รัฐบาลได้กำหนดนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การวิจัยเพื่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่การสร้างนวัตกรรมจึงเป็นส่วนที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายและเพื่อให้เกิดการสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ประกอบกับพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 44(3) กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มีหน้าที่และอำนาจจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เพื่อกำหนดและกำกับทิศทางในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566-2570 ใช้แนวทางตามกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พ.ศ. 2566-2570 โดยให้ความสำคัญกับการนำวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และมีศักยภาพเพียงพอในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมรองรับความท้าทายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยมุ่งเน้นให้คนไทยมีสมรรถนะและทักษะสูง เพียงพอในการพลิกโฉมประเทศให้ยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เศรษฐกิจไทยมีความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพิ่มความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนพร้อมสู่อนาคต และสังคมไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนสามารถแก้ปัญหาท้าทายของสังคมและสิ่งแวดล้อม ปรับตัวได้ทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก 

มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เป็นศาสตร์ความรู้ที่มีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจพลวัตทางสังคมผ่านการวิพากษ์ประเด็นทางสังคมในมิติต่าง ๆ และสามารถแก้ปัญหาท้าทายของสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การสนับสนุนเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จำเป็นต้องพิจารณาถึงโอกาสเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าต่าง ๆ ให้กับประเทศและพิจารณาถึงความท้าทายข้างหน้าเพื่อสร้างขีดความสามารถในการรองรับที่เข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจนวัตกรรม และเกิดผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบสูงจากงานวิจัยในทุกมิติเพื่อเป็นประโยชน์เชิงพื้นได้ โดยเฉพาะงานวิจัยที่ใช้กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น (Community Based Research: CBR) สร้างความเข้มแข็งในเศรษฐกิจฐานรากผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชน สร้างคน สร้างองค์ความรู้ สร้างการเปลี่ยนแปลง 

สมาคมพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและสังคม และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้กำหนดจัดการประชุมวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดย สมาคมพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและสังคม ครั้งที่ 23 ขึ้น เพื่อเป็นกลไกหนึ่งที่มีส่วนกระตุ้นให้นักวิชาการได้สร้างสรรค์ผลงานเพื่อสนองตอบต่อความต้องการและแก้ไขปัญหาของสังคม อีกทั้งยังเป็นการสร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัย คณาจารย์ นิสิต นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งในปี พ.ศ. 2568 นี้ จัดขึ้นในหัวข้อ “มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สู่นวัตกรรมเชิงพื้นที่” โดยมุ่งหวังว่าการจัดการประชุมครั้งนี้จะนำมาซึ่งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิชาการ องค์ความรู้ใหม่ การต่อยอดการวิจัยไปสู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อให้เกิดการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาสังคม และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ ตลอดจนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจนวัตกรรมที่ยั่งยืนได้