ในคอลัมน์นี้ ผมจะขอพาท่านไปพบกับเกษตรกรคนหนึ่ง ซึ่งเป็นปราชญ์เกษตรที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงเกษตรกรคนทั่วไปรู้จักท่านดี แม้จะอายุมากแล้วแต่ความคิดในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นอยู่ในใจท่านเสมอ จุดเริ่มต้นที่จุดประกายความคิดให้แก่เกษตรกรผู้นี้คือ การได้ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ แล้วนำหลักการมาประยุกต์ ปรับพื้นที่การเกษตรของตนเองคล้ายๆ กับที่ศูนย์การศึกษาฯ แบ่งพื้นที่วางผังแปลงเกษตรเป็นด้านๆ ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการน้ำ ด้านเกษตรกรรม ด้านประมง และด้านปศุสัตว์

เมื่อดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ ก็เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปศึกษาและเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตสินค้าเกษตร หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ศพก. มีฐานเรียนรู้ด้านต่างๆ มีการนำผลผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นใน ศพก. มาใช้กับพืชผลทางการเกษตรภายในสวน โดยพึ่งปัจจัยภายนอกเพียงน้อยนิดไม่เพียงเท่านั้น เกษตรกรผู้นี้ยังมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะให้จังหวัดแพร่มีแลนด์มาร์ก มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้ประชาชนได้มาเที่ยวชม มาศึกษา มาซื้อ มาชิม ผลผลิตทางการเกษตรในสวนของตน ของเพื่อนเกษตรกรและของจังหวัดแพร่ ด้วยการสร้างสกายวอล์ก (Sky walk) เป็นแห่งแรกของจังหวัดแพร่ สร้างขึ้นด้วยความร่วมไม้ร่วมมือของคนในท้องถิ่น และมีหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานเกษตรอำเภอวังชิ้น โดยมีเกษตรอำเภอนำทีมงานเข้าไปร่วมหนุนเสริม เมื่อสร้างเสร็จเพียงไม่นานก็มีผู้สนใจเข้ามาเที่ยวชมหลายร้อยคนเข้าไปแล้ว และในอนาคตเขียนฝันไว้ว่า จะสร้างโอมสเตย์ (Home stay) ภายในสวนเกษตรในไม่ช้านี้ บทความที่จะนำเสนอให้ท่านได้อ่าน ได้รับแรงหนุนจากเกษตรอำเภอวังชิ้น ผมจึงหาช่วงจังหวะเวลาและโอกาสนัดหมายกับท่าน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอวังชิ้น ท่านจะได้นำพาผมไปพบกับเกษตรกรท่านนั้น ผมได้สนทนากับเกษตรอำเภอและขอข้อมูลเกี่ยวกับอำเภอวังชิ้น มานำเสนอก่อนว่า อำเภอวังชิ้น เป็นอำเภอตั้งอยู่ทางใต้สุดของจังหวัดแพร่ ติดกับอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีพื้นที่ 1,217 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นพื้นที่ภูเขา ป่าไม้ ถึงร้อยละ 80 มีที่ราบเพียงร้อยละ 20 มีพื้นที่ 1,217 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองเป็น 7 ตำบล คือ ตำบลวังชิ้น สรอญ แม่ป้าก นาพูน แม่พุง ป่าสัก และแม่เกิ๋ง มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือ เทศบาลตำบล 1 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล 7 แห่ง จำนวนประชากร 47,720 คน ประกอบด้วยคนไทยพื้นเมือง และมีชนเผ่า 3 ชนเผ่า คือ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ และอาข่า แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในอำเภอวังชิ้น ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย น้ำตกแม่เกิ๋งหลวง น้ำตกแม่พุงหลวง น้ำตกปันเจน น้ำพุร้อนแม่จอก พระธาตุขวยปู ข้อมูลทางการเกษตร จากสำนักงานเกษตรอำเภอวังชิ้น ระบุว่า พื้นที่การเกษตรทั้งหมด 346,456 ไร่ มีการเพาะปลูกไม้ผล 24,396 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 7 เท่านั้นเอง มีผลไม้ที่โดดเด่นเป็นหน้าเป็นตาให้แก่อำเภอวังชิ้น ก็คือ ส้มเขียวหวานสีทอง ปลูกกันมากที่ตำบลนาพูน จำนวน 5,923 ไร่ (จากพื้นที่ปลูกทั้งอำเภอ 12,636 ไร่) เกษตรกรผู้ปลูก 916 คน/ครัวเรือน ปัจจุบัน ได้รับการส่งเสริมให้ดำเนินการเป็นส้มเขียวหวานเกษตรแปลงใหญ่ นอกจากผลไม้ส้มเขียวหวานสีทองแล้ว ที่เด่นๆ และได้รับการส่งเสริมก็เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ทุเรียน จากนั้นผมและเกษตรอำเภอวังชิ้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลนาพูน ได้เดินทางด้วยรถยนต์ไปยังสวนของเกษตรกร จากอำเภอวังชิ้นไปตามถนนหลวง สายวังชิ้น-ศรีสัชนาลัย ระยะทาง 26 กิโลเมตร ก่อนถึงตำบลนาพูน มีทางแยกซ้ายมือ ขับรถเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร คณะเราได้ตั้งวงสนทนากัน ด้วยการแนะนำทำความรู้จักกันก่อน เกษตรอำเภอวังชิ้นคือ คุณประดิษฐ์ สลีหล้า เกษตรกรจะรู้จักท่านดีและเรียกชื่อท่านว่า ลุงดิษฐ์ คนเดิม คุณประชาเวช เกษอินทร์ เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลนาพูน ลุงมนู กาญจนะ ป้าออน กาญจนะ และบุตรสาว คือ คุณพัทธนันท์ ธนดิฐภักดีพงษ์

ทำความรู้จักกับ ลุงมนู กาญจนะ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/1 หมู่ที่ 11 ตำบลนาพูน โทรศัพท์ (086) 183-9626 ผมเคยพบและได้ยินชื่อเสียงของลุงมนูมาก่อนแล้ว จากการไปฟังท่านบรรยาย เล่าประสบการณ์ต่างๆ หรือเห็นรูปภาพจากการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการเกษตร ก็ถือว่าลุงมนูเป็นปราชญ์เกษตรคนหนึ่งของจังหวัดแพร่ก็ว่าได้ ท่านยังกระฉับกระเฉง เข้มแข็ง ร่าเริง ท่านบอกว่าท่านพร้อมที่จะสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์แนวคิดโดยไม่ปิดบังอะไร ท่านจึงได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรหลายครั้ง หลายหน่วยงานให้การยอมรับ และการันตีด้วยหนังสือรับรอง ใบประกาศยกย่องสารพัดรางวัล