พระสารีริกธาตุ คือ พระรากขวัญ ขนาดเท่าเมล็ดงา (พระรากขวัญคือ กระดูกไหปลาร้าด้านซ้าย ) ส่วนนั้น คงเป็นกลุ่มเดียวกัน กับที่สร้างพระธาตุพนม โดยสันนิษฐานได้จากองค์พระธาตุนั้น มีลายเทพพนม เหมือนกันทุกอย่าง เทพพนม ลายดอกบัวเครือ ทั้ง ๔ ด้าน เหมือนกัน

ในศิลาจารึกได้ระบุรายนามผู้สร้างองค์พระธาตุ ดังนี้

๑. พระยาสุวรรณภิงคาร(เจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร)

๒. พระยาคำเเดง (เจ้าเมืองหนองหานน้อย อุดรธานี)

๓. พระยาจุลมณีพรหมทัต(เจ้าเมืองลาวเหนือ-ญวน)

๔. พระยาอินทปัตนคร(เจ้าเมืองขอม-กัมพูชา)

๕. พระยานันทเสน(เจ้าเมืองศรีโครตบูรณ์หลวง-ลาวใต้)

หมวดศิลปะวัฒนธรรมประเพณี

พระศรีมหาธาตุ แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเมืองบ้านธาตุ

“พระศรีมหาธาตุ แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเมืองบ้านธาตุ”

แผ่นศิลาจารึก เป็นภาษาขอม ทางเข้าประตูทางทิศใต้ ทางพระอุโบสถ ก่อนที่ชาวบ้านได้ใช้ดินและปูน ฉาบทาปิดไปนั้น ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ เป็นปีที่รัฐบาลได้ประกาศพัฒนาภาคอีสานเป็นครั้งแรก โดยได้พัฒนาตำบลบ้านธาตุ เป็นบ้านแรก รัฐบาลในช่วงนั้น เป็นรัฐบาลทหาร มีจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ จอมพลประภาส จารุเสถียร นำทหารหน่วย น.พ.ค. เร่งพัฒนาอันดับแรกนั้น ได้พัฒนาแหล่งน้ำ คือหนองหัวแตก ได้สร้างทำนบกักน้ำไว้ให้ราษฎรได้ใช้ และได้ตั้งชื่อหนองหัวแตกนั้นใหม่ว่า #หนอง

ศรีเจริญ จอมพลประภาส ได้นำเฮลิคคอปเตอร์ มาลงที่โรงเรียนบ้านธาตุราษฎร์วิทยาบำรุง แล้วท่านได้เห็นพระธาตุ จึงถามชาวบ้านว่า เป็นพระธาตุอะไร และชาวบ้านได้ตอบท่านว่า เป็นพระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์ และน่าเลื่อมใสมาก อยากได้อะไร หรือจะบนบานศาลกล่าว ก็จะได้สมดังใจปรารถนา วันต่อมา จอมพลประภาส ได้นำโหรหลวง พร้อมโหรผู้เชี่ยวชาญ มาอ่านภาษาขอมในแผ่นศิลา และท่านได้นุ่งขาวห่มขาว นั่งสมาธิใช้เวลานานพอสมควร เสร็จเเล้วท่านได้กล่าวกับชาวบ้านว่าพระธาตุเจดีย์นี้ ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นส่วนที่เหลือ จากการสร้างพระธาตุพนม