การใช้ปุ๋ยหมัก

 วิธีการใช้ปุ๋ยหมักสามารถทำได้ 3 วิธี  ตามชนิดของพืชที่ปลูกโดยมีจุดประสงค์เพื่อความสะดวกใน       การปฏิบัติ และเพื่อให้ธาตุอาหารพืชในปุ๋ยหมักเป็นประโยชน์ต่อพืชมากที่สุดและเกิดการสูญเสียน้อย เนื่องจากปุ๋ยหมักที่ใช้มีปริมาณมากยากต่อการขนส่งและเคลื่อนย้าย  คือวิธีใส่แบบหว่านทั่วแปลง การใส่ปุ๋ยหมักแบบนี้เป็นวิธีการที่ดีต่อการปรับปรุงบำรุงดินเนื่องจากปุ๋ยหมักจะกระจายอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งแปลงปลูกพืชที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ส่วนมากจะใช้กับการปลูกข้าวหรือพืชไร่ หรือพืชผัก แต่อาจมีปัญหาในด้านจะต้องใช้แรงงานในการใส่ปุ๋ยหมัก อัตราของปุ๋ยหมักที่ใช้ประมาณ 2 ตัน ต่อไร่ต่อปี โดยใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0, 18-22-0, 20-20-0 ถ้าดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำอาจจะใช้สูตร16-16-8 ในอัตรา 15-30 กก. ต่อไร่   วิธีใส่แบบเป็นแถว  จะใช้กับการปลูกพืชไร่โดยโรยเป็นแถวสำหรับการปลูกพืชไร่ทั่วไป อัตราปุ๋ยหมักที่ใช้ประมาณ 3 ตันต่อไร่ต่อปี และวิธีใส่แบบเป็นหลุม จะใช้กับการปลูกไม้ผลและไม้ยืนต้นโดยสามารถใส่ปุ๋ยหมักได้สองระยะคือ ในช่วงแรกของการเตรียมหลุมเพื่อปลูกพืช นำดินด้านบนของหลุมคลุกเคล้ากับปุ๋ยหมักแล้วใส่รองก้นหลุม อีกระยะหนึ่งอาจจะใส่ปุ๋ยหมักในช่วงที่พืชเจริญแล้ว โดยการขุดเป็นร่องรอบ ๆ ต้นตามแนวทรงพุ่มของต้นพืช แล้วใส่ปุ๋ยหมักลงในร่องแล้วกลบด้วยดิน ใช้ปุ๋ยหมักประมาณ 20-50 กก. ต่อหลุม ในกรณีที่ใส่ปุ๋ยหมักกับไม้ผลที่เจริญแล้ว อัตราการใช้อาจจะเพิ่มขึ้นตามส่วน และมักจะใส่ปุ๋ยหมักปีเว้นปี  ปุ๋ยหมักจะช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุทำให้ดินอุดมสมบูรณ์  ช่วยเปลี่ยนสภาพของดินเหนียวหรือดินทรายให้เป็นดินร่วนสะดวกต่อการไถพรวน ช่วยสงวนรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ดีขึ้น ทำให้การถ่ายเทอากาศในดินได้ดี  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยเคมีและสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ ช่วยกระตุ้นให้ธาตุอาหารพืชบางอย่างในดินให้ละลายน้ำง่ายเป็นอาหารแก่พืชได้ดีขึ้น  ไม่เป็นอันตรายต่อดินแม้จะใช้ในปริมาณมาก ๆ ติดต่อกันนาน ๆ ช่วยปรับสภาพแวดล้อม เช่นกำจัดขยะมูลฝอยและวัชพืชน้ำทั้งหลายให้หมดไป


ผู้เขียน: นางสาวรุ่งทิวา  กันทาทรัพย์  ครู กศน.ตำบลน้ำดิบ