คุณมงคล มูลชมภู
ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านมีภูมิปัญญา
เกี่ยวกับการจักสานจากไม้ไผ่
ประเภท ภูมิปัญญาท้องถิ่น
การประกอบอาชีพ
ประวัติข้อมูลส่วนตัวของผู้ประกอบภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชื่อ นายมงคล นามสกุล มูลชมภู
เกิดเมื่อ 17 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2502 อายุ 64 ปี
ที่อยู่ปัจุบัน หมู่ที่ 1 บ้านเลขที่ 97 บ้านผาขาว ตำบลผาขาว อำเภอผาขาว
จังหวัดเลย รหัสไปรษณีย์ 42240
ความเชี่ยวชาญด้านมีภูมิปัญญา เกี่ยวกับการจักสานจากไม้ไผ่
เช่น การสานตะกร้า การสานหวดนึ่งข้าว กระบุงหรือกระเชอ
ประวัติความเป็นมาของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การสืบสานความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เดิมทีการจักสานจากไม้ไผ่มีทำกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นตายาย โดยอาศัยไม้ไผ่ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในหมู่บ้านซึ่งมีหลายชนิด แต่ที่นิยมนำมาจักสานกัน ได้แก่ ไม้ไผ่ใหญ่ ที่คนนิยมนำมาปลูกไว้รอบ ๆ หมู่บ้าน ชาวบ้านใช้หน่อเป็นอาหารและใช้ลำต้นมาดัดแปลงทำเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็นภายในครอบครัว เช่น ตะกร้า ชะลอม กระออม กระด้ง ไซ กระติบข้าว หวด หรือมวยนึ่งข้าว เครื่องใช้ที่กล่าวมา ในสมัยก่อนนิยมทำใช้กันเองภายในครอบครัว ตามความจำเป็นของแต่ละท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับตนเอง
การจักสานแต่ละอย่างมีกรรมวิธีที่แตกต่าง ยากบ้างง่ายบ้าง ดังนั้นแต่ละคนจึงมีความถนัด ในการทำไม่เหมือนกัน จึงได้เกิดมีการผลิตเพื่อแลกเปลี่ยนกันขึ้น พอมาช่วงหลังยุคสมัยได้เปลี่ยนไป มีเครื่องครัวที่ทันสมัย ใช้งานง่ายกว่า และคนได้มีงานที่มีรายได้ดีกว่า เลยหันไปทำงานอย่างอื่นแทน จึงยังคงเหลืออยู่เพียงบางคน ที่มีความถนัดทางจักสานเป็นพิเศษหันมายึดอาชีพทางการจักสานเป็นอาชีพหลัก บางคนก็ยึดเป็นอาชีพรองจากการทำไร่ทำสวน ทำนา โดยอาศัยทำในเวลาว่างตอนเย็นหรือกลางคืนที่กลับจากไร่นาก็จะนั่งจักสานเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง
คุณมงคล มูลชมภู กำลังอธิบาย
และเล่าเรื่องราวการสืนสานของการจักสานจากไม้ไผ่
การจักสานจากไม้ไผ่นั้น สามารถนำมาดัดแปลงทำเครื่องใช้ได้หลายอย่าง ดังที่กล่าวมาแล้ว สาเหตุสำคัญที่นิยมนำเอาไม้ไผ่มาจักสานก็เพราะว่าไม้ไผ่หาง่าย ไม้แปรรูปได้ง่ายมีความเหนียวสามารถจักเหลา แต่งได้หลายขนาด ง่ายแก่การตัดแต่ง ต่อการนำมาประกอบกันเป็นรูปทรง ตามที่ต้องการ นอกจากหมู่บ้านดังกล่าวหมู่บ้านอื่นก็มีงานจักสานเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ทำพอได้ใช้ภายในครอบครัว
