การประเมินผลการปฏิบัติงาน

ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้

   สภาพปัญหาของผู้เรียนด้านวิทยาการคำนวณ ยังพบปัญหาอย่างมากในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และแยกแยะ ให้ถูกต้องตามหลักการแนวคิดเชิงคำนวณ ซึ่งผู้เรียนขาดทักษะพื้นฐานสำคัญในการคิดคำนวณและทักษะกระบวนการทางการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันบ่อยครั้งจึงส่งผลให้ผู้เรียนไม่สามารถคิด และแก้ปัญหาต่างที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นขั้นตอนตามหลักการคิดเชิงคำนวณหรือตามสถานการณ์ โจทย์ที่ครูกำหนดให้ได้เท่าที่ควร ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เท่าที่ควร เนื่องมาจากบริบทของสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงสื่อ/เทคโนโลยีของผู้เรียนค่อนข้างไม่ครอบคลุม จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะการเชิงคำนวณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น ครูผู้สอนจึงใช้วิธีการประยุกต์จากเทคโนโลยีด้วยการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning  ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนนั้น ควรมีลักษณะเร้าความสนใจของผู้เรียนท้าทายความสามารถ เข้าใจง่าย มีภาพ ประกอบ วางรูปแบบสวยงามและสามารถฝึกได้ด้วยตนเอง อันจะส่งผลให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาตามแนวคิดเชิงคำนวณและประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นทักษะมาก  เพราะเป็นอุปกรณ์ช่วยลดภาระของครู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะให้ดีขึ้น ส่งเสริมในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองในทุกที่ทุกเวลาประสบผลสำเร็จในทางจิตใจมากขึ้น รวมทั้งเป็นเครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากเรียนบทเรียนแล้ว ตลอดจนนักเรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ทำให้ครูมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียนได้ชัดเจน นักเรียนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียนซึ่งทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

ได้ดำเนินการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง อาชีพในยุคดิจิทัล วิชา เทคโนโลยี 3  โดยใช้ Microsoft powerpoit 

โดยมีตามลำดับดังนี้

1.1 การวิเคราะห์โดยศึกษาหลักการ วิธีการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

1.2 ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตร คำอธิบายรายวิชาวิทยาการคำนวณ

1.3 วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อกำหนดการเรียนรู้ที่คาดหวังและกำหนดขอบเขตเนื้อหาของแต่ละหน่วย

การเรียน เพื่อให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร โดยได้เนื้อหาจากการวิเคราะห์ 4 หน่วยย่่อย ตามลำดับดังนี้

1) อาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

2) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีกับสังคมและอาชีพ

3) ผลกระทบของเทคโนโลยีกับอาชีพ

4) การทำงานร่วมกับเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติ

1.4 กำหนดเนื้อหากับวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

2. การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

2.1 วิเคราะห์ศึกษาเอกสารตำราที่เกี่ยวกับวิธีการสร้างแบบทดสอบ และวิธีหาค่าความยากง่ายค่าความเที่ยงตรง ค่าอำนาจจำแนก และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ

2.2 กำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละหน่วยการเรียนรู้เพื่อเป็นการนำไปกำหนดข้อสอบ

2.3 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กำหนดคำถามเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 5 ข้อคำถามต่อ 1 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

2.4 สร้างตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างข้อสอบกับวัตถุประสงค์ เชิงพฤติกรรมเพื่อหา ความสอดคล้อง IOC (Index of Item-Objective Congruence)

2.5 นำตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างข้อสอบกับวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้ศึกษา

+1 แน่ใจว่า แบบทดสอบวัดตรงตามวัตถุประสงค์หรือตรงตราเนื้อหา

0 ไม่แน่ใจว่า แบบทดสอบวัดตรงตามวัตถุประสงค์หรือตรงตราเนื้อหา

–1 แน่ใจว่า แบบทดสอบไม่ได้วัดตรงตามวัตถุประสงค์หรือตรงตราเนื้อหา

2.6 หาค่าดัชนีความสอดคล้องของคำถามกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม โดยใช้สูตร IOC (Indexof Item-Objective Congruence) เพื่อหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ

เรียนเป็นรายข้อ และพิจารณาคัดเลือกข้อคาถามที่ถือว่ามีความเที่ยงตรง ตามเนื้อหาในระดับดีสามารถนำไปวัดผลได้จะต้องมีค่า IOC เกินกว่า .05 ขึ้นไป

2.7 จัดพิมพ์แบบทดสอบวัดผลวัดผลสมฤทธิ์ทางการเรียนฉบับทดลองนำไปทดลอง ใช้ (Try Out) กับกลุ่มผู้เรียนที่เคยเรียนวิชาวิทยาการคำนวณมาแล้ว เพื่อหาค่าความยากง่าย อำนาจจำแนก   

และ ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบต่อไปขณะที่ทำการทดลองใช้ทดแบบสอบ จะสังเกตพฤติกรรมการทำข้อสอบของผู้เรียน เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ ไปปรับปรุงแก้ไขแบบทดสอบ ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น

2.8 ตรวจสอบคะแนนจากการทำแบบทดสอบฉบับทดลองแล้วนำมาวิเคราะห์ว่ามี คุณภาพหรือไม่ โดยตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพของแบบทดสอบ ได้แก่ ค่าความยากง่าย อำนาจจำแนก และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ

นำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนไปใช้ในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยการให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน  ด้วยการฝึกทักษะทางการคิดตามแนวคิดเชิงคำนวณ ในรายวิชา วิทยาการคำนวณ ครูผู้สอนติดตามความก้าวหน้าจากการทำแบบฝึกเสริมทักษะในบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยพิจารณาจากทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ให้ถูกต้อง และในระหว่างการพัฒนา ครูผู้สอนนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหาร ครูผู้สอนต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อที่จะหาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้     

  2.1 เชิงปริมาณ

  ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบุญวัฒนา ร้อยละ 80 ที่เรียนในรายวิชาวิทยาการคำนวณมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น

  2.2 เชิงคุณภาพ

          การปรับประยุกต์/เทคนิค/สื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ กับเทคนิคการสอนแบบ Active Learning  รายวิชาเทคโนโลยี 3 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้