ประเภทแหล่งเรียนรู้ : แหล่งเรียนรู้ที่เป็นแหล่งวิชาการ/สถานที่
ประวัติความเป็นมาของแหล่งเรียนรู้ : มีปรากฎหลักฐานว่า ขุนทับสะแกราษฎร์ (อิน อบอุ่น) กำนันตำบลทับสะแก นายปาน นางเภา ราษฎร ได้ยื่นหนังสือขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ฝ่ายมหานิกายเมื่อ พ.ศ.2466 ตั้งอยู่เลขที่่ 123 บ้านทุ่งประดู่ หมู่ที่่ 2 ตำบลทับสะแก
สถานที่ ที่ตั้ง(พิกัด) ของแหล่งเรียนรู้ : ตั้งอยู่เลขที่่ 123 บ้านทุ่งประดู่ หมู่ที่่ 2 ตำบลทับสะแก
สื่อประกอบ : เฟสบุ๊คเฟนเพจ แผ่นพับ คลิปวิดิโอ
ข้อมูลอื่นๆ : วัดทุ่งประดู่ บรรยากาศเงียบสงบร่มเย็น นอกจากนี้ทางชุมชนได้มีการส่งเสริมให้มีท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงและวิถีชีวิตของชาวเกษตรสวนมะพร้าว เมื่อนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนในชุมชนจะได้นั่งแท็กซี่ชุมชน หรือ รถมอเตอร์ไซค์ พ่วงข้าง ดื่มด่ำและสัมผัสบรรยากาศทั้งสองข้างทาง และยังได้รับการต้อนรับพร้อมนำเที่ยวอย่างเป็นมิตรจากชาวบ้าน
อุโบสถวัดทุ่งประดู่ : ความน่าสนใจของการท่องเที่ยวในชุมชนทุ่งประดู่ มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่เราไม่ควรพลาด มาเริ่มต้นกันที่ “วัดทุ่งประดู่” ตั้งขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2466 เป็นวัดขนาดกลาง บรรยากาศเงียบสงบร่มเย็น ไหว้พระขอพรองค์พระพุทธรูปหินขาว ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อประมาณ 75 ปีที่ผ่านมา “หลวงพ่อแนะ” อดีตเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระวิปัสสนากัมมัฏฐาน ซึ่งมรณภาพแล้ว แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย ขณะนั้นท่านเดินทางไปประเทศพม่าแล้วพบองค์หลวงพ่อหินขาว จึงขออนุญาตและทำพิธีอัญเชิญขึ้นหลังช้างลัดเลาะข้ามพรมแดนช่องทางเทือกเขาตะนาวศรี นำมาประดิษฐานที่วัดทุ่งประดู่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ นอกจากหลวงพ่อหินขาวแล้ว ภายในวัดยังมีพระนอนองค์ใหญ่ให้เราได้กราบสักการะขอพรอีกด้วย
กราบสักการะพระนอนองค์ใหญ่ : เมื่อกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุมชนบ้านทุ่งประดู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเดินทางไปที่ศาลาของหมู่บ้าน ที่นี่มีการทำบ้านปลาด้วยเชือกหรือเรียกภาษาท้องถิ่นว่า “ซั้งปลา” การทำบ้านปลาด้วยซั้งเชือกแล้วนำซั้งมาผูกกับทุ่นเพื่อให้จมอยู่ในน้ำ มีลักษณะคล้ายสาหร่ายทะเล และเมื่อเอาซั้งเชือกไปทำบ้านปลาในทะเลแล้ว ปรากฏว่ามีปลาชุกชุมเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวประมงจับปลาได้มากขึ้น จึงกลายเป็นที่มาของบ้านปลาทุ่งประดู่
ผู้บันทึกข้อมูล : นางสาวยุพเยาว์ เยาวหลี