การสอนวรรณคดีไทยให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในปัจจุบันเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับครูผู้สอน เนื่องจากช่องว่างระหว่างวัยและความแตกต่างทางเจนเนอเรชั่นที่เพิ่มมากขึ้น นักเรียนมักมองว่าวรรณคดีไทยเป็นเรื่องไกลตัว ล้าสมัย และไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพวกเขา ส่งผลให้ขาดความสนใจและแรงจูงใจในการเรียนรู้ นอกจากนี้ ภาษาที่ใช้ในวรรณคดีไทยมักเป็นภาษาโบราณที่เข้าใจยาก ทำให้นักเรียนรู้สึกท้อแท้และไม่อยากเรียนรู้  ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้คุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนลดลง และทำให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างยากลำบาก

      ในฐานะครูผู้สอน การปรับเปลี่ยนวิธีการสอนให้มีความน่าสนใจและสอดคล้องกับยุคสมัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น การนำแนวคิดเกมมิฟิเคชันรวมกับ      การเรียนรู้แบบร่วมมือมาประยุกต์ใช้ในการสอนวรรณคดีไทย ร่วมกับรูปแบบการสอน 2MALE นำสู่การพัฒนาเกมการ์ดการศึกษา อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งเกมการ์ดสามารถช่วยดึงดูดความสนใจของนักเรียน ทำให้การเรียนรู้สนุกสนานมากขึ้น และส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างนักเรียน นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การตีความ และการประยุกต์ใช้ความรู้จากวรรณคดีในชีวิตประจำวัน การปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเช่นนี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างวรรณคดีไทยกับนักเรียนยุคใหม่ และทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

      2.1 ศึกษาหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้ ตามบริบทของสถานศึกษาที่สอดคลองกับการพัฒนาเกมการ์ดการศึกษาประกอบการเรียนวรรณคดีไทย ตามแนวคิดเกมมิฟิเคชันร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ และรูปแบบการจัดการเรียนรู้วรรคดีไทย 2MALE Model เพื่อเสริมสร้างทักษะ     การคิดและการทำงานร่วมกัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

                       2.2 สอบถามความคิดเห็นของนักเรียน และสัมภาษณ์ความต้องการของครูและผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการพัฒนาเกมการ์ดการศึกษาประกอบ  การเรียนวรรณคดีไทยตามแนวคิดเกมมิฟิเคชันร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดและการทำงานร่วมกันของนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1

  2.3 ออกแบบการเรียนรู้และนวัตกรรมเกมการ์ดการศึกษาประกอบการเรียนวรรณคดีไทย ตามขั้นตอนดังนี้

   Plan (วางแผน)

1) วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการของนักเรียน

2) กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเกมการ์ดการศึกษา

3) ออกแบบโครงสร้างเกมและกติกาการเล่น

4) เลือกเนื้อหาวรรณคดีที่จะนำมาใช้ในเกม

5) วางแผนการทดสอบและประเมินผลของเกม

Do (ปฏิบัติ)

1) พัฒนาต้นแบบเกมการ์ด

2) สร้างเนื้อหาและภาพประกอบสำหรับการ์ดแต่ละใบ

3) จัดทำคู่มือการเล่นและแนวทางสำหรับครูผู้สอน

4) ทดลองใช้เกมในกลุ่มนักเรียนขนาดเล็ก

5) ปรับปรุงเกมตามผลการทดลองใช้เบื้องต้น

Check (ตรวจสอบ)

1) ประเมินผลการใช้เกมการ์ดการศึกษาจากนักเรียนและครู

2) วิเคราะห์ข้อมูลการมีส่วนร่วมและผลการประเมินประจำหน่วย

3) ตรวจสอบว่าเกมการ์ดการศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่

4) รวบรวมข้อเสนอแนะและปัญหาที่พบระหว่างการใช้งาน

5) เปรียบเทียบผลลัพธ์กับวิธีการสอนแบบดั้งเดิม

Action (ปรับปรุง)

1) ปรับปรุงเนื้อหาและกติกาของเกมตามผลการประเมิน

2) พัฒนาเวอร์ชันใหม่ของเกมการ์ดการศึกษาจากปัญหาที่พบ

3) ขยายการใช้งานเกมการ์ดการศึกษาไปยังห้องเรียนอื่น ๆ

4) วางแผนการพัฒนาเกมการ์ดการศึกษาในระยะยาวและปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

                2.4 ดำเนินกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามแผนที่วางไว้

                2.5 ประเมินผลการจัดการเรียนรู้

  2.6 ประเมินทักษะการคิดและทักษะการทำงานร่วมกัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

2.7 ประเมินความพึงพอใจในการใช้เกมการ์ดการศึกษาประกอบการเรียนวรรณคดีไทย