โซน 6 weather station

เทคโนโลยีต่าง ๆ ด้านไอที พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจเกษตร ก็พยายามที่จะนำระบบไอทีมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านการพัฒนาระบบโปรแกรม เพื่อตอบสนองในด้านการบริหารจัดการข้อมูล ที่รวดเร็ว เป็นประโยชน์ในด้านการตัดสินใจ เช่นระบบการบริหารจัดการน้ำ ระบบบริหารจัดการดิน หรือแม้กระทั่งการนำ hardware ต่าง ๆ เข้ามาใช้มากขึ้น เช่นเครื่องมือวัดแบบอัตโนมัติต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นเรื่องใกล้ตัวเกษตรกร และผู้ประกอบการมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็จะมีสถานีตรวจวัดภูมิอากาศ เพื่อติดตาม และเก็บสถิติด้านปริมาณน้ำฝน

ด้วยมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เทคโนโลยีที่แสนแพง ราคาต่ำลงจนถึงระดับที่น่าสนใจ และสรรหาได้ไม่ยาก มีการนำมาต่อยอดเพื่อใช้ในด้านต่าง ๆ มากขึ้น

สถานีตรวจวัดสภาพอากาศ (weather station)

ซึ่งสามารถตรวจวัดข้อมูลต่าง ๆ เช่น ปริมาณน้ำฝน ความชื้นอากาศ ความชื้นดิน อุณหภูมิ ความเร็วลม เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในภาคการเกษตร ปัจจุบันมีการพัฒนาเพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ถูกเก็บอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยสามารถพัฒนาเป็นระบบเก็บข้อมูลแบบอัตโนมัติ และส่งข้อมูลขึ้นระบบ Internet สามารถเปิดดูข้อมูลทางเว็บไซต์ได้ทันที ทำให้ผู้ใช้งานมีข้อมูลปัจจุบัน และข้อมูลย้อนหลังได้แบบง่าย ๆ สามารถนำข้อมูลไปวางแผนการบริหารจัดการด้านการเกษตรได้ทันท่วงที

อาจจะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แต่ค่าใช้จ่ายในการทำระบบแบบนี้ถูกลงมาก!! แต่ก่อนต้องจ่ายหลักแสน หลักล้านบาท แต่ปัจจุบัน จ่ายตั้งแต่ 10,000-50,000 บาท ก็มีระบบที่เป็นคำตอบให้กับชาวไร่ได้

นอกจากสถานีตรวจวัดภูมิอากาศแล้ว ในเรื่องของคุณสมบัติของดินก็มีความสำคัญไม่น้อย ซึ่งปัจจุบันก็มีการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการดิน สำหรับการเกษตร ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