วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า วัดเขาศาลา นั้น เป็นพุทธอุทยานแห่งแรกของไทย รวมถึงเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอันเงียบสงบที่สุดแห่งหนึ่งของ สุรินทร์ นั่นเองค่ะ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ รูปปั้นของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระพุทธบารมีสยามบุรีพิทักษ์ พระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่สีทองอร่าม เป็นต้น รวมถึงมีจุดชมทิวทัศน์สวยๆ ที่สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำบ้านจรัสและทิวเขาพนมดงรักซึ่งเป็นแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาได้แบบงดงามอีกด้วยค่ะ
ทะเลสาบทุ่งกุลา หนึ่งในโครงการแก้มลิง เป็นอ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เอาไว้ใช้กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร เมื่อก่อนนั้นบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ จะเป็นบริเวณแห้งแล้งมาก แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ มีน้ำใสสีฟ้า เหมือนน้ำทะเลเลย ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนกับแหล่งพักผ่อนริมชายหาดของ สุรินทร์ เลยค่ะ
โลกของช้าง หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง แห่งนี้ จะเรียกว่าเป็นไฮไลท์ชื่อดังของ สุรินทร์ ก็ว่าได้ เพราะที่นี่จะมี พิพิธภัณฑ์ช้าง หรือ Elephant Museum ให้เราได้ไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของคนและช้างกันค่ะ ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือมีดีไซน์หน้าตาสวยงามอย่างมาก แบบที่ว่าหาที่ไหนไม่ได้แล้วค่ะ มุมสวยสุดๆ ถ่ายรูปออกมาดีมากๆ อีกทั้งยังได้เจอน้องช้างด้วย เป็นอีกที่เที่ยวที่อยากให้ลองมาเที่ยวชมกันดูค่ะ
อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อีกแหล่งที่เที่ยวของ สุรินทร์ ขึ้นชื่อได้ว่าเป็น ทะเลสุรินทร์ ก็คือ อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง นี้นั่นเองค่ะ เป็นจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมา เล่นน้ำกัน และนั่งรับประทานอาหารชิลๆ กันค่ะ อีกทั้งยังมีพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบรมวงศานุวงศ์ด้วย ที่เที่ยวใจกลางเมือง พักผ่อนชิลแบบนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้วนะคะ
วนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย หรือ เขาสวาย เป็นบริเวณของภูเขา 3 ลูกติดต่อกัน ที่มีชื่อว่า ยอดเขาชาย (พนมเปราะ) ยอดเขาหญิง (พนมสรัย) และ เขาคอก (พนมกรอล) โดยแต่ละยอดเขาก็จะมีที่เที่ยว จุดเช็คอินต่างๆ ทั้ง พระพุทธสุรินทรมงคล เป็นพระพุทธรูปสีขาวปางประทานพร สระน้ำโบราณ ศาลาอัฏฐะมุข อนุสรณ์แห่งการฉลองครบรอบ 200 ปี ของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เป็นต้น
หมู่บ้านผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง หรือที่รู้จักกันในชื่อของ หมู่บ้านทอผ้าเอเปค เพราะที่นี่ได้รับการคัดเลือก เพื่อนำไปตัดเสื้อผู้นำและผ้าคลุมไหล่คู่สมรสผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจที่มาร่วมประชุมผู้นำเอเปคในปีพ.ศ. 2546 นั่นเองค่ะ โดยมีชื่อเสียงในเรื่องของ “ผ้าไหมทอหนึ่งพันสี่ร้อยสิบหกตะกอ” ซึ่งเป็นผลงานศิลปหัตถกรรมของกลุ่มทอผ้าไหมยกทองโบราณนี้ เป็นการทอผ้าที่มีลวดลายโดดเด่นสวยงาม ผสมผสานระหว่างลายของการทอสลับซ้อนดิ้นทองแบบราชสำนักกับเทคนิคการทอผ้าแบบพื้นบ้าน ทำให้กลายมาเป็นผ้าไหมยกทองโบราณที่มีความอ่อนช้อยวิจิตรงดงามนั่นเองค่ะ
วัดช้างหมอบ หรือ วัดมงคลคชาราม เป็นวัดที่หลวงพ่อพวนเกจิชื่อดังจำพรรษาอยู่ และยังถือว่าเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองสุรินทร์อีกด้วย เพราะมีความสวยงดงาม และยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติของทั้งภูเขาและป่าไม้เอาไว้อีกด้วย ทำให้ที่นี่เหมาะที่จะมาปฎิบัติธรรมอย่างมากค่ะ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่องค์ปรางค์ ที่มีความวิจิตรงดงามมาก ตกแต่งด้วยลายไทยและขอม เป็นการผสมผสานแนวคิดของพระธาตุพนมกับนครวัดเข้าด้วย อีก วัดสวย ที่ต้องมาสักการะกันเลยค่า
ศาลหลักเมืองสุรินทร์ เป็นศาลหลักเมืองสวยๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเขมรและศิลปะแบบไทยเข้าไว้ด้วยกันค่ะ เกิดเป็นศาลหลักเมืองที่มีความสวยงดงามและยิ่งใหญ่อลังการแห่งนี้ อีกทั้งในอดีตยังเคยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นคือมีรอยแยกบนพื้นถนน ทำให้มีการขุดลงไปพบพระพุทธรูปนาคปรกและวัตถุโบราณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่องดินเผา กำไลโบราณ และ เครื่องปั้นภาชนะดินเผา ที่นำไปบูชาภายในศาลหลักเมืองอีกด้วยค่ะ
ปราสาทศีขรภูมิ เป็นปราสาทหินอายุกว่าพันปี ที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมขอมโบราณ ในสมัยนครวัด มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ปราสาทระแงง ซึ่งเมื่อก่อนนั้นที่นี่ น่าจะเป็นเทวสถานเพื่อบูชาพระศิวะ เทพเจ้าแห่งศาสนาฮินดูนั่นเองค่ะ โดยมีลักษณะเด่นก็คือ ปรางค์ 5 องค์ ที่ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง และ ภาพสลักนางอัปสรถือดอกบัว ที่คล้ายกับนครวัดใน ประเทศกัมพูชา ค่ะ เป็นอีกจุดเช็คอินของ สุรินทร์ ต้องห้ามพลาดจริงๆ ค่ะ