ความรู้เกี่ยวกับศาลปกครอง
1. ขัตติยา สวัสดี 2. ทิพากร สวัสดี 3. วรัญญา อดุลรัมย์ 4. ศศิกานต์ ปักกาเวสูง
นักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
1. 640112801020@bru.ac.th 2. 640112801026@bru.ac.th 3. 640112801042@bru.ac.th 4. 640112801044@bru.ac.th
20 กุมภาพันธ์ 2567
ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองตามที่กฎหมายบัญญัติอันได้แก่คดีพิพาทที่เกิดจากการกระทำทางปกครองไม่ว่าจะเป็นคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจศาลปกครองทำหน้าที่เป็นสถาบันหลักในกระบวนการยุติธรรมทางปกครองเป็นองค์กรตุลาการที่ใช้อำนาจในการแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายหรือคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้กับประชาชนจากการใช้อำนาจของฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในขอบเขตของฝ่ายปกครองที่ต้องดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ถึงแม้ศาลปกครองจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบและควบคุมการใช้อำนาจของฝ่ายปกครองซึ่งจะมีผลเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ่ายปกครองใช้อำนาจที่ไม่พึงประสงค์หรือบิดเบือนการใช้อำนาจหรือมีการใช้อำนาจผิดไปจากวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของกฎหมายก็ตามบทบาทของศาลปกครองก็มิได้มีหน้าที่เพียงการชี้ขาดตัดสินคดีที่เกิดขึ้นหรือการตีความบทบัญญัติของกฎหมายเพื่อให้ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจอย่างถูกต้องและมิให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่กฎหมายรับรองหรือคุ้มครองไว้เท่านั้น
1.ศาลปกครองคืออะไร
ศาลปกครองมีนักวิชาการให้ความหมายไว้สรุปดังนี้
ฤทัย หงส์สิริ (2556 : 3) ให้ความหมายศาลปกครองว่าศาลปกครองเป็นองค์กรกรบังคับใช้คดีกลางและศาลปกครองเป็นศาลในระบบศาลที่มีอำนาจในการพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง ซึ่ง "ศาลปกครองเป็นองค์กรอิสระ" เกิดขึ้นมาพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2540 มีความแตกต่างจากองค์กรอิสระอื่นๆ
ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ให้ความหมายศาลปกครองว่า (2556) “ศาลปกครอง” เสาหลักกระบวนการยุติธรรมทางปกครองของไทยปัจจุบันกําลังย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 ของการ มุ่งมั่นทำหน้าที่อํานวยความยุติธรรมทางปกครองอันมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนรายงานปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี(2562) ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นองค์กรตามรัฐธรรมนูญเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชน
กล่าวโดยสรุป ศาลปกครองเป็นองค์กรการบังคับใช้คดีกลาง และศาลปกครองเป็นศาลในระบบศาลทีมีอำนาจในการพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับการปกครองมุ่งมั่นทำหน้าที่อํานวยความยุติธรรมทางปกครองอันมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน
2.หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐใดบ้างที่อาจถูกฟ้องต่อศาลปกครอง
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักศาลปกครอง ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง ได้แก่คดีปกครองที่เกิดจากการใช้อำนาจโดยมิชอบของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้น คู่กรณีที่พิพาทในคดีปกครองอาจมีได้ในกรณีดังต่อไปนี้
1. เอกชนพิพาทกับหน่วยงานทางปกครอง
2. เอกชนพิพาทกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
3. หน่วยงานทางปกครองพิพาทกับหน่วยงานทางปกครอง
หน่วยงานทางปกครอง
หน่วยงานทางปกครองที่อาจถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้มีอยู่ 7 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. หน่วยราชการที่เป็นราชการส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง
2. หน่วยราชการที่เป็นราชการส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัด อำเภอ
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล องค์การบริหาร ส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัดกรุงเทพมหานคร และเมือง พัทยา
เจ้าหน้าที่ของรัฐ
เจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้นั้น ได้แก่
1. ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง คณะบุคคลหรือผู้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานทางปกครอง
2. คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท คณะกรรมการหรือบุคคล ซึ่งมีกฎหมายให้อำนาจในการออกกฎคำสั่ง หรือมติใดๆ ที่มีผลกระทบ ต่อบุคคล
3. บุคคลที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้
(1) ข้าราชการในกระทรวง กรม เช่น รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงอธิบดี ผู้อำนวยการกอง
