วัดสามัคคีบุญญาราม(วัดคีรีสุบรรพต)

"พระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่"

วัดสามัคคีบุญญาราม ตั้งอยู่บนเขาสูงดอยพระบาทรายล้อมด้วยธรรมชาติ และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองลำปางได้อย่างสวยงาม "วัดคีรีสุบรรพต หรือวัดสามัคคีบุญญราม" อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองลำปาง สามารถขับรถไปถึงภายในเวลา๑๕-๒๕ นาที โดยใช้เส้นทางสาย ลำปาง-แม่ทะ จากแยกศรีชุมมุ่งหน้าไป มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ขับถึงทางรถไฟเลี้ยวซ้ายขับเลาะทางรถไฟไป ผ่านสองหมู่บ้าน บ.หนองห้า-บ.โทกหัวช้าง เข้าสู่หมู่บ้าน"หัวทุ่งสามัคคี"

สำหรับประวัติของ พระพุทธรูปปางนาคปรก ปางมหานาคประมาณช่วงฤดูร้อนของปี พ.ศ. ๒๕๔๑ หลวงปู่หลวงได้มีโอกาสไปพักผ่อนภาวนาที่น้ำตกแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โดยไปพักอยู่ที่สวนของลูกศิษย์คนหนึ่ง อากาศที่แจ้ซ้อนเย็นสบายมาก วันหนึ่งหลวงปู่บอกว่า “ได้นิมิตว่าเทวดามาบอกให้สร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ โดยเอาเลข ๙ ขึ้นหน้า ให้สร้างไว้บนภูเขาใน จ.ลำปาง เมื่อสร้างเสร็จแล้วเมืองลำปางจะอุดมสมบูรณ์” ด้วยเหตุนี้หลวงปู่หลวง กตปุญโญ จึงมีดำริโครงการที่จะสร้าง “พระพุทธรูปปางนาคปรก” องค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง ๙.๙๙ เมตร สูง ๒๘ เมตร เพื่อปกป้องคุ้มครอง แล้วนำไปประดิษฐานไว้ ณ วัดคีรีสุบรรพต (วัดสามัคคีบุญญาราม) บ้านทุ่งสามัคคี ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ปัจจุบัน สำนักสงฆ์คีรีสุบรรพต ได้รับการยกฐานะขึ้นให้เป็นวัดอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ต่อมาวัดคีรีสุบรรพต ได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่โดยมีชื่อทางราชการว่า วัดสามัคคีบุญญาราม เมื่อออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ แล้ว จึงได้ปรับปรุงเตรียมพื้นที่และได้ทำการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อทำการก่อสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ โดยหลวงปู่หลวงได้มอบหมายงานทุกอย่างให้กับ พระเทพวิสุทธิญาณ (ท่านพระอาจารย์ไพบูลย์ สุมงฺคโล) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระปัญญาพิศาลเถร แห่งวัดอนาลโยทิพยาราม ต.สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา เป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งในเรื่องการเขียนแบบแปลน การจัดหาช่างมาก่อสร้าง ซึ่งงานนี้เป็นงานที่สำคัญมาก โครงสร้างจะต้องแข็งแรงมั่นคงทำให้คำนวณแบบแปลนยาก กระทั่งเป็นเหตุทำให้งานก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๕ นี้เอง ซึ่งการก่อสร้างได้ดำเนินการไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้งบประมาณกว่า ๒๐ ล้านบาทโดยประมาณ ในที่สุดการดำเนินการก่อสร้างก็สำเร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย และได้มีการจัดงานฉลองสมโภช “พระพุทธรูปปางนาคปรก” องค์นี้ขึ้นเมื่อวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ ๒๔-๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นเวลา ๒ วัน ณ วัดคีรีสุบรรพต