แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)

สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

(ทุกสังกัด)

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

ระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565

ผู้จัดทำข้อตกลง

ชื่อนายประยุทธ์  นามสกุล ไทรย้อยสกุลเลิศ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนแกลง“วิทยสถาวร” สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ชบ.รย.

รับเงินเดือนในอันดับ คศ. 3 อัตราเงินเดือน 35,600 บาท

ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ (สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรียน ตามสภาพการจัด

การเรียนรู้จริง)

ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน

ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด               

                     ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

                     1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 16.60 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้

                                 กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 

รายวิชา ภาษาไทย 6 ท 23102 ม.3   จำนวน 10.00 ชั่วโมง/สัปดาห์

รายวิชา ภาษาไทย 4 ท 32102 ม.3   จำนวน 5.00 ชั่วโมง/สัปดาห์

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 

ลูกเสือ เนตรนารี   จำนวน 0.83 ชั่วโมง/สัปดาห์

ชุมนุม เรื่องของพืช จำนวน 0.83 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                                 กิจกรรมโฮมรูม วันละ 30 นาที  จำนวน 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์

                                 สนับสนุนและช่วยพัฒนางานหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์

หัวหน้างานคุณธรรม จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์

                                 งานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

                     1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 16.60 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้

                                 กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 

รายวิชา ภาษาไทย 5 ท 23101 ม.3   จำนวน 10.00 ชั่วโมง/สัปดาห์

รายวิชา ภาษาไทย 3 ท 32101 ม.3   จำนวน 5.00 ชั่วโมง/สัปดาห์

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 

ลูกเสือ เนตรนารี   จำนวน 0.83 ชั่วโมง/สัปดาห์

ชุมนุม เรื่องของพืช จำนวน 0.83 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                                 กิจกรรมโฮมรูม วันละ 30 นาที  จำนวน 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                                 สนับสนุนและช่วยพัฒนางานหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์

หัวหน้างานคุณธรรม จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์

                     1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์

                                 งานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์

2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู (ให้ระบุรายละเอียดของงานที่จะปฏิบัติในแต่ละด้านว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการด้วยก็ได้)

ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

          ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน

ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ
การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

         ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการอ่าน สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน  ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน เพื่อ

การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยด้วยโปรแกรม Construct 2 Canva และการพัฒนาระบบเอกสารดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้และรับส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างโรงเรียน - ครู - นักเรียน - ผู้ปกครอง

                     1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

                     นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 5 ขาดความกระตือรือร้นในการเรียนวิชาภาษาไทยเนื่องด้วยวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่มีเนื้อหาและชั่วโมงการสอนที่มากประกอบกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยยังขาดการนำสื่อนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่นำมาใช้เพื่อกระตุ้นความสนใจนักเรียนใน สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน  ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ
แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่านและยังขาดระบบเอกสารสารสนเทศและเทคโนโลยีที่สามารถตอบโต้กับนักเรียน-ผู้ปกครองได้อย่างทันท่วงที

                     2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

                     วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ตามหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2561) สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน 

ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน นำมาพัฒนา พัฒนาชุดการเรียนรู้ที่ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะ เกมเพื่อการตรวจสอบความรู้ ในหัวข้อที่กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสนใจ นำชุด
การเรียนรู้ไปให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พิจารณาความเหมาะสม แล้วนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 5 ที่รับผิดชอบ

                     3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง

                     3.1 เชิงปริมาณ  ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ในสาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน  ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่านโดยใช้สื่อนวัตกรรมการเรียนรู้และระบบเอกสารสารสนเทศและเทคโนโลยีที่สามารถตอบโต้กับนักเรียน-ผู้ปกครองได้อย่างทันท่วงที และด้วยชุดการเรียนรู้ที่ครูพัฒนาขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80  และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อนวัตกรรม
การเรียนรู้และระบบเอกสารสารสนเทศและเทคโนโลยีที่สามารถตอบโต้กับนักเรียน-ผู้ปกครองได้อย่างทันท่วงที ด้วยชุดการเรียนรู้ที่ครูพัฒนาขึ้น ในระดับ มากขึ้นไป

                 3.2 เชิงคุณภาพ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในสาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน  ท ๑.๑ ใช้กระบวน
การอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่านเมื่อครูใช้สื่อนวัตกรรมการเรียนรู้และระบบเอกสารสารสนเทศและเทคโนโลยีที่สามารถตอบโต้กับนักเรียน-ผู้ปกครองได้อย่างทันท่วงที และสามารถนำความรู้ในแบบต่าง ๆ รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการัพฒนาศักยภาพของนักเรียนแลเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล