ลูกประคบสมุนไพร

ลูกประคบสมุนไพร มีความสำคัญในการนวดแผนไทย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำสมุนไพรหลายชนิดมาผ่านกระบวนการ แล้วมาห่อรวมกัน ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย เมื่อถูกความร้อนจะระเหยออกมา กลายเป็นกลิ่น เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด การบูร โดยเราสามารถนำเอาสมุนไพรเหล่านั้นมาหั่นย่อยอย่างหยาบๆ จากนั้นห่อด้วยผ้าดิบเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น ทรงกลม แล้วนำไปผ่านกระบวนการความร้อนด้วยวิธีการนึ่งไอน้ำ เพื่อให้สมุนไพรละลายออกมาเป็นตัวยาซึมเข้าใต้ผิวหนังตามร่างกาย

ลูกประคบสมุนไพร ภาพโดย : ผ่องพรรณ วงค์เศษ

ลูกประคบสมุนไพร ภาพโดย : ผ่องพรรณ วงค์เศษ

ลักษณะทั่วไปของลูกประคบสมุนไพร

ห่อผ้าปิดสนิทรูปทรงต่างๆ ภายในบรรจุสมุนไพรสดหรือแห้งหลายชนิดรวมกัน กรณีทำเป็นรูปทรงกลมปลายผ้าต้องรวมแล้วมัด ให้แน่น ทำเป็นด้ามจับ ต้องมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรที่ใช้


ประโยชน์ของการประคบสมุนไพร

1. กระตุ้นหรือเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต

2. ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดเมื่อย

3. ลดการติดขัดของข้อต่อบริเวณที่ประคบและทำให้เนื้อเยื่อ พังผืดยืดตัวออก

4. ลดอาการบวมที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อหรือบริเวณข้อต่อต่างๆ หลังจาก 24 - 48 ชั่วโมงไปแล้ว


อุปกรณ์การทำลูกประคบสมุนไพร

1. ผ้าสำหรับห่อลูกประคบ ต้องเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบที่มีเนื้อผ้าแน่นพอที่จะป้องกันไม่ให้สมุนไพรร่วงออกมาได้

2. สมุนไพร หั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ สด/แห้ง ต้องไม่มีราปรากฏให้เห็นเด่นชัด และต้องมีพืชสมุนไพรหลักที่มีน้ำมันหอมระเหยอย่างน้อย 3 ชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ และผิวหรือใบมะกรูด/กลุ่มสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เช่น ใบมะขาม ใบส้มป่อย และกลุ่มสารที่มีกลิ่นหอม เช่น การบูร พิมเสน และเกลือ ช่วยดูดความร้อน

3. หม้อสำหรับนึ่งลูกประคบและจานรองลูกประคบ


สมุนไพรสด ภาพโดย : ผ่องพรรณ วงค์เศษ

สมุนไพรแห้ง ภาพโดย : ผ่องพรรณ วงค์เศษ

วิธีทำลูกประคบ

1. นำหัวไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทำความสะอาด นำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ ตำพอหยาบๆ

2. นำใบมะขาม ใบส้มป่อย ผสมกับสมุนไพรในข้อ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบูร คลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

3. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าเข้ากันแล้ว เป็นส่วนเท่าๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบห่อเป็นลูกประคบ มัดด้วยเชือกให้แน่น

4. นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่ง ใช้เวลานึ่งประมาณ 15-20 นาที


ขั้นตอนการห่อลูกประคบสมุนไพร ภาพโดย : ผ่องพรรณ วงค์เศษ

วิธีการใช้ลูกประคบสมุนไพร

นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งประมาณ 15 - 20 นาที เมื่อลูกประคบร้อนได้ที่แล้ว ก่อนนำมาใช้ประคบควรมีการทดสอบความร้อนโดยแตะที่ท้องแขนหรือหลังมือก่อน และในช่วงแรกที่ลูกประคบ ยังร้อนอยู่ ต้องประคบด้วยความเร็ว ไม่ควรวางลูกประคบไว้บนผิวหนังนานๆ เพียงแตะลูกประคบแล้วยกขึ้น เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลงสามารถวางลูกประคบได้นานขึ้นพร้อมกับกดคลึงจนกว่าลูกประคบคลายความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนลูกประคบไปใช้ลูกใหม่แทน (ใช้แล้วนำไปนึ่งแทน)

การเก็บลูกประคบสมุนไพร

ลูกประคบสมุนไพรที่ใช้ครั้งหนึ่งแล้วสามารถเก็บไว้ได้นาน 3 - 5 วัน หลังจากใช้แล้วควรผึ่งลูกประคบให้แห้ง เก็บใส่ถุงหรือภาชนะปิดฝาให้แน่น แช่ตู้เย็นจะเก็บได้นานขึ้น ให้สังเกตถ้าลูกประคบมีเชื้อราปรากฏให้เห็นและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือสีเหลืองจางลง แสดงว่าตัวยาเสีย ไม่มีคุณภาพ ไม่ควรนำมาใช้อีกต่อไปเพราะจะใช้ไม่ได้ผล

ข้อควรระวังในการประคบสมุนไพร

1. ไม่ควรใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่เคยเป็นแผลมาก่อนหรือบริเวณที่มีกระดูกยื่น และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อัมพาต เด็กและผู้สูงอายุ เพราะมักมีความรู้สึกในการรับรู้และตอบสนองช้า อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย

2. ไม่ควรใช้การประคบสมุนไพรในกรณีที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะจะทำให้อักเสบบวมมากขึ้นและอาจมีเลือดออกมากตามมาได้

3. หลังจากประคบสมุนไพรเสร็จใหม่ๆ ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะไปล้างตัวยาจากผิวหนัง และร่างกายยังไม่สามารถปรับตัว ได้ทัน (ร้อนเป็นเย็นทันทีทันใด) อาจทำให้เกิดเป็นไข้ได้



ประวัติ ข้อมูลผู้ประกอบอาชีพ : นางกองแก้ว ดวงจิตต์ เกิดวันที่ 19 ตุลาคม 2495

ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 7 ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน 51120

โทร.089-5532362

พิกัด : ละติจูด 18.4327316 ลองติจูด 98.8909083


ข้อมูล เนื้อหา โดย : นางกองแก้ว ดวงจิตต์

เรียบเรียงเนื้อหา โดย : นางผ่องพรรณ วงค์เศษ ครู กศน.ตำบลนครเจดีย์

ภาพถ่าย โดย : นางผ่องพรรณ วงค์เศษ ครู กศน.ตำบลนครเจดีย์