การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะทางคณิตศาสตร์มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเป็นพลเมืองในศตวรรษที่ 21 ครูผู้สอนต้องแสวงหากระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นในการสร้างแบบจำลอง การใช้สถานการณ์ปัญหาที่สอดคล้องหรือเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้เรียนเพื่อทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมาย จากการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา นักเรียนส่วนใหญ่จะมีสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ค่อนข้างน้อย ครูผู้สอนจึงได้ศึกษาแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์  และได้พบว่าการใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning  ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ IS+ ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล เป็นขั้นตอนที่ประกอบด้วย การตั้งคำถาม สืบค้นความรู้ การสรุปองค์ความรู้ สื่อสารนำเสนอ บริการความรู้ และการปรับปรุงแก้ไข  จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่สูงขึ้นได้ ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าท้าย การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล เพื่อพัฒนาสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้สูงขึ้น ตลอดจนการใช้คณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นชีวิตประจำวันได้อย่างมีเหตุมีผล เกิดการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 อย่างมีคุณภาพ

                     2.1 ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนแก่งหางแมวพิทยาคาร พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับชั้น ม.ปลาย ในเรื่องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
                  2.2 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหา สาระการเรียนรู้  สาระสำคัญและเวลาที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้
                  2.3 ศึกษางานวิจัย/บทความ/วารสาร/หนังสือ/คู่มือ ที่เกี่ยวข้องกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ขั้นตอนหลักของสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์และกระบวนการย่อยของสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์
                  2.4 ดำเนินการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา  สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรม สื่อการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล
                  2.5 ครูผู้สอนนำแผนการจัดการเรียนรู้และชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำ

                 2.6 นำชุดกิจกรรมชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ไปให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายพิจารณา ให้นักเรียนเสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุง แก้ไข  หรือนักเรียนมีความสับสนในข้อความใด ให้ดำเนินการปรับภาษาให้เข้าใจง่ายขึ้น

                 2.7 นำแผนการจัดการเรียนรู้และชุดกิจกรรมชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  

                 2.8 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ ส่งเสริมนักเรียนที่มีศักยภาพสูงโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม และหากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริม จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

3.1  เชิงปริมาณ
     เป้าหมายการพัฒนาที่คาดหวัง
          1.  นักเรียนที่เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
          2.  นักเรียนที่เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมินสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีขึ้นไป
          3.  นักเรียนที่เรียน มีผลงาน/ชิ้นงานที่แสดงถึงทักษะและสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยตนเองอย่างน้อย 1 ชิ้นงาน  

          4.  นักเรียนที่เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไป
      ผลลัพธ์การพัฒนา
          1.  นักเรียนที่เรียนในรายวิชา คณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33104 จำนวน 42คน จาก 42 คน คิดเป็นร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
          2.  นักเรียนที่เรียนในรายวิชา คณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33104 จำนวน 42คน จาก 42 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมินสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีขึ้นไป
          3.  นักเรียนที่เรียนมีชิ้นงานการนำเสนอข้อมูลด้วยความถี่ ฐานนิยมและตารางความถี่จำแนกทางเดียว ที่แสดงถึงทักษะและสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยตนเอง จำนวน 1 ชิ้น

          4.  นักเรียนที่เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล มีค่าเฉลี่ย 85.29 อยู่ในระดับมากขึ้นไป

3.2 เชิงคุณภาพ
      เป้าหมายการพัฒนาที่คาดหวัง
         1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล มีคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกแผน
        2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 
        3. ผลงาน/ชิ้นงานที่แสดงถึงทักษะและสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยตนเองอย่างน้อย   1 ชิ้นงาน คุณภาพในระดับดีขึ้นไป
      ผลลัพธ์การพัฒนา

         1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล รายวิชา คณิตศาสตร์ 6 รหัสวิชา ค33104 เรื่อง ความถี่ ฐานนิยมและตารางความถี่จำแนกทางเดียว  มีคุณภาพในระดับดี
        2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เชิงรุก(Active Learning) ด้วยกระบวนการ IS+  ตามแนวทางบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ 80/80
        3. ชิ้นงานการนำเสนอข้อมูลด้วยความถี่ ฐานนิยมและตารางความถี่จำแนกทางเดียว แสดงถึงทักษะและสมรรถนะการคิด/แปลงปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยตนเอง มีคุณภาพในระดับดีขึ้นไป