชีวิตและการทำงานตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
3. ออกแบบ/พัฒนาหลักสูตรที่ผสมผสานสาระการเรียนรู้การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยและเชื่อมโยงเนื้อหาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และ
เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชน สถานประกอบการมีส่วนร่วมพัฒนาให้มีความสอดคล้องกับบริบทและความต้องการของท้องถิ่นด้านการจัดการเรียนรู้
1. หลักการจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นสำหรับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
1) เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้
2) เชื่อมโยงบูรณาการรายวิชาต่าง ๆ และการเรียนรู้แบบองค์รวม เรียนรู้ควบคู่กับการทำงาน
3) ส่งเสริมการใช้สื่อดิจิทัลและแหล่งเรียนรู้ออนไลน์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการเรียนรู้
4) ส่งเสริมสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชน สถานประกอบการมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้และใช้ทรัพยากรร่วมกัน
5) เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมออกแบบการเรียนรู้และเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง การลงมือปฏิบัติจริง กระบวนการคิด การเผชิญสถานการณ์
และการแก้ปัญหา และเรียนรู้จากชีวิตจริงในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง
6) ติดตาม ช่วยเหลือ ส่งต่อและดูแลผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
7) พัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น
2. วิธีการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นสำหรับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
1) การเรียนรู้แบบรายบุคคล ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้ของตนเองตามความสนใจ ความต้องการและสภาพปัญหาในชีวิตจริง เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น สถานประกอบการ สื่อเทคโนโลยี กิจกรรมในชุมชนและบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้ สรุปความรู้นำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพบกลุ่ม
2) การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม ผู้เรียนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากระบบออนไลน์ ใบงานที่ครูมอบหมาย จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องเรียน สัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือ ตามความพร้อมของโรงเรียน
3) การเรียนรู้แบบครูพบผู้เรียน ครูผู้สอนพบผู้เรียนที่บ้านหรือสถานที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำเกี่ยวกับการเรียนรู้ร่วมกับผู้ปกครอง ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเจ้าของสถานประกอบการ สำหรับจำนวนครั้งในการพบนักเรียนให้คำนึงถึงธรรมชาติของวิชาและความพร้อมของโรงเรียน
4) การเรียนรู้แบบโครงงาน ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านโครงงานหรือกิจกรรมที่ตนเองสนใจโดยจัดทำโครงงานบูรณาการกับรายวิชาต่าง ๆหรือองค์ความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ สถานประกอบการ การใช้ทรัพยากรร่วมกันในชุมชน
5) การเรียนรู้โดยการใช้เทคโนโลยี ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสื่อดิจิทัลและแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ฯลฯ
3. สถานที่และเวลาเรียน
ผู้เรียนเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ทุกเวลาตามความพร้อมความสนใจและความต้องการโดยการมีส่วนร่วมผู้ปกครอง บุคคลในชุมชน สถานประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
4. ด้านการวัดและประเมินผล
1) วัดและประเมินผลให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ( ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 ) และระเบียบวัดและประเมินผลของโรงเรียนที่มีความยืดหยุ่นตามหลักการแนวคิดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
2) การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการของนักเรียน สังเกตพฤติกรรมการทำงาน การประเมินการปฏิบัติงาน การประเมินด้วยแฟ้มสะสมด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ์ แฟ้มสะสมงาน ฯลฯ โดยการมีส่วนร่วมของ ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
3) ประเมินผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้จากชีวิตประจำวันแบบองค์รวมและ บูรณาการกับรายวิชาต่าง ๆ เน้นการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากสถานการณ์จริง มีเกณฑ์การให้คะแนนแต่ละผลงาน/ชิ้นงานที่ชัดเจนโดยการมีส่วนร่วมของผู้เรียน เพื่อนผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและสถานประกอบการหรือผู้เกี่ยวข้อง
4) เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้นำความรู้และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการทำงานในชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งในการวัดและประเมินผลโดยการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์
5) การเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สำหรับการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการทำงาน อาชีพ สิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และผลงาน ชิ้นงาน ฯลฯ
1. ประสานความร่วมมือและสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจซึ่งกันและกันในการทำงานร่วมกันกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลายตามความเหมาะสมและบริบทของโรงเรียน
2. เปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ กับโรงเรียน อย่างเป็นระบบ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินการ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมปรับปรุงพัฒนาและร่วมชื่นชม
3. ภาคีเครือข่ายพี่เลี้ยง โรงเรียนต้นแบบจัดการศึกษาหนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ เครือข่ายศูนย์การเรียน เครือข่ายมหาวิทยาลัย เครือข่ายอื่น ๆ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีและการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และร่วมพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลและร่วมพัฒนาบุคลากร
4. ภาคีเครือข่ายเชิงพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ผู้นำชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้าน ทีมสหวิชาชีพ สถานประกอบการ สถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานอื่น ๆ ร่วมแบ่งปันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน ร่วมสำรวจ ค้นหา พัฒนา ส่งต่อผู้เรียนและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง
การนิเทศ ติดตามและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันด้วยชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) โดยการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกคนและบูรณาการรูปแบบการนิเทศที่หลากหลายเพื่อพัฒนาครูและสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกันและการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
1. สร้างความเข้าใจ จุดประกายความคิดและสร้างความเชื่อมั่นและกำหนดเป้าหมายในการนิเทศร่วมกัน
2. จัดทำแผนการนิเทศเชื่อมโยงกับการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) และพัฒนาเครื่องมือการนิเทศให้มีความเหมาะสมกับการจัดการศึกษา 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
3. ดำเนินการนิเทศด้วยการบูรณาการรูปแบบการนิเทศที่เหมาะสมกับบริบทการจัดการศึกษาทั้ง 3 รูปแบบโดยการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู และเครือข่ายร่วมเยี่ยมและสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครู
4. นำผลการนิเทศแลกเปลี่ยนรู้ด้วยชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) โดยการมีส่วนร่วมผู้บริหารและครู ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งปันและเติมเต็มต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ด้วยความเป็นกัลยาณมิตรเพื่อสร้างความเข้มแข็งวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน
5. สรุปบทเรียนที่ได้รับ จุดเด่นและจุดควรพัฒนา ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไข นำบทเรียนที่ได้รับสะท้อนกลับการทำงานและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ดำเนินงานโครงการ ABE ใน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด12 จังหวัด ได้แก่ นครพนม, ราชบุรี, สงขลา, ปัตตานี, ลำปาง, พิษณุโลก, สุโขทัย, พะเยา, ระยอง, สมุทรสงคราม, สุรินทร์, ขอนแก่น, สุราษฎร์ธานี, ยะลา, เชียงราย, แม่ฮ่องสอนและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินงานโครงการแก้ปัญหาเด็นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาในจังหวัดนำร่อง 13 จังหวัด ได้แก่ นครพนม, ราชบุรี, อุบลราชธานี, กาญจนบุรี, ตาก, ตรัง, ปัตตานี, สงขลา, น่าน, เชียงใหม่, นครราชสีมา, สระแก้ว, บึงกาฬและ นอกจากนั้นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ไม่ได้ร่วมโครงการของ สพฐ.และโรงเรียนไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดที่ดำเนินงานโครงการ ABE กสศ. แต่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นหนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ จึงจัดทำ โครงการพัฒนาโรงเรียนการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น “หนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ” เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงานจำนวน 50 โรงเรียน ครอบคลุม 4 ภูมิภาค