(2) ข้าราชการในจังหวัด อำเภอ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดนายอำเภอ
3.คดีปกครองประเภทใดที่อาจฟ้องต่อศาลปกครองได้
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักศาลปกครอง 2557
คดีปกครองที่อาจฟ้องต่อศาลปกครองได้ มีอยู่ 6 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกกฎ คำสั่งทางปกครองหรือกระทำการอื่นใดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีที่ฟ้องขอให้เพิกถอนกฎ
คดีที่ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่ง
คดีที่ฟ้องขอให้ระงับการกระทำ
3 .คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายหรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร เช่น การใช้มาตรการบังคับทางปกครองเข้ารื้อถอนอาคารเกินกว่าที่จำเป็น
4.คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักศาลปกครอง (2557) ข้อควรรู้ก่อนก่อนไปศาลปกครอง
คดีที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองอาจจัดแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ คดีปกครองทีกฎหมายกำหนดไม่ให้อยู่ในอำนาจของศาลปกครองและคดีที่มิใช่คดีปกครอง โดยมีทั้งหมด 6 ประเภทดังต่อไปนี้
1.คดีที่มีคู่กรณีเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีลักษณะเป็นคดีปกครอง แต่มาตรา9 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ. 2542 บัญญัติยกเว้นไว้ไม่ให้อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภทคือ
(ก) การดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร ไม่ว่าจะเป็นการลงทัณฑ์แก่ผู้กระทำผิดต่อวินัยทหารหรือเป็น
การดำเนินการทางวินัยอย่างอื่น
(ข) การดำเนินการของคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ตามพระราช-บัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่าย
ตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ซึ่งมิใช่เป็นการพิจารณาพิพากษาคดี แต่เป็นการบริหารงานบุคคลของ ผู้
พิพากษาศาลยุติธรรม เช่น การแต่งตั้งโยกย้าย การเลื่อนตำแหน่งการลงโทษทางวินัย
(ค) คดีที่อยู่ในอำนาจของศาลชำนัญพิเศษต่างๆ ที่อยู่ในระบบศาลยุติธรรม ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นก่อนที่จะมีการจัดตั้งศาลปกครอง ได้แก่
• คดีที่อยู่ในอำนาจของศาลเยาวชนและครอบครัว เช่นการจดทะเบียนรับรองบุตร
กรณีศึกษา
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คบ.138/2563
แม้ว่าคำสั่งลงโทษทางวินัยดังกล่าว จะเป็นการใช้อำนาจตามกฏหมาย อันมีลักษณะเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งอยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ก็ตาม แต่เมื่อเป็นการใช้อำนาจระหว่างนายจ้างกับพนักงานซึ่งเป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน
กล่าวสรุป คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองสัญญาระหว่างหน่วยงานทางปกครองกับเอกชน คดีพิพาทเกี่ยวกับ สัญญาดังกล่าวต้องฟ้องต่อศาลยุติธรรม
5.ฟ้องคดีต่อศาลปกครองต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใดบ้าง
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักศาลปกครอง (2557) ข้อควรรู้ก่อนก่อนไปศาลปกครอง คดีที่ศาลปกครองมีอำนาจรับไว้พิจารณาพิพากษาได้นั้นนอกจากจะต้องเป็นคดีปกครองแล้ว ยังจะต้องปรากฏด้วยว่า ผู้ฟ้องคดีได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการฟ้องคดีครบถ้วนแล้ว ดังนี้
1. เป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองนั้น ผู้มีสิทธิฟ้องคดีจะต้องเป็น ผู้
ซึ่งได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
2. ได้ดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายตามขันตอนหรือวิธีการที่กฎหมายกำหนดแล้วในกรณีดังต่อไปนี้
• พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดว่า ในกรณีที่พนักงาน
เจ้าหน้าที่ไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ผู้ขอใบอนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุ
ใบอนุญาต มีสิทธิอุทธรณ์ต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือปลัดกระทรวงมหาดไทยภายใน 30 วัน นับแต่
วันที่ได้รับหนังสือแจ้งการไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่ต่อใบอนุญาตนั้น
ชาญชัย แสวงศักดิ์. (2556) เสนอคําฟ้องการยื่นฟ้องต่อศาล จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1. เรื่องที่นํามาฟ้องต้องเป็นคดีปกครอง และต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาล
ปกครองคือ เป็นกรณีตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
2. ต้องยื่นฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจศาลในที่นี้หมายถึงทั้งอำนาจและเขตอำนาจกล่าวคือ คดีที่อยู่
ในอำนาจของศาลปกครองชั้นต้น ก็จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นจะฟ้องไปยังศาลปกครอง สูงสุดไม่ได้
กล่าวโดยสรุป ฟ้องคดีต่อศาลปกครองต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข คดีที่ศาลปกครองมีอำนาจรับไว้พิจารณาพิพากษาได้นั้นนอกจากจะต้องเป็นคดีปกครองแล้ว ยังจะต้องปรากฏ
