ศาสนาคริสต์ในภูเก็ต มีผู้นับถือทั้งนิกายโรมันคาทอลิกและนิกายโปรเตสแตนท์ สำหรับศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์นั้นเริ่มมีมิชชั่นนารีจากมาเลเซียเข้ามาในภูเก็ตราวปี ค.ศ. ๑๘๘๒ และใช้ภาษาจีนฮกเกี้ยนในการสอนศาสนา หลังจากนั้นประมาณ ๔ ปี มิชชั่นนารีชื่อ “William Mae Donald และ Philip J.Hocquard ได้เดินทางจากปีนังเข้าสู่ภูเก็ต ขณะนั้นมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ในภูเก็ตประมาณ ๘ คน และทั้งสองได้ประกอบพิธีศีลมหาสนิทให้แก่ชาวภูเก็ตเหล่านั้น อ๋องหิ้น (Ong Hin) เป็นผู้ที่ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าเป็นอย่างยิ่ง เข้าได้รวบรวมเงินจากการขายขนม ซื้อบ้าน ๑ หลัง บริเวณถนนถลาง ในปี ค.ศ.๑๘๘๙ คือ บ้านเลขที่ ๒๔ เพื่อเป็นสถานที่พบปะของคริสตศาสนิกชนและเผยแผ่ประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า สถานที่นี้ยังเป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาจนถึงปัจจุบันนี้ ปัจจุบันคือ คริสเตียนสถาน ต่อมา Mr. and Mrs. Toy ชาวแคนาดา ได้เข้ามาร่วมงานเผยแผ่ศาสนาในภูเก็ต ใน ค.ศ. ๑๙๒๐ บุคคลทั้งสองได้พยายามขยายการเผยแผ่คำสอนออกไปตามชนบทที่ห่างไกลมากขึ้น และพบว่าได้รับการยอมรับจากประชาชนในชนบทเป็นอย่างดี Mr.Toy นอกจากเป็นหมอสอนศาสนาแล้ว เขายังเป็นหมอรักษาคนไข้สามัญและช่วยเหลือรักษาคนไข้แก่ประชาชนชาวภูเก็ต Mr.Toy สิ้นชีวิตที่จังหวัดภูเก็ต ศพของMr.Toy ฝังไว้ที่ภูเก็ต มิชชั่นนารีกลุ่มต่าง ๆ ในเขตภาคใต้ได้หมุนเวียนกันเข้ามาเผยแผ่ศาสนาในภูเก็ตอย่างสม่ำเสมอ ในปี ค.ศ.๑๙๕๘–๑๙๕๙ Mr.David และ Dreen Hogan พร้อมด้วย Mr.Peter Ferry ได้เข้ามาเผยแผ่คำสอนในภูเก็ต ระยะนี้เป็นระยะที่เยาวชนภูเก็ตให้ความสนใจและยอมรับนับถือศาสนาคริสต์มากขึ้น และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่คำสอนต่าง ๆ Mr. และ Mrs.Hogan ยังได้นำคำสอนในพระคัมภีร์ไปสอนแก่ชาวเลกลุ่มอูรักลาโว้ย (Urak Lawai) ที่ราไวย์ และได้ศึกษาภาษาชาวเลจนสามารถถ่ายทอดคำสอนในพระคัมภีร์เป็นภาษาชาวเล จัดทำหนังสือเป็นภาษาชาวเลเพื่อสะดวกในการเทศนาสั่งสอนอีกด้วย