ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

ประเพณีแต่งงาน ของชนเผ่ากะเหรี่ยง

กะเหรี่ยงมีความเคร่งครัด ในการเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง มีข้อห้ามการไปไหนต่อไหนด้วยกันตามลำพังและการถูกเนื้อต้องตัวกัน การได้เสียกันก่อนแต่งงานถือว่าเป็นความผิดอย่างแรง ต้องมีการถูกลงโทษปรับสินไหมและต้องทำพิธีขอขมาหัวหน้าหมู่บ้าน รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้านมีการฆ่าหมู ไก่ วัว ควาย เป็นต้น เป็นการป้องกันหนุ่มสาวเล่นไม่ซื่อและเป็นการสอนหนุ่มสาวไปในตัวว่าทำไปต้องมีการทำโทษเหมือนคู่นี้ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอาย การมีชู้โทษถึงโดนไล่ออกจากหมู่บ้าน กะเหรี่ยงมีการอยู่อย่างผัวเดียวเมียเดียวตราบจนตายไม่ประพฤติผิดลูกเมียใคร กะเหรี่ยงที่เป็นแม่หม้ายน้อยมากที่จะแต่งงานใหม่

พิธีการแต่งงานของชาวกะเหรี่ยงนิยมจัดกันในเดือน ๔ - ๕ และเดือน ๑๒ ของทุกปี และจะจัดงานกันตอนช่วงเวลาเย็น ๆ ของที่นำมาใช้ในพิธีฝ่ายชายจะต้องเตรียมถุงย่ามที่แม่ฝ่ายชายทอให้ หมอน ขันน้ำ ชามกินข้าวอย่างละ ๑ ใบ ในวันงานเจ้าบ่าวจะแต่งชุดที่เรียกว่า "ทู่มูเคอะ" ขณะเดินมาบ้านเจ้าสาว เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวจะหักกิ่งไม้ และนำมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของเจ้าสาวเพื่อให้ฝ่ายชายเก็บ และมีการก่อกองไฟเพื่อไล่สิ่งไม่ดีไม่ให้เข้ามาก่อนจะมีพิธีผูกแขนกัน

ขณะที่บ้านฝ่ายหญิงจะเตรียมน้ำสำหรับล้างข้อมือข้อเท้าให้ฝ่ายชายก่อนขึ้นบ้าน และมีผู้อาวุโสท่านหนึ่งถือขันขมิ้นไว้บนบ้านเมื่อเดินทางมาถึงบ้าน เจ้าสาวจะนำหมากบุหรี่ยื่นให้ฝ่ายชาย หลังจากนั้นผู้อาวุโสจึงผูกแขนให้บ่าวสาว และกินข้าวร่วมกัน ช่วงนี้บ่าวสาวจะเรียกหนุ่มสาวที่ไม่ใช่ญาติของตนมาร่วมกินข้าวด้วย จากนั้นเมื่อบ่าวสาวและเพื่อนบ่าวสาวที่ร่วมพิธีกินข้าวหมด หนุ่มสาวที่บ่าวสาวเลือกจะทุ่มหม้อข้าวที่ตนกินให้แตก เพื่อให้คู่บ่าวสาวเก็บเศษหม้อไห ต่อมาบ่าวสาวต้องเลี้ยงเหล้าผู้มาร่วมงาน หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกลับบ้าน

ชาวกะเหรี่ยงจะมีการส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอในเวลากลางคืน เมื่อถึงเวลาส่งตัวเข้าห้องหอเจ้าสาวจะต้องรินเหล้า และน้ำให้เจ้าบ่าวก่อน วันต่อมาหลังจากแต่งงานกันแล้ว ทั้งคู่จะต้องพาเด็กน้อย 1 คนกันออกไปหาปลา เพื่อมาเป็นอาหาร หากวันนั้นไม่สามารถหาปลาได้ จะต้องเก็บก้อนหินกลับมา 3 ก้อน เพื่อจะนำมาต้มกินกับข้าว

ผู้หญิงกะเหรี่ยงที่แต่งานแล้ว จะสวมเสื้อประดับประดาด้วยลูกเดือยและฝ้ายสี การประดิษฐ์ลวดลาย และการใช้สีสันต่างๆ คิดค้นขึ้นมาแทนสิ่งที่มีอยู่รอบตัว เช่น นำเม็ดลูกเดือยมาเรียงกัน 2 เม็ด หมายถึงรอยรอยเท้าสุนัข หรือการปักไขว้ด้วยด้ายสีแดงเป็นรัศมี หมายถึงพระอาทิตย์ เป็นต้น เสื้อดังกล่าวเป็นรูปทรงกระสอบ ตัวสั้นเลยเอว คอเสื้อเป็นรูปตัววี แขนในตัว สั้นเลยไหล่มานิดหนอ่อย เสื้อนี้เรียกว่า “เซ้ ซุ “ และจะสวมผ้าซิ่น ทั้งเสื้อและผ้าซิ่นเป็นเครื่องหมายแสดงว่ามีเจ้าของแล้ว จะไม่มีชายอื่นมาเกี่ยวข้องอีก สาวโสดจะใส่ชุดของหญิงที่แต่งงานแล้วไม่ได้ เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ไม่ได้แต่งงาน หรือมีลูกโดยยังไม่ได้แต่งงาน หรืออาจทำให้เป็นบ้าไปเลยก็ได้ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วก็จะกลับไปสวมใส่ชุดขาวอีกไม่ได้ เพราะเป็นการดูถูกความบริสุทธิ์ของหญิงสาว เสื้อของหญิงที่แต่งงานแล้ว จะต้องมีลายปัก เพระถ้าไม่มีเชื่อว่าจะทำให้ไม่มีลูก กะเหรี่ยงมีทั้งนับถือผี นับถือศาสนาพุทธ และนับถือศาสนาคริสต์

เสื้อของหญิงที่แต่งงานแล้วจึงต้องมีการปักลูกเดือย เพราะเชื่อว่ากันผีได้ และมักจะทอลายลงไปเลย ใช้วิธีปักด้วยมือดังเช่นนี้เสื้อของกะเหรี่ยงที่นับถือผีจะใส่ผ้าซิ่นที่มีลายกี่ ผ้าซิ่นของหญิงที่แต่งงานแล้วลวดลายของผ้าซิ่นแสดงความขยันหมั่นเพียรของผู้ทำ ยิ่งลวดลายมีมากก็ยิ่งแสดงความขยันหมั่นเพียรมมากขึ้นเท่านั้น