ด้วยว่า ผู้ฟ้องคดีได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการฟ้องคดีครบถ้วน
6.ฟ้องคดีต่อศาลปกครองต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือไม่
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักศาลปกครอง (2557) ข้อควรรู้ก่อนก่อนไปศาลปกครอง การฟ้องคดีปกครองนั้น กฎหมายวางหลักไว้ว่าผู้ฟ้องคดีไม่ต้องเสีย
ค่าธรรมเนียมศาลค่าธรรมเนียมศาลเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการฟ้องคดี ซึ่งการฟ้องคดีปกครองนั้น
กฎหมายวางหลักไว้ว่าผู้ฟ้องคดีไม่ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมศาล
นิธินันท์ สุขวงศ์ (2557) โดยปกติการฟ้องคดีปกครองต่อศาลปกครอง ผู้ฟ้องคดีไม่ต้องเสีย
ค่าธรรมเนียมศาล ตามหลักในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
สํานักวิจัยและวิชาการสํานักงานศาลปกครอง.(2564 : ออนไลน์) ธรรมเนียมศาล การฟ้องคดีต่อศาล
ปกครองโดยทั่วไปแล้วไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล เว้นแต่การฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองพิจารณาให้ใช้เงิน
คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองการฟ้องคดีต่อศาลปกครองมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
1.เตรียมเอกสาร
2.ยื่นคําฟ้อง
3.พยาน
กล่าวโดยสรุป การฟ้องคดีปกครองนั้น กฎหมายวางหลักไว้ว่าผู้ฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลค่าธรรมเนียมศาลเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการฟ้องคดี
7.ยื่นคำฟ้องคดีปกครองได้ที่ใด
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักศาลปกครอง ศาลปกครองมี 2 ชั้นศาล คือศาลปกครองชั้นต้น และศาลปกครองสูงสุด
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์(2021)
การฟ้องคดีปกครองได้บัญญัติหลักเกณฑ์วิธีการไว้ใน พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
วิธีการยื่นคำฟ้องผู้ฟ้องคดีสามารถเลือกยื่นคำฟ้องได้ 2 วิธีคือ
1. ยื่นคำฟ้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาลปกครอง
2. ยื่นคำฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนสถานที่ยื่นคำฟ้องศาลปกครองสูงสุด
กล่าวโดยสรุป จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ยื่นฟ้องต่อศาลที่ผู้ฟ้องคดีมีภูมิลำเนาหรือที่มูลคดีเกิด
สรุป
1) ศาลปกครอง เป็นองค์กรการบังคับใช้คดีกลาง และศาลปกครองเป็นศาลในระบบศาลที่มีอำนาจในการพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับการปกครองมุ่งมั่นทําหน้าที่อํานวยความยุติธรรมทางปกครองอันมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน
2) หน่วยงานทางปกครองที่อาจถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครองจึงไม่รวมถึงรัฐสภาที่ใช้อำนาจทางนิติ
บัญญัติและศาลที่ใช้อำนาจทางตุลาการ
3) คดีปกครองที่อาจฟ้องต่อศาลปกครองได้
1.เป็นคดีเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางการปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกกฎ คำสั่งหรือการ
กระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2.คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
3.คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
4).คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองสัญญาระหว่างหน่วยงานทางปกครองกับเอกชน คดีพิพาทเกี่ยวกับ สัญญาดังกล่าวต้องฟ้องต่อศาลยุติธรรม
5) ฟ้องคดีต่อศาลปกครองต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข คดีที่ศาลปกครองมีอำนาจรับไว้พิจารณาพิพากษาได้นั้นนอกจากจะต้องเป็นคดีปกครองแล้ว
6) ฟ้องคดีต่อศาลปกครองต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลการฟ้องคดีปกครองนั้น กฎหมายวางหลักไว้ว่าผู้ฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลค่าธรรมเนียมศาลเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการฟ้องคดี
7) การฟ้องคดีปกครองนั้นต้องฟ้องที่ศาลไหน จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ยื่นฟ้องต่อศาลที่ผู้ฟ้องคดีมีภูมิลำเนาหรือที่มูลคดีเกิด
เอกสารอ้างอิง
-ชาญชัย แสวงศักดิ์. (2556). ศาลปกครอง(พิมพ์ครั้งที่8). https://library.coj.go.th
-ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ให้ความหมายศาลปกครองว่า(2556) https://admincourt.go.th/
-นิธินันท์สุขวงศ์.(2557)คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ.รายงานปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงาน
ศาลปกครอง(2562)https://dl.parliament.go.th/
-สำนักประชาสัมพันธ์สำนักศาลปกครอง.(2565).คดีปกครองประเภทที่อาจถูกฟ้องกับศาลปกครอง
ได้สืบค้นเมื่อ9มกราคม2567 https://www.admincourt.go.th.
-สำนักวิจัยและวิชาการสำนักงานศาลปกครอง.(2564). https://aclib.admincourt.go.th/