ภูมิปัญญาดังเดิมในการจักสาน ขอยกตัวอย่างการเลือกไม้จากกอไม้ไผ่ที่จะนำมาจักสาน ถ้าจะให้ดีพอเหมาะแก่การใช้งานแล้วควรจะเป็นไม้ที่เจริญเติบโตตามปกติไม่แคะแกรน ไม่บิดงอ ไม่เป็นมอดแมง ผิวไม่ถลอก มีระยะของปล้องระหว่าง 35 – 40 เซนติเมตร และมีอายุระหว่าง 1 - 2 ปี จะใช้สานได้ดี เพราะไม้ในช่วงอายุดังกล่าวจะผ่า จัก เหลา และสานได้ง่าย ดัดโค้ง ได้ไม่แตกหัก หากไม้แก่เกินไปจะทำให้ยุ่งยาก เหลายาก เปราะแข็งเกินไป ลำบากในการนำมาสาน หากไม้อ่อนไปก็เสาะ หักง่าย บวม สานได้ไม่ค่อยแน่น ไม่ควรใช้ไม้ไผ่ที่มีสีต่างกัน ไม้ไผ่ที่ตากแห้งมานาน เป็นรา และไม้ไผ่ที่ถูกไฟไหม้กอ
คุณมงคล มูลชมภู
ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านมีภูมิปัญญา
เกี่ยวกับการจักสานจากไม้ไผ่
เมื่อตัดไม้มาจากกอแล้วก็จะมาแบ่งไม้ทั้งลำออก เป็น 4 ส่วน คือ 1. ส่วนโคนต้นจะเลือกเอาไว้ทำไม้ขัดก้น หรือทำตังมัง เพราะส่วนนี้ไม้จะแข็งดี 2. ส่วนต่อจากโคนจะเลือกเอาไว้ทำตอกตั้ง ปกติแล้วจะตัดเป็นท่อนยาว ท่อนละ 2 ปล้องประมาณ 80 เซนติเมตร 3. ส่วนที่ 3 ส่วนนี้จะตัดไว้ยาวหน่อยเพื่อทำตอกเวียนหรือตอกสานซึ่งจะตัด แต่ละท่อนยาวประมาณ 4 - 6 ปล้อง แล้วแต่ไม้จะอำนวย และ 4. ส่วนปลาย เลือกเอาไว้สำหรับขอบปาก เพราะส่วนปลายยังอ่อนอยู่ สามารถดัดแต่งโค้งได้ง่ายกว่าส่วนโคน
การผ่า เมื่อได้ไม้มาและตัดแบ่งเป็นส่วน ๆ แล้วจะนำมาผ่าและจัก ซึ่งการผ่าจะผ่าจากปลายลงมาหาโคน และผ่าทแยงให้เฉียดตาทั้ง 2 ข้าง การผ่าและจักนี้นิยมผ่า และจักทีละท่อน ไม่นิยมผ่าทิ้งไว้ ทั้งนี้เพราะถ้าจักไม่ทันแล้วจะทำให้เหนียวจักยาก ลำบากในการจักและเหลา การผ่านิยมผ่ากลางก่อนแล้วจึงผ่าซอยออกเป็นซี่ ๆ ตามขนาดความกว้างของตอกที่จะสาน ปกติการสานกระเชอ นั้นจะผ่าแต่ละซี่ กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร
สรุปแล้ว การคัดเลือกไม้ไผ่ที่มีอายุพอเหมาะไม่อ่อนหรือแก่เกินไปเพื่อความเหนียวคงทนนาน และการใช้สีจะใช้สีธรรมชาติ เช่น สีแดงได้มาจากเปลือกเงาะป่า สีเหลือง สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม โดยการนำตอกไปอบหรือรมควันจากฟาง ซึ่งสีที่ได้จากการรมควันจะทำให้กระด้ง สีสันสวยงามแล้วยังมีประโยชน์ในการป้องกันแมลงกัดแทะได้ เช่น มอด
คุณมงคล มูลชมภู
ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านมีภูมิปัญญา เกี่ยวกับการจักสานจากไม้ไผ่ และผลงาน
สถานที่ตั้งของผู้ประกอบอาชีพหรือของชุมชน
หมู่ที่ 1 บ้านเลขที่ 97 บ้านผาขาว ตำบลผาขาว อำเภอผาขาว จังหวัดเลย พิกัด 17.029177, 101.971686
แผนที่การเดินทาง จาก Google maps "คลิกเพื่อเปิดแผนที่"
ผู้ให้ข้อมูล ผู้เรียบเรียง และผู้เขียน
ข้อมูลเนื้อหา โดย นายมงคล มูลชมภู
เรียบเรียงเนื้อหา โดย นายสันติภาพ สาลี
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวจารุณี สีลา