ผ้าย้อมคราม

ขั้นตอนการย้อมสีครามและลายผ้าคราม

ขั้นตอนการย้อมสีคราม

ขั้นตอนการทำสีครามด้วยวิธีธรรมชาติจากเปลือกไม้

วัตถุดิบที่ใช้ในการย้อมสีผ้าด้วยน้ำคราม ได้แก่ ใบคราม ต้นคราม เป็นไม้พุ่มล้มลุก ปลูกด้วยเมล็ด เมื่อต้นครามอายุได้ ๓-๔ เดือน ใบและกิ่งจะให้สีน้ำเงิน

การเตรียมใบคราม

๑. เมื่อต้นครามีอายุ ๔ เดือน ใบจะแก่พอเหมาะให้เริ่มเก็บเกี่ยวคราม ด้วยน้ำทั้งกิ่งและใบมามัดรวมกันเป็นก้อนๆ ขนาดก้อนละ ๕๐๐ กรัม

๒. นำกิ่งและใบครามที่ทำเป็นมัดลงไปแช่น้ำ ๑๘-๒๔ ชั่วโมง

๓. แยกกากใบทิ้ง เติมปูนกินหมากลงไปที่ละน้อย จนน้ำครามเหลืองเข้มมีฟองสีน้ำเงิน

๔. ตีน้ำคราม (กวนคราม) ให้เกิดฟองมากๆ ๑๕-๓๐ นาที แล้วพักไว้ ๑ คืน

๕. ครามจะตกตะกอนปนกับปูนขาว เทของเหลวใสสีน้ำตาลชั้นบนทิ้ง

๖. เนื้อครามที่ได้จะเก็บไว้ใช้ได้นาน

ขั้นตอนการก่อหม้อและการย้อมสีครามด้วยวิธีธรรมชาติจากเปลือกไม้

การก่อหม้อ

๑. นำเนื้อครามผสมกับน้ำขี้เถา สัดส่วน ๓๖๐ กรัมต่อ ๑ ลิตร

๒. พักน้ำครามไว้ภาชนะที่เย็นและมิดชิด

๓. ตักน้ำคราม ดูทุกวันๆละ ๒ ครั้งเช้า-เย็น

๔. เมื่อน้ำครามให้สีเขียวอมเหลืองจึงจะย้อมได้ ควรเรียมน้ำครามไว้ครั้งละหลายๆ หม้อ

๕. การย้อมให้นำผ้าฝ้ายที่ลางไขมันแล้ว และฝ้ายที่มัดหมี่แล้ว ลงย้อมในน้ำคราม ที่พร้อมจะย้อมได้(ใช้วิธีภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูและทดสอบ) และคั้นด้วยมือในน้ำคราม หลายๆหม้อในหนึ่งหม้อจะย้อม ได้แค่ครั้งเดียว ถ้าอยากให้สีครามเข้มให้ย้อม ๘-๑๐ หม้อ

๖. เมื่อย้อมติดครบจำนวนหม้อครามตามต้องการแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จนไม่เหลือสีครามออกในน้ำล้าง

๗. ผึ่งให้แห้งนำไปสู่กระบวนการทอ

วิธีการย้อมมี ๒ วิธี

๑. การย้อมร้อน

๑. ต้มน้ำ ๒๐ ลิตร ให้เดือด

๒. เติมจุนสี ๒ ซ้อนแกง

๓. นำเปลือกไม้ลงต้มเคี่ยวให้ได้น้ำย้อมเข้มข้น ๑-๒ ชั่วโมง

๔. ตัดเอาเปลือกไม้ออก

๕. นำเส้นฝ้ายที่ล้างไขมันออกแล้ว ลงแช่ในน้ำสีขณะที่ยังร้อน ประมาณ ๓๐ นาที

๒. การย้อมเย็น

๑. การเตรียมน้ำสีกระทำโดยวิธีเดียวกันกับการย้อมร้อน

๒. เมื่อได้น้ำสีแล้วพักไว้ให้เย็น

๓. นำฝ้ายที่ล้างไขมันแล้วลงย้อมด้วยการใช้มือคั้นผ้ากับน้ำสี ประมาณ 30 นาที

๔. ล้างให้สะอาด และตากให้แห้ง

การถ่ายทอดภูมิปัญญาการกำหนดลายผ้า

๑. ถ้าการทอผ้าด้วยลายขัดธรรมดา ไม่ต้องกำหนดลายผ้า

๒.ลายมัดหมี่เป็นการทำลวดลายโดยการมัดกลุ่มเส้นพุ่งด้วยเชือกกล้วยหรือเชือกฟางให้เป็นลายตามต้องการ

๓. ลายขิด เป็นผ้าที่ทำให้เกิดลวดลายโดยการสะกิดหรือขิด โดยการขิดเส้นยืนกลุ่มล่างขึ้นแล้วสอดเส้นพุ่งขัดตามลายที่ต้องการ