พื้นที่สีเขียวที่กำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางปั่นจักรยานยอดฮิตหลายเส้นทางริมน้ำท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีและสงบร่มรื่นในพื้นที่รูปกระเพาะ ที่อัดแน่นไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและการอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติของชุมชนทำให้เราสามารถเก็บความประทับใจได้ด้วยจักรยานหนึ่งคัน
วันนี้เราจึงพาไปในเส้นทางหนึ่งอย่าง “ถนนมรกต” ปั่นลัดเลาะเข้ามาในถนนเส้นเล็กๆ ผ่านสวนและบ้านคนที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ต้นไม้ทั้งใหญ่เล็กต่างไหวเอนไปตามลมเหมือนโบกมือทักทายผู้ที่เข้ามาหาในระยะทางประมาณ 4 กม.
ถนนมรกตเป็นส่วนหนึ่งของคุ้งบางกะเจ้า ซึ่งอยู่ในเขต ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รูปร่างพื้นที่ดูคล้ายกระเพาะอาหารที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเรียกกันว่า “กระเพาะหมู” ครอบคลุมพื้นที่ 6 ตำบล คือ ต.บางกะเจ้า ทรงคนอง บางยอ บางกระสอบ บางกอบัว และ บางน้ำผึ้ง แวดล้อมด้วยสวนป่าชุมชนขนาดใหญ่และยังได้รับการยกย่องจาก Time Magazine ให้เป็น The Best Urban Oasis of Asia เมื่อปี 2006 อีกด้วย
เริ่มเส้นทางการปั่นจากต้นตลาดน้ำบางน้ำผึ้งไปยังเส้นทางวัดบางน้ำผึ้งใน เพื่อไปยังสองจุดหมายสุดท้าย ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกัน นั่นคือ บ้านธูปหอมสมุนไพร และบางกอกทรีเฮาส์ ด้านหน้าทางเข้าเป็นซอยถนนคอนกรีตเลียบคลองเล็กๆ มีป้ายเขียนว่า หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เส้นทางอาจไม่เหมือนเส้นทางปั่นในสวนสาธารณะทั่วไป แต่ก็เป็นที่นิยมของนักปั่นทั้งไทยและเทศจนต้องมาเห็นด้วยตาให้ได้ ทว่าเส้นทางปั่นช่วงนี้ต้องทรงตัวเล็กน้อยเพราะต้องปั่นบนสะพานปูนกว้างแค่ 1-2 เมตร ที่ทอดผ่านชุมชนและลัดเลาะไปตามป่าชายเลนและร่องสวน ครึ้มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่
เลาะเลียบคลองบางน้ำผึ้งไปจนจรดประตูน้ำทางออกไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีรั้วกั้นให้ปั่นได้อย่างปลอดภัย บวกกับความสวยงามตลอดฝั่งคลองบางน้ำผึ้ง เบื้องหน้าฝั่งตรงข้ามคือวัดบางนานอก เส้นทางสายนี้ถูกเรียกขานว่า“เส้นทางมรกต” เหตุเพราะมีการทาสีเขียวไปบนพื้นถนนดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น ขณะปั่นไปก็สัมผัสได้กับลมเย็นๆ ที่โชยมาตลอดเวลา รวมไปถึงความสนุกที่ได้ปั่นผ่านทักทายเพื่อนนักปั่นมากมายทำให้คุ้งสีเขียวเล็กๆ แห่งนี้เป็นอีกสถานที่ปั่นแล้วไม่เบื่อ
เพื่อนร่วมทางหลายต่อหลายคนที่พาเจ้าสองล้อคู่ใจมาปั่นรับลมชมวิวกัน และได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่ได้พบเห็นตรงหน้า ปั่นไปยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพตลอดเวลา และบอกว่าได้ความเป็นส่วนตัว เงียบสงบเอามากๆ เลย
ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เลือกจะมาปั่นที่นี่ ซึ่งจะมีผู้คนนำเจ้าสองล้อมาปั่นมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดามีคนมาปั่นในเวลากลางวันบ้าง ทำให้เส้นทางสีเขียวนี้ไม่เคยเงียบเหงาเลย หรือถ้ากลัวหลงทางที่นี่ยังมีไกด์นำทางคอยปั่นนำทางพาลัดเลาะทุกซอกมุม ส่วนคนที่ไม่อยากนำจักรยานมาเองก็มีให้เลือกเช่าได้ตามชอบ ราคาต่อวันประมาณ 80 บาท แต่ไม่แนะนำให้ปั่นในเวลาเย็นหรือค่ำนัก เพราะเส้นทางค่อนข้างแคบอาจเป็นอันตรายได้
นี่คือสถานที่ในฝันของนักปั่นหลายต่อหลายคนและเป็นสถานที่ที่จะเปลี่ยนความรู้สึกเฉยๆ กับการปั่นจักรยาน ให้หันมาหลงใหลการเดินทางด้วยพาหนะชนิดนี้ ลองไปปั่นดูแล้วจะรู้ว่าความสนุกสดชื่นแค่ไหน ไม่แปลกใจที่ต่างชาติยกให้เป็นโอเอซิสใจกลางกรุง