พระราชประวัติของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๐๔ พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่าส่งทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา พระยาตากได้นำทัพมาสมทบเสริมกำลังป้องกันกรุงศรีอยุธยา พม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ ๒ ปี ในวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น ๔ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๔ (๔ มกราคม พ.ศ. ๒๓๐๙) พระยาตาก ได้รวบรวมไพร่พลทั้งไทยจีน ประมาณ ๕๐๐ คน ตีฝ่าวงล้อมพม่า มุ่งไปยังหัวเมืองชายทะเลตะวันออก (ไปทางปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) พม่าเข้ายึดกรุงศรีอยุธยา ในวันอังคาร เดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน นพศก (๘ เมษายนพ.ศ. ๒๓๑๐) และกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในวันนี้วันอาทิตย์ เดือน ๗ แรม ๓ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปี กุน นพศก (๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๑๐)พระยาตากยึดเมืองจันทบุรี เมื่อยืดเมืองจันทบุรีได้แล้วจึงเคลื่อนทัพไปยังเมืองตราด ทั้งทางบกและทางเรือ มีทหารไปเพียงพันเศษ เพื่อรวบรวมไพร่พล เมื่อวัน ๒ ค่ำ (วันจันทร์) จุลศักราช ๑๑๒๙ เดินทางไป ๗ วัน ๗ คืน ฝนตกทุกวัน เมื่อถึงบ้านทุ่งใหญ่ (อำเภอทางเหนือของเมืองตราด) พบกองเรือ ซึ่ง หลวงราชรินทร์ คุมมา ๕๐ ลำเศษ จึงลงเรือเดินทางไปเมืองตราด ที่ปากน้ำเมืองตราดมีเรือสำเภาจีนมาทอดทุ่นอยู่หลายลำ พวกจีนนายเรือขัดขืนต่อสู้ พระยาตาก จึงคุมกองเรือไปล้อมสำเภาจีนและยึดสำเภาจีนไว้ทั้งหมด จากตราด ได้เสด็จกลับมารวบรวมผู้คน เครื่องคัตราวุธ ต่อเรือรบและฝึกไพร่พลที่เมืองจันทบุรีและในเดือนตุลาคม พระยาตาก ทรงยกกองทัพเรือจากจันทบุรีเข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา เข้ายึดเมืองธนบุรี แล้วเคลื่อนทัพไปกรุงศรีอยุธยาเข้ายึดโพธิ์สามต้น ได้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมา เมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๒ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ตรงกับวันที่ ๗ พฤศจิกายน เพียง ๗ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๑๐ เพียง ๗ เดือน หลังจากเสียกรุงสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตราด

ผู้ให้ข้อมูล สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดตราด

ผู้เรียบเรียง นางสาวบุศรา ผ่องใส ภาพถ่าย นางสาวบุศรา ผ่องใส