ปัจจุบันสถานศึกษา นำ Google Classroom มาใช้จัดการศึกษาออนไลน์ ในหลายรูปแบบ มีรูปแบบหลักๆ ดังนี้
1.ฐานการเรียนรู้สร้างจากใบความรู้ ใบงานที่สร้างไว้ นำไปรวมไว้ที่ Google Drive
2.ฐานการเรียนรู้พัฒนาหรือสร้างขึ้นใหม่ด้วย Google Docs
3.ฐานการเรียนรู้สร้างขึ้นใหม่ด้วย Google Sites หรือ Blogger
4.ฐานการเรียนรู้จากเว็บ e-learning ของสถานศึกษา
สร้างจากใบความรู้ ใบงานที่สร้างไว้ นำไปรวมไว้ที่ Google Drive
ตามปกติ ครูผู้สอนส่วนใหญ่ จะสร้างเอกสารความรู้ เอกสารกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยโปรแกรมสำนักงานชุด Microsoft Office ไฟล์เอกสารเหล่านั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งขอสื่อการเรียน การสอน มาโดยตลอด เมื่อสถานศึกษาในปัจจุบันหลายแห่ง สนับสนุนให้ Google Classroom เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการศึกษาในชั้นเรียน ทำให้ครูผู้สอนประยุกต์โดยการนำไฟล์เอกสารของบทเรียน นำเข้าสู่ระบบบน Google Drive
ข้อสังเกต
1. การจัดการบน Google Classroom ทำได้ง่ายรวดเร็ว เพราะมีทรัพยากร(ไฟล์เอกสารใบความรู้ และไฟล์ใบ(กิจกรรม)งาน นำไปวางไว้ใน Google Drive
2.การแสดงผลได้ดีบนคอมพิวเตอร์ แต่บน Smartphone ตัวข้อความจะมีขนาดเล็กมาก ต้องทำการ ZOOM หรือเลื่อนซ้าย ขวา เสมอ และการแสดงผลอาจผิดเพี้ยนได้
พัฒนาหรือสร้างขึ้นใหม่ด้วย Google Docs
แม้จะใช้ทรัพยากรของชุด Google DOCS การออกแบบหากคำนึงถึงการแสดงผลได้ในทุกๆอุปกรณ์ จะต้องระมัดระวังการออกแบบในหน้า เอกสาร Docs, Sheets และ Slide เพราะ ทั้ง 3 แบบดังกล่าว ก็มีสภาพการแสดงผลเช่นเดียวกับการสร้างไฟล์เอกสารด้วย Microsoft Office
ข้อสังเกต
1. ต้องสร้างงานใหม่ด้วย Google DOCS บน Google Drive การออกแบบบนรูปแบบนี้ แสดงผลได้ดีบนคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังมีปัญหาบนอุปกรณ์ Smartphone ทำให้ต้องทำการ ZOOM หรือการเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวาเช่นกัน
2.การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เนื้อหา ทำได้โดยง่าย ไม่กระทบต่อระบบบน Google Classroom
สร้างขึ้นใหม่ด้วย Google Sites หรือ Blogger
เนื่องจากตัว Content ที่แสดงผลนั้นสร้างบนฐาน HTML ที่โครงสร้างระบบรองรับการแสดงผลในลักษณะ Responsive ดังนั้น ข้อมูลที่ปรากฎจึงสามารถแสดงผลได้ดีและสมบูรณ์ในทุกๆอุปกรณ์ และถือเป็นอีกมาตรฐานสำคัญของการเรียนรู้ออนไลน์
ข้อสังเกต
1.เนื้อหาหรือบทเรียน ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด
2. รูปแบบนี้ ยืดหยุ่นต่อการแสดงผลในทุกอุปกรณ์(Mobile Device) การแสดงผลจะปรับแปรสภาพไปตามอุปกรณ์ที่ใช้งาน ทำให้ไม่ต้อง ZOOM หรือการเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวา
3.การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เนื้อหา ทำได้โดยง่าย ไม่กระทบต่อระบบบน Google Classroom
จากเว็บ e-learning ของสถานศึกษา
e-learning เป็นพัฒนาการหนึ่งของการศึกษาออนไลน์ ที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาที่มีความพร้อมด้านเครือข่าย จะสร้างบทเรียนออนไลน์บนเว็บไซต์ของสถานศึกษาด้วยเทคโนโลยีหรือระบบเว็บที่แตกต่างกันไป
ยุคของ e-learning เป็นยุคที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ตลอดระยะเวลา 20 ปี e-learning อยู่ในระบบการศึกษาจนถึงปัจจุบัน มีหลักสูตรบทเรียนออนไลน์ที่ถูกสร้างและพัฒนามาอย่างมากมาย เมื่อกลไกการศึกษาและ Application ต่างๆได้เติบโตขึ้น G-Suite for Education ก็เป็นอีกกลุ่ม Application ที่มีพลัง ต่อสถานศึกษา
เมื่อสถานศึกษาดังกล่าวนำ Google Classroom มาใช้ บริหารจัดการ ทรัพยากรที่มีอยู่บนเว็บไซต์สถานศึกษา จึงถูกนำมาใช้ร่วมกับ Google Classroom
ข้อสังเกต
1.เว็บไซต์สถานศึกษาเดิม ยึดติดการสร้างหน้าโดยการหนดขนาดหน้าเว็บแบบตายตัว แม้จะไม่ส่งผลกระทบการแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่การแสดงผลบน Smartphone จะพบว่าอักษรจะมีขนาดเล็ก การดูข้อมูลต้องทำการ ZOOM และ เลื่อนข้างซ้ายขวาเสมอ
2.เทคนิคพิเศษบางประการ อาทิ ไฟล์ Flash และ คำสั่งพิเศษบางอย่างไม่อาจแสดงผลได้ บนระบบปฎิบัติการของ Smartphone
1.ผู้สอนต้องมีทักษะการใช้อุปกรณ์ Mobile
2.ผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจหลักการจัดการศึกษาออนไลน์
3.ผู้สอนต้องศึกษาขั้นตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วย Google Classroom ทั้งมุมมองของครูผู้สอนและผู้เรียน