ปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมชนบท คือ ความขาดแคลน ความยากจน ความไม่รู้ อันเป็นสาเหตุนำไปสู่ความเจ็บไข้ได้ป่วยและการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขาดแคลนแพทย์ที่ยินดีจะใช้ชีวิตอยู่ในชนบทและยินดีที่จะให้การักษาพยาบาลกับประชาชนในชนบท โดยไม่คิดจะย้ายไปทำงานในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญ  พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  กระทรวงสาธารณสุขและคณะแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ตระหนักถึงปัญหานี้มาโดยตลอด 

           ในปี  พ.ศ. 2519  ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อการผลิตแพทย์ เพื่อรับใช้สังคมในชนบทโดยอาศัยแนวคิดที่ว่าจะต้องจัดหลักสูตรเน้นหนักทางชนบทและเรียนในชนบท โดยการคัดเลือกนักเรียนจากท้องถิ่นในชนบทนั้นๆ เข้าศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยในชั้น Preclinic จะจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปกติของคณะแพทยศาสตร์ ส่วนในชั้น Clinic นั้น จะทำการจัดการเรียนการสอนในโรงพยาบาลต่างจังหวัดของกระทรวงสาธารณสุข  โดยอาศัยแพทย์ บุคลากรของโรงพยาบาลฯ เหล่านั้นเป็นผู้ฝึกสอน เมื่อจบการศึกษาแล้วบัณฑิตแพทย์ดังกล่าวจะต้องไปปฏิบัติงานในท้องถิ่นในชนบทที่กำหนดจากแนวคิดดังกล่าว จึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือและร่วมกันผลักดันแนวความคิดนี้มาโดยตลอด

            ในปี  พ.ศ. 2521  ได้จัดตั้ง “โครงการส่งเสริมการศึกษาแพทย์สำหรับชนบท” หรือ Medical Education for Students in Rural Areas Project  เรียกย่อๆ ว่า MESRAP โดยคัดเลือนักเรียนจาก 8 จังหวัดในภาคตะวันออกและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ อีก 4 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 12 จังหวัด เข้ามาศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเมื่อนิสิตแพทย์จบการศึกษาแล้ว นิสิตแพทย์จะได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ากับนิสิตแพทย์ในชั้นเรียนปกติทุกประการ

          โรงพยาบาลพระปกเกล้า ได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแห่งแรก โดยได้เริ่มให้บริการการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ.  2525 ซึ่งต่อมาได้เพิ่มศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิกที่โรงพยาบาลชลบุรีอีกแห่งหนึ่งด้วยและได้ร่วมกันผลิตบัณฑิตแพทย์ตามโครงการฯ ดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 25 รุ่น รวมบัณฑิตแพทย์ที่จบการศึกษาออกไปรับใช้สังคมในชนบทถึง 749  คน จนสิ้นสุดโครงการเทื่อปี พ.ศ. 2550

         จากความสำเร็จของโครงการฯ ดังกล่าว ทำให้เกิดการขยายผลโดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับทบวงมหาวิทยาลัย (ปัจจุบันรวมเป็นกระทรวงศึกษาธิการ) จัดตั้งโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท หรือ The Collaborative Project to Increase Production Of Rural Doctor เรียกย่อๆ ว่า CPIRD ขึ้นในปี พ.ศ. 2537 จนถึงปัจจุบันกระจากไปตามจังหวัดต่างๆ รวม 32 แห่ครอบคลุมทั้งประเทศ         

          ในปี พ.ศ. 2540 กระทรวงสาธารณสุข  จึงได้จัดตั้ง “สำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท” เพื่อรับผิดชอบโครงการดังกล่าว สำนักงานนี้มีฐานะเทียบเท่ากองในสังกัสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ใช้ชื่อย่อว่า  “สบพช.”  

          ในปี พ.ศ. 2541 ได้มีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขให้จัดตั้งศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก  ขึ้นในโรงพยาบาลศูนย์ที่เข้าร่วมโครงการผลิตแพทย์ ศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า” จวบจนปัจจุบัน

รายนามผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาแพทย์ศาสตร์คลินิก

1.  นายแพทย์ชัชวาล สมพีร์วงศ์ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 - พ.ศ. 2560

2.  นายแพทย์สุชาติ ตันตินิรามั ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2564

3.  รศ.พิเศษ นพ.พิพัฒน์ คงทรัพย์ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 - พ.ศ. 2566

4.  นายแพทย์กิตติศักดิ์ วังสถาพร ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 - พ.ศ. 2567

5.  แพทย์หญิงจรรยา ธำรงวุฒิกุล ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 - ปัจจุบัน