1.ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567

  1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 

               1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 16.66 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้

                           กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา ภาษาไทย  6     จำนวน  15         ชั่วโมง/สัปดาห์ 

                             ชุมนุมภาษาพาซ่า                                        จำนวน 0.83      ชั่วโมง/สัปดาห์ 

       ลูกเสือ-เนตรนารี                                         จำนวน 0.83     ชั่วโมง/สัปดาห์ 

                 1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้                  จำนวน   7      ชั่วโมง/สัปดาห์

      1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน  10        ชั่วโมง/สัปดาห์

                  1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น                               จำนวน 3         ชั่วโมง/สัปดาห์

2.ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568

  1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 

               1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 16.66 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้

                             กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา ภาษาไทย  5     จำนวน  15         ชั่วโมง/สัปดาห์ 

                             ชุมนุมภาษาพาซ่า                                        จำนวน 0.83      ชั่วโมง/สัปดาห์ 

       ลูกเสือ-เนตรนารี                                           จำนวน 0.83     ชั่วโมง/สัปดาห์ 

                 1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้                    จำนวน   7         ชั่วโมง/สัปดาห์

      1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา   จำนวน  10         ชั่วโมง/สัปดาห์

                  1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น                                จำนวน 3            ชั่วโมง/สัปดาห์

ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง  ครู      วิทยฐานะ  ครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการ  คือ แก้ไขปัญหา  การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

                    ประเด็นท้าทาย  เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความจากนิทาน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยแบบฝึกทักษะโดยใช้เทคนิค SQ4R

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

        ในสภาวะการณ์ปัจจุบัน ทักษะการอ่านเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับสาร หรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้นการปลูกฝังให้ผู้เรียนมีทักษะในการอ่าน สามารถอ่านจับใจความเนื้อหาได้ถูกต้อง จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง จากการสอนที่ผ่านมาพบว่าผู้เรียนขาดทักษะการอ่านจับใจความของเรื่อง ไม่สามารถจับใจความจากประเด็นสำคัญได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนต่ำ จึงหาแนวทางวิธีการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้การอ่านจับใจความ โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะด้วยเทคนิค SQ4R เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพตรงตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรสถานศึกษา เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียน ให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งในด้านความรู้ ทักษะกระบวนการอ่าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนเพิ่มสูงขึ้น และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

1. วิเคราะห์ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรสถานศึกษา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

    2. ออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้  โดยการจัดทำหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักการพัฒนา รวมถึงการจัดทำสื่อการเรียนรู้ เครื่องมือในการวัดและประเมินผล 

   3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนที่วางไว้กับผู้เรียน โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียนตามสถานการณ์ปัจจุบัน 

   4. บันทึกผลการเรียนรู้ สรุปผลการวัดและประเมินผลของผู้เรียน เพื่อนำผลที่ได้มาพัฒนาปรับปรุง แก้ไข การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือสื่อการเรียนการสอนให้สมบูรณ์และมีคุณภาพสูงมากขึ้น

3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

               3.1 เชิงปริมาณ

                             นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ร้อยละ 80  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เรื่องการอ่านจับใจความจากนิทาน ในรายวิชาภาษาไทยที่สูงขึ้น โดยเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน

         3.2 เชิงคุณภาพ

            นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอ่านจับใจความและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้